[CR] Low Season 11 วัน...แบกเป้ถึง ย่าติง [ ตอนที่ 2 ]

กระทู้รีวิว
ความเดิมจากตอนที่ 1    https://pantip.com/topic/39037892
____________________________________
Low Season 11 วัน...แบกเป้ถึง ย่าติง [ ตอนที่ 2 ]

Low Season 11 วันแบกเป้ถึง ย่าติง 
DAY 3 : ภูเขาหิมะมังกรหยก ( Jade dradon Snow Mountain ) 
https://youtu.be/mJ6FGtECaaM
................................................
เป็นวันที่พิสูจน์ร่างกายตนว่าทนต่อสภาพความสูงที่ไม่เคยชินได้หรือไม่  หลักจากค้นหาข้อมูลก่อนเดินทาง ซึ่งมีเรื่องยา Diamox กับการขึ้นที่สูง โดยก่อนเดินทาง ทางเราได้ปรึกษาหมอหลายท่าน ซึ่งทั้งหมอทั่วไป และหมอเฉพาะด้าน ...แน่นอนครับ ถามหมอ หมอก็จะห้ามตามสูตรสำเร็จทางการแพทย์  เพราะยาชนิดนี้ เป็นยาเฉพาะทางแล้วไม่เกี่ยวเนื่องโดยตรงเลยกับการขึ้นที่สูง แถมยังระบุเป็นยาอันตรายตามแพทย์สั่ง ...จึงไม่มีเหตุผลที่จะดื้อต่อคำแนะนำ 

การเตรียมตัวของเรา นอกจากจะออกกำลังกายบ้างตามความสะดวก +เดินทางด้วยรถไฟเพื่อค่อย ๆ ไต่ระดับความสูงแถมได้นอนมาอีกด้วย +อ๊อกซิเจนกระป๋อง +เครื่องดื่มและช๊อคโกแล็ตที่ให้น้ำตาลสูง  เพียงเท่านี้ ที่เหลือก็ลุ้นร่างกายของเราเองครับ 

โปรแกรมท่องเที่ยว ภูเขาหิมะมังกรหยก และ Blue Moon Valley 
- จองโปรแกรมจากทางโรงแรม  ราคา 430 หยวน/คน
- ราคานี้ ประกอบด้วย รถตู้รับส่ง(ร่วมกับนักท่องเที่ยวอื่น ๆ) , อาหารกลางวัน(หม้อไฟ) , ค่าเข้าอุทยาน ฯ ภูเขาหิมะและ Blue moon valley , ค่ากระเช้า , อีอกซิเจนกระป๋อง , เสื้อกันหนาวสีแดง ๆ  
- รถตู้มารับ หน้าโรงแรม ประมาณ 08.30 น.  และกลับ 15.00 น. ( เวลาโดยประมาณ ) 

ระหว่างการเดินทาง มองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกตั้งตระหง่าน มองดูเมฆปกคลุม ก็พอจะรู้ว่าข้างบนต้องเจอสภาพอากาศอย่างไร หลังจากรถตู้ไปส่งและจัดการเรื่องตั๋วเข้าและขึ้นลงกระเช้า นัดหมายเวลา ที่จะไปเจอกันอีกที ที่ Blue moon valley เพราะในระหว่างนั้น การเดินทางไปตามจุดดังกล่าว จะเป็นหน้าที่ของรถบัสอุทยาน ฯ ทุกอย่างที่อยู่ภายใน เป็นเอกชนสัมประทานทั้งหมดครับ ( ***ที่เน้นเรื่องนี้ เพราะปลายทางของทริปนี้ มีไฮไลท์ที่ไม่ปกติ ให้ติดตามและควรรู้ไว้ติดตัว )

1. สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ  เตรียม Passport ตามธรรมเนียมครับ ( ช่องที่ 1 )

2. เดินตามช่องมา ขึ้นรถบัสของทางอุทยานฯ

3.เข้าช่องต่อคิวขึ้นกระเช้า มาถึงจุดนี้ จะเริ่มเห็นหิมะเบา ๆ ( เพื่อความไม่ประมาท สูดอ๊อกซิเจนไว้รอเลยครับ )  ระวัง!!! มีคนแซงคิว ...ถ้าแซงมาสะกิดเขา บอก No no!!! เขาก็มาต่อหลังเราเองครับ 

4. กระเช้าเคลื่อนเข้ามาช้า ๆ  ทุกคนต้องรีบขึ้น (1 กระเช้า 8 คน) เจ้าหน้าที่จะพยายามจัดให้ขึ้นเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่เลือกที่นั่งเองเลย  ( ป.ล. ก่อนขึ้นมีจุดถ่ายรูปบนฉาก คล้าย ๆ บ้านเรา ถ่าย ๆ ไป ไม่เอารูปก็ได้ ) ในกระเช้าจะได้ยินเสียงสูดอ๊อกซิเจนกันทั่วถึง

