
สรุปผลวิ่งฮาล์ฟมาราธอนในรายการเทนซิงฮิลลารี่เอเวอเรสต์มาราธอน 2019 ที่เนปาล เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2562 ตั้งแต่เดินทางฉายเดี่ยวไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค. - 4 มิ.ย. 2562 ใช้เวลาอยู่ 15 วัน

... เสือออยขอเล่าเรื่องหลังเวทีแข่งขันวิ่งบนที่สูงที่สุดในโลกที่ชื่อขึ้นคือ "เทนซิง ฮิลลารี่ เอเวอเรสต์ มาราธอน" เป็นประเพณีวิ่งมาราธอนจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม ทุกปี ขึ้นตรงกับวันครบรอบ 66 ปีของปู่เทนซิง นอร์เกย เชอร์ปา กับปู่เซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี่ นักปีนเขาทั้งคู่เป็นคนแรกปีนขึ้นซัมมิตยอดเขาเอเวอเรสต์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 1953
.. รายการแข่งขันวิ่งเทรลสูงบนที่สุดในโลก ปีนี้จัดครั้งที่ 17 ได้จัดแข่งวิ่งสามประเภทคือ อัลตร้าเอ็กเพรส 60 กม., ฟูลมาราธอน 42 กม. และฮาล์ฟมาราธอน 21 กม.
.. ฉันได้เลือกรุ่นฮาล์ฟมาราธอนโอเพ่น โดยไม่มีแบ่งกลุ่มอายุ ไม่แบ่งเพศ และต้องแย่งชิงอันดับที่ 1-3 เอากันเอง ฉันได้เขียนไปติชมให้ผู้จัดงานเพื่อปีหน้าขอเพิ่มรางวัลสำหรับนักวิ่งผู้หญิงให้เสมอภาคด้วย เพราะมีผู้หญิงร่วมด้วยกัน 6 คน งานนี้ฉันเกือบจะได้ที่ 3 แล้วดันหมดแรงขายวบลงหอบเหนื่อยโดนนักวิ่งสาวจีนแซงหน้าไปแล้ว ฉันวิ่งสู้ฟัดแทบหมดแรง หอบใหญ่ (แถมตัวเองมีโรคประจำตัวเป็นหืดหอบ) มาถึงนัมเชได้อันดับที่ 4 ในกลุ่มหญิงฮาล์ฟ และติดอันดับที่ 11 ใน 13 คน แหะๆๆ หนีบ๊วยได้พอดี ทำเวลาไว้ที่ 6 ชม. 34 นาที 50 วินาที
.. ฉันริอ่านความท้าทายมั่น(หัว)ใจด้วยอายุเพียง 51 ปี กล้าลงวิ่งตามเส้นทางเทรคกิ้งยอดนิยมจากดิงโบเช 4,395 ม. - นัมเชบาร์ซ่า 3,440 ม. ภายในวันเดียว ต้องหนีคัทเวลาให้ได้แน่ ...สู้ถึงหายใจให้เป็นปกติทำได้ แม้ว่าฉันไม่ได้ซ้อมวิ่งยาว เนื่องจากทำงานราชการเต็มวัน ไม่มีเวลาซ้อมวิ่งจริงจัง มีแต่ปั่นจักรยานไปทำงานราชการทุกวันเท่านั้น
.. ผู้จัดงานบอกว่าเห็นประเมินผลแล้วรับเรื่องไว้พิจารณาได้แน่นอน นอกจากผู้จัดงานบอกฉันว่าไม่ให้นักวิ่งเนปาลีลงรุ่นฮาล์ฟมาราธอนร่วมกันต้องแยกกลุ่มให้ไปลงรุ่นอัลตร้ากับฟูลมาราธอนได้..เนื่องจากรุ่นฮาล์ฟมาราธอนเป็นเส้นทางวิ่งค่อนข้างยาก เหมาะสมกับมือใหม่วิ่ง เดินเทรคได้
.. ต้องวิ่งให้ทันคัทออฟเวลาคือ 21 กม. ภายใน 8 ชั่วโมง 42 กม. ภายใน 15 ชม. และ 60 กม. ภายใน 20 ชม. ถ้าไม่ทันคัทออฟจะโดนสั่งห้ามวิ่งต่อและค้างคืนสักพักค่อยวิ่งต่อในตอนเช้าวันถัดไปจบเส้นชัยที่นัมเชได้
