#ความรู้สึกหลังชม #ToyStory3 #2010 #จบรอบ3 #แบบไม่สปอย #smwo
Toy Story 3 (2010) คะแนน 10/10
#แนวเรื่อง #สนุกสนาน #เฮฮา #เน้นเนื้อเรื่อง #ดราม่า #ซึ้งกินใจ #สุขสันต์
***หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เขียนล้วนๆ หากจะถามว่าอะไรเป็นเกณฑ์การให้คะแนนนั่นก็คือตัวผู้เขียนนั่นเองจอบอ.
#เกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง
เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมคิดว่ามันดีมากๆ และดีมากจนไม่กล้าดู สำหรับผมหนังที่ดีมากๆมันจะตราติดตรึงใจกัดกินจิกกัดฝังรากลึกไปถึงจิตใจและมีน้อยเรื่องที่ทำได้และToy Story 3 ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าจะให้ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ๆล่าสุดที่ผมไม่กล้าจะดูอีกรอบอีกเรื่องก็คงจะเป็น La La Land (2016) ละมั้งที่ยังเป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่กล้าดูเพราะว่ามันเศร้าเกินไป ผมยังจำความรู้สึกตอนดูจบได้ดี กับเรื่องนี้ก็เช่นกัน หวังว่าคงจะเข้าใจแล้วนะว่าทำมันรอบดูมันถึงน้อย เพราะผมไม่กล้าดูนั่นเอง
Toy Story 3 (2010) เป็นงานกำกับของ Lee Unkrich แต่ยังคงได้ John Lasseter มาเขียนบทให้เช่นเดิม และสำหรับนักพากย์สองตัวละครเอกก็ยังคงเหมือนเดิมเช่นเดียวกันทั้งไทยและเทศ ออกฉายเมื่อ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2010 (เทศกาลภาพยนตร์ทาโอมีน่า) 18 มิถุนายน ค.ศ. 2010 (สหรัฐอเมริกา) 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 (สหราชอาณาจักร) 12 สิงหาคม ค.ศ. 2010 (ประเทศไทย) ความยาวของหนัง 103 นาที จากทุนสร้าง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำรายได้ไปถึง 1,067 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แน่นอนละที่มันจะทำกำไรมหาศาลกับภาคต่อที่(ตอนนั้น)เป็นบทสรุปของไตรภาคหนังของเล่นสุดซาบซึ้งกินใจ กับเรื่องราวที่ผ่านมากว่า10ปีเหมือนกับภาคต่อของหนัง
#เรื่องย่อ
Toy Story 3 (2010) จะเล่าเรื่องราวภาคต่ออีกหลายสิบปีเหมือนของหนัง กับเรื่องราวของ Andy เด็กหนุ่มวัย17ปีที่ต้องไปเรียนมหาลัยและเป็นสัจจะธรรมของชีวิตที่เมื่อเด็กๆโตขึ้นก็จะไม่เล่นของเล่น Andy ก็เป็นหนึ่งในนั้นแม้ตัวละครของเล่นหลายๆตัวจะทำใจไว้แล้วแต่เมื่อถึงตอนนั้นจริงๆทุกๆคนกลับแทบจะยอมรับไม่ได้ คิดแต่ว่า Andy จะทิ้งพวกเขา จึงเป็นหน้าที่ของ Woody ตัวเอกของ Andy และของเราที่ต้องไปพาทุกคนกลับมา
#ความประทับใจ
ด้วยความที่เป็นภาคต่อที่รอนานกว่าสิบปี และคำเล่าลือจากเพื่อนๆหรืออินเทอร์เน็ตในยุคนั้นก็เล่าถึงกิตติศัพท์คำเล่าลือกว่าที่ผมจะได้ดูก็นานเหมือนกันหลังจากที่มันออกแผ่น และต้องบอกว่ามันก็ซาบซึ่งกินใจประทับใจจริงๆจนแทบจะกลั้นใจไม่อยู่ตอนได้ดู มันเป็นหนังอีกไม่กี่เรื่องที่ผมเกือบเสียน้ำตาให้แม้จะไม่เคยเสียให้เรื่องไหนก็ตามแต่เรื่องนี้ก็เกือบๆแล้ว กับฉากเกือบท้ายๆบนพื้นหลังสีแดงและความเงียบของการยอมจากไปอย่างสงบของพวกเขา
ก่อนที่จะจบด้วยฉากจบสุดท้ายที่ก็พอจะเดาได้ตั้งแต่ภาคแรกหรือภาคที่แล้วแล้ว กับดราม่าการจากลาสุดซาบซึ้งที่ต้องบอกว่ามันเหมือนกับการจากลาของเรากับเหล่าของเล่นของเรา หรือหนังเรื่องนี้ของเราที่อยู่กับเรามาหลายสิบปี มันเป็นความรู้สึกที่เราไม่ได้อยากรับรู้มากหรอกถึงการจากลา
เพราะฉะนั้นตอนที่ได้ข่าวจะสร้างภาคใหม่เมื่อหลายปีผมก็ไม่ค่อยเชื่อแต่ในเมื่อมันสร้างออกมาแล้วผมก็คงพลาดไม่ได้ที่จะดู เพียงแต่ว่าผมคงไม่กล้าดูภาคต่ออย่างToy Story 4ที่(เขาว่ากันว่า)จะเป็นบทสรุปส่งท้ายเรื่องนี้จริงๆ ผมคงไม่กล้าดูในโรงหรอก กลัวร้องไห้นำตาแตก ไว้ซักวันผมทำใจกับบทสรุปที่คิดว่าส่งท้ายและคิดว่ามันคงทำได้ดีกว่าภาค 3 ผมคงทำใจดูมันได้เอง