5. อากาศค่อนข้างหนาว หิมะปกคลุมยอดเขา แนะนำว่าถ้าจะถ่ายภาพเปิดโหมดหิมะเลยครับ ในเวลาอากาศหนาวจะปรับตั้งค่ากล้องลำบาก  เพราะไม่อยากถอดถุงมือกันเลยทีเดียว ส่วนอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคต่าง ๆ  เมื่อเจออากาศหนาวเย็น ก็ต้องหมั่นเช็คสภาพการทำงานด้วย เพราะบางที แบตเตอรี่จะหมดเร็วขึ้น และระบบจะรวน ๆ  อาจจะถึงขั้นรีเซ็ตระบบใหม่ก็ได้ 

6. สภาพอากาศ ของภูเขาหิมะมังกรหยก ในช่วงมีนา ซึ่งเป็นช่วง Low season จะเห็นได้ว่าหิมะตกอยู่แทบจะตลอดเวลา และทับถมจนสูงกว่า 2 เมตร โชคดีที่ไม่ปิดให้ขึ้น เจ้าหน้าที่จะเร่งเคลียร์พื้นที่อยู่ตลอด  นอกจากความหนาวเย็นที่แทรกเข้ามาจนชาไปถึงปลายมือปลายเท้า อากาศด้านบนก็เบาบาง ควรระวังการก้ม หรือลุกนั่งกระทันหัน เพราะอาจจะทำให้วิงเวียนได้ ...ณ ตอนนี้สมาชิกภายในกลุ่มทุกคนผ่านความสูงถึง 4,500 เมตร ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งยา Diamox แต่อย่างใด ร่างกายปกติดี  แต่ความหนาวนี่หนักหน่อย อยู่นอกอาคารได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็ต้องหลบเข้ามาหาความอุ่นกว่าในอาคาร

จนกระทั่งถึงเวลาลงจากภูเขาหิมะมังกรหยก  จากสถานีด้านล่างซึ่งจะไปส่งที่ Blue moon valley ซึ่งรถตู้ที่เรามาจะจอดอยู่บริเวณดังกล่าว  ก่อนที่จะพาเราไปรับทานมื้อกลางวัน ณ ร้านอาหารแถบชุมชนใกล้ ๆ แถบนั้น 

อาหารที่เตรียมไว้ให้จะเป็นหม้อไฟรวม รวมทั้งไก่ และเนื้อจามรีเข้าไว้ในหม้อเดียว จัดเซตตามจำนวนคน นั่งทานแยกกับคณะคนจีนส่วนใหญ่ที่มาพร้อมกัน

หลังจากทานกันจนอิ่ม รถตู้ก็วกกลับไปส่งที่ Blue moon valley ซึ่งแยกออกเป็นชั้นต่าง ๆ สามารถเดินหรือนั่งรถรางเที่ยวชมได้  ...ลักษณะธารน้ำที่ละลายจากหิมะบนภูเขามังกรหยก น้ำจะมีสีเขียวอมฟ้า แต่ช่วงเวลาที่ไปอากาศจะสลัว มีหิมะตกลงมาเบา ๆ ทำให้วิวไม่สวยเท่าที่ควร แต่นั่นไม่สำคัญเท่า พวกเราที่มาด้วยกัน ไม่ค่อยอิน Blue moon valley นี้เท่าไหร่ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัว) เพราะน้ำตกในแต่ละชั้น เป็นงานประดิษฐ์ล้วน ๆ  แถมถูกครองพื้นที่ส่วนหนึ่ง เป็นสตูดิโอถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง จึงเน้นเดินเล่น นั่งเล่น แถบนั้น ดูนักท่องเที่ยวอื่น จนถึงเวลาเดินทางกลับ

รถราง ที่ไปยังจุดต่าง ๆ ในส่วนนี้มีค่าบริการเพิ่มเติม ...ส่วนด้านข้าง เป็นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าถ่ายพรีเว้ดดิ้ง ที่มีหลายคู่กันทีเดียว
 
จามรี มีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวขี่ถ่ายภาพ


กลับเข้าสู่เมือง และพักผ่อน รอช่วงค่ำคืน เพื่อกลับเข้าไปเดินที่เมืองโบราณลี่เจียงกันอีก  ซึ่งแน่นอนด้วยขนาดเมืองโบราณที่ค่อนข้างใหญ่ ยังมีอะไรให้น่าลองอีกมากมายครับ 

นี่แหละครับที่พัก ต้องเดินขึ้นบันไดกันหน่อย ...ซึ่งต้องตุนน้ำดื่มกันเป็นถัง ไว้สำหรับดื่ม หรือต้มชาร้อน ๆ จิบให้อุ่นที่ห้องพัก ทั้งนี้ เวลาที่อยู่ในห้องอุ่น ๆ นาน ๆ ร่างกายจะรู้สึกถึงการขาดน้ำ  เตรียมติดไว้ที่พักเป็นดีที่สุด ( ป.ล. ถังใหญ่ถูกกว่า แบ่งใส่ขวดเล็กได้นะเออ )    

