คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ละครพีเรียด ดิฉันก็มีความเห็นว่าเป็นบทที่เชย ไม่เข้ากับยุคสมัย
- แต่กลิ่นกาสะลองเป็นละครพีเรียดย้อนยุค เกิดขึ้นในสมัยที่ยึดถือผู้ชายเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นช้างเท้าหน้า ยุคที่การแต่งงานหรือการมีคู่ เกิดจากการคลุมถุงชนของพ่อแม่ ที่เห็นใครเหมาะสมกับลูกของตนเองก็จับมาแต่งงานกัน โดยไม่สนใจว่าลูกจะรักกันหรือเปล่า ดังมีคำพูดว่า อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รักกันเอง มีคำหลายคำในสมัยก่อน เช่น ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร, การมีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน คำเหล่านี้มันก็สะท้อนถึงค่านิยม ความเชื่อของคนสมัยก่อน ถูกปลูกฝังมาถึงสมัยนี้ด้วยซ้ำไป
-ยุคที่ผู้หญิงถูกเลี้ยงมาให้พึ่งผู้ชาย อยู่กับเหย้า เฝ้ากับเรือน ไม่มีปากไม่มีเสียง ต้องเชื่อฟังสามี หนักนิดเบาหน่อยต้องอดทน
-ยุคที่กฎหมายยังล้าหลัง การฆ่าแกงกันตายเหมือนผักปลาโดยกฎอาศัยกฎหมู่ของผู้มีอำนาจบารมี กฎหมายยังเอื้อมไปไม่ถึง ซึ่งสมัยนี้ก็ยังมีอยู่
ถ้าเข้าใจตามนี้คุณก็จะเข้าถึงอรรถรสในการชมละครกลิ่นกาสะลอง กลิ่นกาละลองมีข้อดีมากมายที่ถูกมองข้าม เช่น
1.มุมกล้อง มุมภาพ สวยมาก ๆ
2.ฝ่ายเสื้อผ้า หน้าผม สวยงาม
3.ภาษา วัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี อาหาร ค่านิยมต่างๆ สถานที่ต่างๆ
4.นักแสดง ผู้กำกับ คือดีงาม
สิ่งเหล่านี้มันสะท้อนถึงความใส่ใจ ความตั้งใจในการทำการบ้าน ศึกษาประวัติ วัฒนธรรมต่างๆทางภาคเหนือ ของผู้จัด ทีมงาน ตรงนี่ไม่อาจจะมองข้ามไปได้ สุดท้ายแล้วตั้งแต่ดูละครมานานมากๆ ดิฉันก็ไม่เห็นละครเรื่องไหนจะดีพร้อม สมบูรณ์ไปซะทุกอย่าง ทุกเรื่องมีจุดดี จุดด้อย แตกต่างกันไป มันอยู่ที่ว่าคุณจะโฟกัสที่จุดไหน เท่านั้น
- แต่กลิ่นกาสะลองเป็นละครพีเรียดย้อนยุค เกิดขึ้นในสมัยที่ยึดถือผู้ชายเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นช้างเท้าหน้า ยุคที่การแต่งงานหรือการมีคู่ เกิดจากการคลุมถุงชนของพ่อแม่ ที่เห็นใครเหมาะสมกับลูกของตนเองก็จับมาแต่งงานกัน โดยไม่สนใจว่าลูกจะรักกันหรือเปล่า ดังมีคำพูดว่า อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รักกันเอง มีคำหลายคำในสมัยก่อน เช่น ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร, การมีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน คำเหล่านี้มันก็สะท้อนถึงค่านิยม ความเชื่อของคนสมัยก่อน ถูกปลูกฝังมาถึงสมัยนี้ด้วยซ้ำไป