.. เรื่องใช้เวลาลางานราชการไม่เกินสองอาทิตย์ หรือ 15 วัน ต้องทำหนังสือขออนุญาตลาพักผ่อนไปต่างประเทศแนบใบสมัครวิ่งรายการนี้พร้อมใบรับรองแพทย์และสลิปธนาคารกรุงเทพที่โอนเงินไปแล้วให้สำเนาแนบเรื่องอื่นไปด้วย แจ้งล่วงหน้า 1 เดือนอย่างเนิ่นๆ นี่ทำเรื่องหลายขั้นตอนใช้เวลาเยอะด้วย ต้องคุยกับเพื่อนร่วมงานให้ผลัดเปลี่ยนงานทำแทนฉันด้วย..เพื่อลดกระทบผลการงานหน้าที่ของตัวเองให้น้อยที่สุด
.. ฉันจัดการบริหารเวลาและเดินทางแบบเร่งด่วนไปคนเดียว ได้เคลียร์ตั๋วสายการบินไปลุกลาเพื่อนัด "น้องโอม" (โอมอัฐ อธิคารี) เพื่อนฉันเป็นไกด์ฮินดูที่มีลักษณะเด่นชัดคือทรงผมเร็กเก้จาเมก้า น้องโอมก็ลงวิ่งฟูลมาราธอนด้วย ได้แก้ปัญหาไร้ผู้ดูแลฉันคนเดียวจึงโทรเรียกไกด์คนที่สองเป็นหนุ่มคนลุกลาชื่อ "กุมาร ทามัง" มาเป็นการ์ดแมนดูแลเสือออยแทนน้องโอม ได้เวลาเดินทางไปสามคนพร้อมกัน ไม่มีปัญหาเรื่องสื่อสารพูดอังกฤษได้ สองไกด์รับคุยได้อย่างดีไม่ขัดข้องเลย ใช้วิธีสื่อสารผ่านมือถือแอพล่ามแปลภาษาง่ายๆ เนื่องจากฉันเป็นคนพิการทางการได้ยินและสื่อสารความหมายกึ่งหูหนวกกึ่งหูตึง พูดอ่านเขียนได้เหมือนคนปกติทั่วไปจึงไม่เป็นอุปสรรคเดินเทรคคนเดียวได้ ฉันได้เพื่อนใหม่เพิ่มมีมากมายรู้สึกสนุกสนาน ไม่เครียด ไม่เป็นซึมเศร้าอีกแล้ว...ขอบอกว่าติดใจวิ่งสนุกมากจนลืมเรื่อง AMS ไปเลย ฉันจะขยายวิ่งฟูลแน่ในสองปีข้างหน้า ต้องซ้อมวิ่งยาวทั้งอึดนานกว่านี้

.. เชิญชมประมวลภาพเหตุการณ์ที่น่าประทับใจให้เสือออยตั้งใจหวนกลับมาแข่งวิ่งฟูลมาราธอนแน่นอน..ขอเก็บตังค์เยอะสองเท่าของงบประมาณเงินตัวเองด้วยนะคะ เพราะว่าเส้นทางเทรคแบบส่วนตัว EBC มีใช้เงินจ่ายสูงกว่า...ราคาแพงตามระดับความสูงเรื่อยไปถึงเบสแคมป์ด้วย ฉันใช้งบสามหมื่นสามพันรูปีอาร์เอสไปอยู่ 11 วัน (ลุกลา-นัมเช-ดิงโบเช-นัมเช-ลุกลา) ได้สบายมากค่ะ
สรุปผลวิ่ง 21 Km. Tenzing Hillary Everest Marathon 2019
.. รายการแข่งขันวิ่งเทรลสูงบนที่สุดในโลก ปีนี้จัดครั้งที่ 17 ได้จัดแข่งวิ่งสามประเภทคือ อัลตร้าเอ็กเพรส 60 กม., ฟูลมาราธอน 42 กม. และฮาล์ฟมาราธอน 21 กม.
.. ฉันได้เลือกรุ่นฮาล์ฟมาราธอนโอเพ่น โดยไม่มีแบ่งกลุ่มอายุ ไม่แบ่งเพศ และต้องแย่งชิงอันดับที่ 1-3 เอากันเอง ฉันได้เขียนไปติชมให้ผู้จัดงานเพื่อปีหน้าขอเพิ่มรางวัลสำหรับนักวิ่งผู้หญิงให้เสมอภาคด้วย เพราะมีผู้หญิงร่วมด้วยกัน 6 คน งานนี้ฉันเกือบจะได้ที่ 3 แล้วดันหมดแรงขายวบลงหอบเหนื่อยโดนนักวิ่งสาวจีนแซงหน้าไปแล้ว ฉันวิ่งสู้ฟัดแทบหมดแรง หอบใหญ่ (แถมตัวเองมีโรคประจำตัวเป็นหืดหอบ) มาถึงนัมเชได้อันดับที่ 4 ในกลุ่มหญิงฮาล์ฟ และติดอันดับที่ 11 ใน 13 คน แหะๆๆ หนีบ๊วยได้พอดี ทำเวลาไว้ที่ 6 ชม. 34 นาที 50 วินาที