ข้อดี อีกอย่างของที่ประเทศจีน คือ มีเวลาเยอะเลยครับ กว่าจะมืดสนิทก็ 2 ทุ่มเป็นต้นไป   

ไส้กรอกย่างบนหินร้อน ๆ อุ่นไว้ตลอดเวลา ...รสชาด จะเข้มข้นด้วยเครื่องเทศ จะมีกลิ่นกระเทียมพริกไทเน้น ๆ ถ้าคนชอบไส้กรอก ให้ "ผ่าน" ต้องลอง ราคา 10 หยวน 

หน้าตาคล้ายเค้กสับปะรด ...แต่ มันคือข้าวเหนียวกลิ่นสับปะรดอ่อน ๆ รสชาดจืดมากกกก   "ไม่ผ่าน" แต่ถ้าอยากจะลองก็ 20 หยวน หนึ่งกล่อง 3 ไม้

ชาผลไม้ ...ของดีมีให้ชิม ชิมกันตามใจชอบ มีทั้งชาสตอเบอรี่ , พีช , กุหลาบ และอื่น ๆ รสชาดหวานอ่อน ๆ แต่หอมมาก ๆ  ตักขายเป็นขีด ขีดละ 25 หยวน รวมกันหลายขีดก็ถือว่าราคาแรงกว่าชาปกติพอสมควร แต่สำหรับคอชา ต้องลอง...ชอบไม่ชอบค่อยว่ากัน

ทุเรียนกวน... ขยี้เนื้อจนป่นไม่เหลือรูปทรงทุเรียน จับห่อกระดาษฟอยล์ย่างบนเตา รสชาดหวานเหมือนทุเรียน แต่กลิ่นหอมแบบระอุ ราคาห่อฟอยล์ 25 หยวน 

หมาล่า...หันไปทางไหนก็เจอ แต่ที่นี่แต่ละไม้ไม่ปราณีปราสัย อย่างบ้านเรา จัดเต็มกันทุกไม้ ราคาก็แตกต่างกันออกไป เบสิกเลยหมูไก่ ตีเป็นเงินไทยก็เฉลี่ย 3 ไม้ร้อยบาท นั่นแล

ของฝากจากนมจามรี ...ส่วนตัวรุ้สึกถึงความหอมที่มากกว่านมวัว ทำออกมาในหลายรูปแบบ ทั้งนมร้อน ๆ  ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยวรสนม ลูกอมนม เป็นต้น ได้ชิมถือว่าอร่อย แต่ถ้าจะซื้อฝากใครห่อเล็ก ๆ ก็ตกเฉลี่ย 2-3 ร้อยบาท กันเลยทีเดียว   

หม้อไฟใหญ่ ๆ  มีไซด์ให้เลือก  พวกเราเลือกหม้อใหญ่สุด ๆ ไปเลย ใหญ่มาก ...ใหญ่ขนาดใส่ไก่ดำตุ๋น ไปได้ทั้งตัว ( มาทั้งหัวยันตีนไก่ ) น้ำจิ้มมีให้เลือก 2 แบบ แบบเผ็ดกับไม่เผ็ด เสิร์ฟมาเป็นผงเครื่องเทศ ต้องตักน้ำซุปในหม้อผสม แล้วคน ๆ ก็จะได้น้ำจิ้ม ...แต่สุดท้าย ไม่พ้น!!! น้ำจิ้มสุกี้พันท้าย เพราะทานประมาณนึง จะเลี่ยน ๆ ความมันจากไก่ดำ (ดำจริงดำยันกระดูก) หม้อนี้ 250 หยวน (1,250 บาท) ครับ  

ลี่เจียงจะมีคลองน้ำเยอะครับ  น้ำใสดีทีเดียว ...แล้วเขาก็เครมว่าเป็น "เวนิชตะวันออก"  
 
รถดับเพลิง ...เหมาะสำหรับเมืองโบราณที่มีซอกซอยเยอะมาก เข้าใจทำมากครับ

ห้องน้ำนี่สิสำคัญ ...ห้องน้ำที่นี่ถือว่าเยอะ  มีการดูแลเป็นอย่างดี สะอาดเลยละครับ ถ้าไม่เจอแจ๊คพ๊อตอะไรซะก่อน ติดทิชชูเปียกไว้เป็นดี ขนมาจากประเทศไทยได้ก็ยิ่งดีครับ ห้องน้ำถือว่าผ่าน  แต่การใช้บริการอีกเรื่องครับ 

โซนสายบันเทิงในเมืองโบราณ  บันเทิงขนาดไหน มีมาสคอทเต้นบนเวทีด้วย


ระวังหลงทางนะครับ หลงมาแล้วเกือบชั่วโมง ในเมืองโบราณ

ข้ามฝั่งถนน เดินเข้าซอยขึ้นเนินไป เป็นที่พัก .... 
________________________________
ติดตามตอนที่ 3
https://pantip.com/topic/39049899
ชื่อสินค้า:   ย่าติง-รือวา-เต้าเฉิง-แชงกรีล่า-ลี่เจียง-คุนหมิง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่