-ยุคที่ผู้หญิงถูกเลี้ยงมาให้พึ่งผู้ชาย อยู่กับเหย้า เฝ้ากับเรือน ไม่มีปากไม่มีเสียง ต้องเชื่อฟังสามี หนักนิดเบาหน่อยต้องอดทน
-ยุคที่กฎหมายยังล้าหลัง การฆ่าแกงกันตายเหมือนผักปลาโดยกฎอาศัยกฎหมู่ของผู้มีอำนาจบารมี กฎหมายยังเอื้อมไปไม่ถึง ซึ่งสมัยนี้ก็ยังมีอยู่
ถ้าเข้าใจตามนี้คุณก็จะเข้าถึงอรรถรสในการชมละครกลิ่นกาสะลอง กลิ่นกาละลองมีข้อดีมากมายที่ถูกมองข้าม เช่น
1.มุมกล้อง มุมภาพ สวยมาก ๆ
2.ฝ่ายเสื้อผ้า หน้าผม สวยงาม
3.ภาษา วัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี อาหาร ค่านิยมต่างๆ สถานที่ต่างๆ
4.นักแสดง ผู้กำกับ คือดีงาม
สิ่งเหล่านี้มันสะท้อนถึงความใส่ใจ ความตั้งใจในการทำการบ้าน ศึกษาประวัติ วัฒนธรรมต่างๆทางภาคเหนือ ของผู้จัด ทีมงาน ตรงนี่ไม่อาจจะมองข้ามไปได้ สุดท้ายแล้วตั้งแต่ดูละครมานานมากๆ ดิฉันก็ไม่เห็นละครเรื่องไหนจะดีพร้อม สมบูรณ์ไปซะทุกอย่าง ทุกเรื่องมีจุดดี จุดด้อย แตกต่างกันไป มันอยู่ที่ว่าคุณจะโฟกัสที่จุดไหน เท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 15
น่าจะเป็นเพราะสมัยนี้
คนดูชื่นชอบตัวพระนางที่ฉลาดทันคนมากกว่า
ซึ่งลึกๆมันก็เข้ากับวิถีคนยุคใหม่
ผู้หญิงปากกัดตีนถีบมากขึ้น
นางเอกคือตัวแทนคนดูเพศหญิง
พอตัวแทนเราไม่ได้ดั่งใจ ก็เลยมีอึดอัดบ้าง
ถ้าคิดในแง่ว่า กสล.คือตัวแทนหญิงไทยโบราณ ก็จะเชื่องช้าหัวอ่อนแบบนี้แหล่ะ
แต่โชคร้ายตรงที่ช่วง2-3ปีมานี้ ละครย้อนยุคทั้งไทย เกาหลี นางเอกฉลาดหมดเลย
กสล.จึงดูโชคร้าย กลายเป็นนางเอกที่คนดูไม่อยากเอาใจช่วย
ก็เลยเหลือแต่ความอึดอัด เมื่อกสล.ถูกกระทำ
ความอึดอัด ที่ลุ้นไม่ขึ้น และรู้ตอนจบแล้วว่าจะลงเอยยังไง
คนดูหลายคน จึงไม่อยากจมอยู่กับความอึดอัดนี้
แต่เราก็ยังดูต่อนะ
ชอบฝีมือของนักแสดง ชอบแสงสี มุมกล้อง การตัดต่อต่างๆ
งานประณีตมาก
คนดูชื่นชอบตัวพระนางที่ฉลาดทันคนมากกว่า
ซึ่งลึกๆมันก็เข้ากับวิถีคนยุคใหม่
ผู้หญิงปากกัดตีนถีบมากขึ้น
นางเอกคือตัวแทนคนดูเพศหญิง
พอตัวแทนเราไม่ได้ดั่งใจ ก็เลยมีอึดอัดบ้าง
ถ้าคิดในแง่ว่า กสล.คือตัวแทนหญิงไทยโบราณ ก็จะเชื่องช้าหัวอ่อนแบบนี้แหล่ะ
แต่โชคร้ายตรงที่ช่วง2-3ปีมานี้ ละครย้อนยุคทั้งไทย เกาหลี นางเอกฉลาดหมดเลย
กสล.จึงดูโชคร้าย กลายเป็นนางเอกที่คนดูไม่อยากเอาใจช่วย
ก็เลยเหลือแต่ความอึดอัด เมื่อกสล.ถูกกระทำ