#สรุป
Toy Story 3 (2010) เป็นภาคต่ออีกหนึ่งเรื่องที่สนุกครบรสครบเครื่องทุกเรื่องทุกส่วนทุกตอนรวมไปถึงภาคก่อนๆมันจะมีผลกระทบตกทอดมาเรื่อยๆให้เราตราตรึงใจฉากสุดท้าย และถ้าใครที่มีหรือเคยมีของเล่น ฉากสุดท้ายของจากการลาอำลาตัวละครคงเป็นอีกฉากที่พร้อมจะกระฉากน้ำตาไปจากพวกคุณ ขอบคุณที่อ่านจบจบทั้ง3ภาคครับ ขอบคุณครับ
ขอจบการบรรยาย #ความรู้สึกหลังดู Toy Story 3 (2010) ไว้เพียงเท่านี้หากมีคำผิดหรือพิมพ์ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมาไว้ที่นี้หรือหากใครต้องการแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ที่ด้านล่าง หรือหากผมเข้าใจเรื่องราวใดในเรื่องผิดไปก็สามารถติชมได้ด้านล่าง สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ใช้ชีวิตให้มีสติและมีสติเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก เพราะเวลามีค่า ควรใช้เวลากับคนที่เรารัก ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านไม่อยากเสียเวลาในการทำสิ่งใดๆก็จงจำไว้ไม่แน่ผมอาจเคยทำมาแล้ว อยากให้ท่านมาเสพข้อมูลจากผมได้ที่นี่ ที่เพจ “โลกแคบ”ขอบคุณครับ
***ฝากแฟนเพจ โลกแคบ ของผมด้วยครับ จะเป็นเพจที่เป็นความรู้สึกของผมกับหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องภาพยตร์ การ์ตูน ซี่รี่ หรือเรื่องต่างๆที่ผมเคยรับชม จะพยายามแสดงออกมาตามที่ผมเข้าใจและซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองที่สุด ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/โลกแคบ-2180885415324096 
#ความรู้สึกหลังชม #ToyStory3 #2010 #จบรอบ3 #แบบไม่สปอย #smwo
Toy Story 3 (2010) คะแนน 10/10
#แนวเรื่อง #สนุกสนาน #เฮฮา #เน้นเนื้อเรื่อง #ดราม่า #ซึ้งกินใจ #สุขสันต์
***หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เขียนล้วนๆ หากจะถามว่าอะไรเป็นเกณฑ์การให้คะแนนนั่นก็คือตัวผู้เขียนนั่นเองจอบอ.
#เกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง
เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมคิดว่ามันดีมากๆ และดีมากจนไม่กล้าดู สำหรับผมหนังที่ดีมากๆมันจะตราติดตรึงใจกัดกินจิกกัดฝังรากลึกไปถึงจิตใจและมีน้อยเรื่องที่ทำได้และToy Story 3 ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าจะให้ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ๆล่าสุดที่ผมไม่กล้าจะดูอีกรอบอีกเรื่องก็คงจะเป็น La La Land (2016) ละมั้งที่ยังเป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่กล้าดูเพราะว่ามันเศร้าเกินไป ผมยังจำความรู้สึกตอนดูจบได้ดี กับเรื่องนี้ก็เช่นกัน หวังว่าคงจะเข้าใจแล้วนะว่าทำมันรอบดูมันถึงน้อย เพราะผมไม่กล้าดูนั่นเอง
Toy Story 3 (2010) เป็นงานกำกับของ Lee Unkrich แต่ยังคงได้ John Lasseter มาเขียนบทให้เช่นเดิม และสำหรับนักพากย์สองตัวละครเอกก็ยังคงเหมือนเดิมเช่นเดียวกันทั้งไทยและเทศ ออกฉายเมื่อ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2010 (เทศกาลภาพยนตร์ทาโอมีน่า) 18 มิถุนายน ค.ศ. 2010 (สหรัฐอเมริกา) 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 (สหราชอาณาจักร) 12 สิงหาคม ค.ศ. 2010 (ประเทศไทย) ความยาวของหนัง 103 นาที จากทุนสร้าง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำรายได้ไปถึง 1,067 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แน่นอนละที่มันจะทำกำไรมหาศาลกับภาคต่อที่(ตอนนั้น)เป็นบทสรุปของไตรภาคหนังของเล่นสุดซาบซึ้งกินใจ กับเรื่องราวที่ผ่านมากว่า10ปีเหมือนกับภาคต่อของหนัง
