คือรู้อยู่แล้วว่าน่าจะเศร้า แต่ไม่คิดว่าจะเป็นโศกนาฎกรรมแห่งความรักขนาดนี้
เผอิญNexflix มาลงพอดีเราเลยดู
เราดูแล้ว เราชอบที่บทหนังเล่าเรื่องงง่ายมาก ๆๆ ซึ่งเราชอบแบบนี้ ซึ่งเราไม่เข้าใจทำไมหนังไทย ตัดต่อสะเปะสะปะไปหมด
ยิ่งเป็นหนังของพจน์ยุคหลังแล้ว ตัดต่อไม่รู้เรื่องเลย ตัดต่อกลายเป๋นตัดแปะ เราชอบการเล่าเรื่องของหนังยุค GTH และGDH เหมือนกัน คือพล็อทก็ส่วนหนึ่งแต่การเล่าเรื่องมันเข้าใจมาก

หนังไทยในดวงใจเรามี ฟรีแลนซ์ ฉลาดแกมโกง (เรื่องนี้เราดูกับแฟนยกให้ขึ้นหิ้งในปีนั้นเลย ชนะหนังต่างประเทศที่เราไปดูหลายเรื่องเลย) เปนชู้กับผี คือหนังเหล่านี้คือหนังในดวงใจของเราจริง ๆ
และแสงกระสือเข้าใจเล่าเรื่องได้ระดับนั้นจริง ๆ คือปูมาด้ยภาพง่าย ๆ และทยอยใส่ออบเจคเข้ามา ๆ ให้สอดคล้อง
อย่างฉากแรกที่ สาย ต้องการไปบ้านโคกแต่แรก ความจริงสายอาจจะพบวิธีแก้หรือพบความจริงแต่แรก แต่กลับเจอน้อย คนที่เธออยากเจอเสียก่อน
ทำให้เรื่องมันดำเนินต่อไป พร้อมแก๊งล่ากระสือ และหนังค่อย ๆ ใส่องค์ประกอบเข้ามาเรื่อย ๆ
เป็นการเล่าแบบเงียบ ๆ แต่เข้าใจได้ มีการปูตำนานให้เรารู้สึกอินได้อีก ว่าทำไมโลกเรามีกระสือ คือมันค่อย ๆ ใส่ผ่านตัวละครน้อย ที่แทบจะกลายเป็นตัวแทนของคนเมืองแล้ว
และบทการดำเนินเรื่องของมันก็ดำเนินไป แทบฉากและภาพโพล้เพล้ทำได้น่ากลัวมาก ๆ
บทของหนังแทบไม่มีจุดไหนที่ดูไม่รู้เรื่องเลย คือดูและฟังตัวละครก็รู้เรื่องหมดแล้ว
บทของหนังสื่อถึงเรื่องราวของความรักอย่างชัดเจน
ความรักที่ใครไม่มีสิทธิเลือก ไม่ว่าจะเป็น น้อย สายหรือเจิด ทั้งสามต่างรักกันอย่างไม่มีตัวเลือก
และสุดท้ายจุดจบก็คือความเจ็บปวด เหมือนหัวใจที่ถูกทำลาย อย่างที่หนังบอกเราแล้ว
หนังเรื่องนี้คงเป็นหนักรักที่จบแบบเศร้า ๆ ไปอีกยาวนานเลย
(ตัวเอกทั้งสามคนน่ารักมาก ๆ นะ)
แสงกระสือ เพิ่งดูจบ เศร้ามาก ๆๆ เป็นภาพยนตร์รักที่เศร้ามาก ๆ
เผอิญNexflix มาลงพอดีเราเลยดู
เราดูแล้ว เราชอบที่บทหนังเล่าเรื่องงง่ายมาก ๆๆ ซึ่งเราชอบแบบนี้ ซึ่งเราไม่เข้าใจทำไมหนังไทย ตัดต่อสะเปะสะปะไปหมด
ยิ่งเป็นหนังของพจน์ยุคหลังแล้ว ตัดต่อไม่รู้เรื่องเลย ตัดต่อกลายเป๋นตัดแปะ เราชอบการเล่าเรื่องของหนังยุค GTH และGDH เหมือนกัน คือพล็อทก็ส่วนหนึ่งแต่การเล่าเรื่องมันเข้าใจมาก
หนังไทยในดวงใจเรามี ฟรีแลนซ์ ฉลาดแกมโกง (เรื่องนี้เราดูกับแฟนยกให้ขึ้นหิ้งในปีนั้นเลย ชนะหนังต่างประเทศที่เราไปดูหลายเรื่องเลย) เปนชู้กับผี คือหนังเหล่านี้คือหนังในดวงใจของเราจริง ๆ
และแสงกระสือเข้าใจเล่าเรื่องได้ระดับนั้นจริง ๆ คือปูมาด้ยภาพง่าย ๆ และทยอยใส่ออบเจคเข้ามา ๆ ให้สอดคล้อง
อย่างฉากแรกที่ สาย ต้องการไปบ้านโคกแต่แรก ความจริงสายอาจจะพบวิธีแก้หรือพบความจริงแต่แรก แต่กลับเจอน้อย คนที่เธออยากเจอเสียก่อน
ทำให้เรื่องมันดำเนินต่อไป พร้อมแก๊งล่ากระสือ และหนังค่อย ๆ ใส่องค์ประกอบเข้ามาเรื่อย ๆ
เป็นการเล่าแบบเงียบ ๆ แต่เข้าใจได้ มีการปูตำนานให้เรารู้สึกอินได้อีก ว่าทำไมโลกเรามีกระสือ คือมันค่อย ๆ ใส่ผ่านตัวละครน้อย ที่แทบจะกลายเป็นตัวแทนของคนเมืองแล้ว
และบทการดำเนินเรื่องของมันก็ดำเนินไป แทบฉากและภาพโพล้เพล้ทำได้น่ากลัวมาก ๆ
บทของหนังแทบไม่มีจุดไหนที่ดูไม่รู้เรื่องเลย คือดูและฟังตัวละครก็รู้เรื่องหมดแล้ว
บทของหนังสื่อถึงเรื่องราวของความรักอย่างชัดเจน
ความรักที่ใครไม่มีสิทธิเลือก ไม่ว่าจะเป็น น้อย สายหรือเจิด ทั้งสามต่างรักกันอย่างไม่มีตัวเลือก
และสุดท้ายจุดจบก็คือความเจ็บปวด เหมือนหัวใจที่ถูกทำลาย อย่างที่หนังบอกเราแล้ว
หนังเรื่องนี้คงเป็นหนักรักที่จบแบบเศร้า ๆ ไปอีกยาวนานเลย
(ตัวเอกทั้งสามคนน่ารักมาก ๆ นะ)