.. ฉันริอ่านความท้าทายมั่น(หัว)ใจด้วยอายุเพียง 51 ปี กล้าลงวิ่งตามเส้นทางเทรคกิ้งยอดนิยมจากดิงโบเช 4,395 ม. - นัมเชบาร์ซ่า 3,440 ม. ภายในวันเดียว ต้องหนีคัทเวลาให้ได้แน่ ...สู้ถึงหายใจให้เป็นปกติทำได้ แม้ว่าฉันไม่ได้ซ้อมวิ่งยาว เนื่องจากทำงานราชการเต็มวัน ไม่มีเวลาซ้อมวิ่งจริงจัง มีแต่ปั่นจักรยานไปทำงานราชการทุกวันเท่านั้น
.. ผู้จัดงานบอกว่าเห็นประเมินผลแล้วรับเรื่องไว้พิจารณาได้แน่นอน นอกจากผู้จัดงานบอกฉันว่าไม่ให้นักวิ่งเนปาลีลงรุ่นฮาล์ฟมาราธอนร่วมกันต้องแยกกลุ่มให้ไปลงรุ่นอัลตร้ากับฟูลมาราธอนได้..เนื่องจากรุ่นฮาล์ฟมาราธอนเป็นเส้นทางวิ่งค่อนข้างยาก เหมาะสมกับมือใหม่วิ่ง เดินเทรคได้
.. ต้องวิ่งให้ทันคัทออฟเวลาคือ 21 กม. ภายใน 8 ชั่วโมง 42 กม. ภายใน 15 ชม. และ 60 กม. ภายใน 20 ชม. ถ้าไม่ทันคัทออฟจะโดนสั่งห้ามวิ่งต่อและค้างคืนสักพักค่อยวิ่งต่อในตอนเช้าวันถัดไปจบเส้นชัยที่นัมเชได้
.. เรื่องใช้เวลาลางานราชการไม่เกินสองอาทิตย์ หรือ 15 วัน ต้องทำหนังสือขออนุญาตลาพักผ่อนไปต่างประเทศแนบใบสมัครวิ่งรายการนี้พร้อมใบรับรองแพทย์และสลิปธนาคารกรุงเทพที่โอนเงินไปแล้วให้สำเนาแนบเรื่องอื่นไปด้วย แจ้งล่วงหน้า 1 เดือนอย่างเนิ่นๆ นี่ทำเรื่องหลายขั้นตอนใช้เวลาเยอะด้วย ต้องคุยกับเพื่อนร่วมงานให้ผลัดเปลี่ยนงานทำแทนฉันด้วย..เพื่อลดกระทบผลการงานหน้าที่ของตัวเองให้น้อยที่สุด
.. ฉันจัดการบริหารเวลาและเดินทางแบบเร่งด่วนไปคนเดียว ได้เคลียร์ตั๋วสายการบินไปลุกลาเพื่อนัด "น้องโอม" (โอมอัฐ อธิคารี) เพื่อนฉันเป็นไกด์ฮินดูที่มีลักษณะเด่นชัดคือทรงผมเร็กเก้จาเมก้า น้องโอมก็ลงวิ่งฟูลมาราธอนด้วย ได้แก้ปัญหาไร้ผู้ดูแลฉันคนเดียวจึงโทรเรียกไกด์คนที่สองเป็นหนุ่มคนลุกลาชื่อ "กุมาร ทามัง" มาเป็นการ์ดแมนดูแลเสือออยแทนน้องโอม ได้เวลาเดินทางไปสามคนพร้อมกัน ไม่มีปัญหาเรื่องสื่อสารพูดอังกฤษได้ สองไกด์รับคุยได้อย่างดีไม่ขัดข้องเลย ใช้วิธีสื่อสารผ่านมือถือแอพล่ามแปลภาษาง่ายๆ เนื่องจากฉันเป็นคนพิการทางการได้ยินและสื่อสารความหมายกึ่งหูหนวกกึ่งหูตึง พูดอ่านเขียนได้เหมือนคนปกติทั่วไปจึงไม่เป็นอุปสรรคเดินเทรคคนเดียวได้ ฉันได้เพื่อนใหม่เพิ่มมีมากมายรู้สึกสนุกสนาน ไม่เครียด ไม่เป็นซึมเศร้าอีกแล้ว...ขอบอกว่าติดใจวิ่งสนุกมากจนลืมเรื่อง AMS ไปเลย ฉันจะขยายวิ่งฟูลแน่ในสองปีข้างหน้า ต้องซ้อมวิ่งยาวทั้งอึดนานกว่านี้
.. เชิญชมประมวลภาพเหตุการณ์ที่น่าประทับใจให้เสือออยตั้งใจหวนกลับมาแข่งวิ่งฟูลมาราธอนแน่นอน..ขอเก็บตังค์เยอะสองเท่าของงบประมาณเงินตัวเองด้วยนะคะ เพราะว่าเส้นทางเทรคแบบส่วนตัว EBC มีใช้เงินจ่ายสูงกว่า...ราคาแพงตามระดับความสูงเรื่อยไปถึงเบสแคมป์ด้วย ฉันใช้งบสามหมื่นสามพันรูปีอาร์เอสไปอยู่ 11 วัน (ลุกลา-นัมเช-ดิงโบเช-นัมเช-ลุกลา) ได้สบายมากค่ะ