#เรื่องย่อ
Toy Story 3 (2010) จะเล่าเรื่องราวภาคต่ออีกหลายสิบปีเหมือนของหนัง กับเรื่องราวของ Andy เด็กหนุ่มวัย17ปีที่ต้องไปเรียนมหาลัยและเป็นสัจจะธรรมของชีวิตที่เมื่อเด็กๆโตขึ้นก็จะไม่เล่นของเล่น Andy ก็เป็นหนึ่งในนั้นแม้ตัวละครของเล่นหลายๆตัวจะทำใจไว้แล้วแต่เมื่อถึงตอนนั้นจริงๆทุกๆคนกลับแทบจะยอมรับไม่ได้ คิดแต่ว่า Andy จะทิ้งพวกเขา จึงเป็นหน้าที่ของ Woody ตัวเอกของ Andy และของเราที่ต้องไปพาทุกคนกลับมา
#ความประทับใจ
ด้วยความที่เป็นภาคต่อที่รอนานกว่าสิบปี และคำเล่าลือจากเพื่อนๆหรืออินเทอร์เน็ตในยุคนั้นก็เล่าถึงกิตติศัพท์คำเล่าลือกว่าที่ผมจะได้ดูก็นานเหมือนกันหลังจากที่มันออกแผ่น และต้องบอกว่ามันก็ซาบซึ่งกินใจประทับใจจริงๆจนแทบจะกลั้นใจไม่อยู่ตอนได้ดู มันเป็นหนังอีกไม่กี่เรื่องที่ผมเกือบเสียน้ำตาให้แม้จะไม่เคยเสียให้เรื่องไหนก็ตามแต่เรื่องนี้ก็เกือบๆแล้ว กับฉากเกือบท้ายๆบนพื้นหลังสีแดงและความเงียบของการยอมจากไปอย่างสงบของพวกเขา
ก่อนที่จะจบด้วยฉากจบสุดท้ายที่ก็พอจะเดาได้ตั้งแต่ภาคแรกหรือภาคที่แล้วแล้ว กับดราม่าการจากลาสุดซาบซึ้งที่ต้องบอกว่ามันเหมือนกับการจากลาของเรากับเหล่าของเล่นของเรา หรือหนังเรื่องนี้ของเราที่อยู่กับเรามาหลายสิบปี มันเป็นความรู้สึกที่เราไม่ได้อยากรับรู้มากหรอกถึงการจากลา
เพราะฉะนั้นตอนที่ได้ข่าวจะสร้างภาคใหม่เมื่อหลายปีผมก็ไม่ค่อยเชื่อแต่ในเมื่อมันสร้างออกมาแล้วผมก็คงพลาดไม่ได้ที่จะดู เพียงแต่ว่าผมคงไม่กล้าดูภาคต่ออย่างToy Story 4ที่(เขาว่ากันว่า)จะเป็นบทสรุปส่งท้ายเรื่องนี้จริงๆ ผมคงไม่กล้าดูในโรงหรอก กลัวร้องไห้นำตาแตก ไว้ซักวันผมทำใจกับบทสรุปที่คิดว่าส่งท้ายและคิดว่ามันคงทำได้ดีกว่าภาค 3 ผมคงทำใจดูมันได้เอง
#สรุป
Toy Story 3 (2010) เป็นภาคต่ออีกหนึ่งเรื่องที่สนุกครบรสครบเครื่องทุกเรื่องทุกส่วนทุกตอนรวมไปถึงภาคก่อนๆมันจะมีผลกระทบตกทอดมาเรื่อยๆให้เราตราตรึงใจฉากสุดท้าย และถ้าใครที่มีหรือเคยมีของเล่น ฉากสุดท้ายของจากการลาอำลาตัวละครคงเป็นอีกฉากที่พร้อมจะกระฉากน้ำตาไปจากพวกคุณ ขอบคุณที่อ่านจบจบทั้ง3ภาคครับ ขอบคุณครับ
ขอจบการบรรยาย #ความรู้สึกหลังดู Toy Story 3 (2010) ไว้เพียงเท่านี้หากมีคำผิดหรือพิมพ์ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมาไว้ที่นี้หรือหากใครต้องการแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ที่ด้านล่าง หรือหากผมเข้าใจเรื่องราวใดในเรื่องผิดไปก็สามารถติชมได้ด้านล่าง สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ใช้ชีวิตให้มีสติและมีสติเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก เพราะเวลามีค่า ควรใช้เวลากับคนที่เรารัก ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านไม่อยากเสียเวลาในการทำสิ่งใดๆก็จงจำไว้ไม่แน่ผมอาจเคยทำมาแล้ว อยากให้ท่านมาเสพข้อมูลจากผมได้ที่นี่ ที่เพจ “โลกแคบ”ขอบคุณครับ
***ฝากแฟนเพจ โลกแคบ ของผมด้วยครับ จะเป็นเพจที่เป็นความรู้สึกของผมกับหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องภาพยตร์ การ์ตูน ซี่รี่ หรือเรื่องต่างๆที่ผมเคยรับชม จะพยายามแสดงออกมาตามที่ผมเข้าใจและซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองที่สุด ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/โลกแคบ-2180885415324096