ความอึดอัด ที่ลุ้นไม่ขึ้น และรู้ตอนจบแล้วว่าจะลงเอยยังไง
คนดูหลายคน จึงไม่อยากจมอยู่กับความอึดอัดนี้
แต่เราก็ยังดูต่อนะ
ชอบฝีมือของนักแสดง ชอบแสงสี มุมกล้อง การตัดต่อต่างๆ
งานประณีตมาก
ความคิดเห็นที่ 4
เราก็ชอบมาก เชื่อมือปารดามากๆเรื่องการทำบทโทรทัศน์
พอละครออกมาก็ไม่ผิดหวังปารดาเลย
เราว่าบทบททำมาแน่นกว่านิยาย มีเหตุมีผล มีปมจิตวิทยาตัวละครรองรับหมด
แปลกใจบ่อยๆที่หลายคนมองไม่เห็น
คอยตั้งคำถามบ่นว่าซ้ำซากในสิ่งที่คำตอบมันก็มีให้เห็นอยู่แล้วในละคร
แต่ส่วนที่เราไม่ชอบก็มี ซึ่งไม่ใช่เรื่องบท 55555
คือเกลียดความลุ้นเหนื่อยกับจังหวะนรกบีบคั้นหัวใจพวกนี้มาก
เกลียดเวลาที่ตัวละครมันไม่ได้ดั่งใจซักที
บ้างก็โง่บ้าไร้สติน่ารำคาญ บ้างก็อดทนเกิ๊น ใจร้ายเกิ๊น บ้าอำนาจน่าโมโหเกิ๊น
แต่ทั้งนี้ต้องแยกแยะว่าจุดนี้ไม่ใช่ความผิดของบท
เพราะมันคือเงื่อนไขที่ทำให้เหตุการณ์ดำเนินไปสู่โศกนาฏกรรมตามพล็อตตั้งต้น
ถ้าตัวละครได้ดั่งใจเรา มันก็จะเป็นอีกเรื่องนึง อีกพล็อตนึงไปเลย
ไม่ต่างจากที่โนบิตะกับโดเรมอนเข้าไปแก้ตอนจบของนิทานเงือกน้อย
ซึ่งดิสนีย์ก็ทำ คนดูก็โล่งใจพอใจ แต่ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เงือกน้อยของแอนเดอร์สันอีกต่อไป
พอละครออกมาก็ไม่ผิดหวังปารดาเลย
เราว่าบทบททำมาแน่นกว่านิยาย มีเหตุมีผล มีปมจิตวิทยาตัวละครรองรับหมด
แปลกใจบ่อยๆที่หลายคนมองไม่เห็น
คอยตั้งคำถามบ่นว่าซ้ำซากในสิ่งที่คำตอบมันก็มีให้เห็นอยู่แล้วในละคร
แต่ส่วนที่เราไม่ชอบก็มี ซึ่งไม่ใช่เรื่องบท 55555
คือเกลียดความลุ้นเหนื่อยกับจังหวะนรกบีบคั้นหัวใจพวกนี้มาก
เกลียดเวลาที่ตัวละครมันไม่ได้ดั่งใจซักที
บ้างก็โง่บ้าไร้สติน่ารำคาญ บ้างก็อดทนเกิ๊น ใจร้ายเกิ๊น บ้าอำนาจน่าโมโหเกิ๊น
แต่ทั้งนี้ต้องแยกแยะว่าจุดนี้ไม่ใช่ความผิดของบท
เพราะมันคือเงื่อนไขที่ทำให้เหตุการณ์ดำเนินไปสู่โศกนาฏกรรมตามพล็อตตั้งต้น
ถ้าตัวละครได้ดั่งใจเรา มันก็จะเป็นอีกเรื่องนึง อีกพล็อตนึงไปเลย
ไม่ต่างจากที่โนบิตะกับโดเรมอนเข้าไปแก้ตอนจบของนิทานเงือกน้อย
ซึ่งดิสนีย์ก็ทำ คนดูก็โล่งใจพอใจ แต่ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เงือกน้อยของแอนเดอร์สันอีกต่อไป
แสดงความคิดเห็น
แปลกไหมครับ ผมชอบบท กกสล
แต่ผมชอบแบบนี้ ลุ้นดี แตกต่าง ไม่น่าเบื่อ เข้าใจละคร
+ แปลกอยู่นะ ละครที่ออนพร้อม กกสล ถูกชมว่าสนุกหมด มี กกสล โดนบ่นอยู่เรื่องเดียว แต่ผมให้ใจ กกสล เรื่องเดียวครับ