[CR] รีวิว Work and Travel 2018 ที่ได้มากกว่าเงินคือประสบการณ์!!

วันนึงเราเล่น facebook ก็ดันไปเห็นรูปเมื่อสองปีที่เเล้วเเจ้งเตือน

โฮ....นี่สองปีเเล้วหรอที่เราไป work and travel 

พอนึกย้อนกลับไปมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริงๆนะ 

เรียกได้ว่าครบรสเลยอะ มีเรื่องจะเล่าเยอะมากกก (ก.ล้านตัว)

นี่ก็คิดอยู่ว่าจะเขียนหมดไหม555แต่จะพยายามเรียบเรียงให้ได้มากที่สุดนะ

.

.

ปะ เราไปเริ่มกันเล้ยยย!!

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโครงการ Work and Travel กันก่อนนะ

โครงการ Work and Travel USA เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1-4 และนักศึกษาระดับปริญญาโทที่มีอายุไม่เกิน 28 ปีที่ต้องการใช้เวลาในช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ โดยการทำงานและท่องเที่ยวในแต่ละรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะเวลา 3-4 เดือนในช่วงปิดภาคฤดูร้อน ตั้งแต่พฤษภาคม-สิงหาคม ซึ่งงานภายใต้โครงการ Work and Travel มีหลากหลายประเภทให้เลือก เช่น โรงแรม รีสอร์ท สวนสนุก ร้านอาหาร ฟาสฟู๊ด ร้านขายของที่ระลึก และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อหาประสบการณ์การทำงานและใช้ชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกา!!

- ขั้นตอนแรก -

ก็หาข้อมูลว่ามีเอเจ้นไหนบ้าง ซึ่งก็มีเยอะะะมากกกให้เลือก หาอ่านรีวิวจากในเน็ตได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ก็พิจารณาจากข้อตกลงในการสมัครต่างๆ ค่าสมัคร แล้วก็งานที่เราอยากทำว่าเจ้นไหนเหมาะกับเรามากที่สุด ส่วนตัวเราเลือกไปกับ OEG นะเพราะว่าเป็นเจ้นที่มีมานานแล้ว รีวิวก็ดีพอสมควร ราคาก็กำลังดี ที่สำคัญไม่บังคับจองตั๋ว!! พอเราสมัครเข้าร่วมโครงการ(สมัครได้ทางออนไลน์) พอสมัครเสร็จ พี่ๆ oeg ก็จะนัดสัมภาษณ์วัดระดับภาษา ก็จะมีระดับ 5 -10 งานที่เราเลือกได้จะอิงตามระดับภาษาของเรา เพราะฉะนั้นเตรียมตัวไปวัดระดับกันดีๆนะ พอเรารู้ระดับภาษาแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือ ''ขั้นตอนการจองงาน'' เราก็อ่านรีวิวมาบ้างว่า เจ้นนี้จองงานยากกกกก แต่ก็ไม่คิดว่าจะยากขนาดเน้!!! อารมณ์แบบกดบัตรคอนเสิรต์อะแกกกกกก คิดดู! แต่ไม่ต้องคิดมากนะ ที่ๆใช่เดี๋ยวมันก็ได้เอง

หลังจากกดงานมาเป็นเดือนๆ เราก็ได้งานตำเเหน่ง.... Housekeeping ที่ Travelodge Hotel Spearfish,South Dakota ได้เรท $9 ต่อชั่วโมง ค่าบ้าน $300 ต่อเดือน พอเรากดงานเสร็จแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือสัมภาษณ์กับนายจ้าง ขั้นตอนไม่มีอะไรมาก เขาก็ถามคำถามทั่วไป ขั้นตอนสุดท้ายยยยย ที่หลายๆคนกลัวก็คือสัมภาษณ์วีซ่า J1 เรื่องเอกสารต่างๆ พี่ๆที่ oeg จะเป็นคนบอกเองว่าใช้อะไรบ้าง เราเเค่จัดการเตรียมให้ครบก็พอ แล้วก็นับวันรอสัมภาษณ์ หึหึ อีกอย่างคือพี่ๆที่ oeg ให้คำปรึกษาดีมากกกก ไม่เข้าใจอะไรก็โทรไปปรึกษาได้ตลอดเลย แบบทำให้รู้สึกคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเจ้นนี้

ขั้นตอนเกือบสุดท้าย (ที่หลายๆคนกลัว)

Take a deep breath นะคะทุกคน อยากบอกว่ามันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเตรียมตัวมาดี ก็ไม่ต้องกังวล เราจำได้ว่าวันสัมภาษณ์เราตื่นเต้นมากกกกกก แต่เราก็คิดในใจนะมาขนาดนี้เเล้วเราต้องทำให้ได้ !! เราโดนถามน้อยมากก พอผ่านเเล้วเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย!! 

เย้ !! พอวีซ่าผ่านแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็หาตั๋วเครื่องบิน เราซื้อผ่านเอเจ้นนึง ราคารวมไป-กลับ 40,000 บาท(หาเองน่าจะถูกกว่านี้)

ขาไป : BKK>>NRT>>DFW>>RPP

ขากลับ : RPP>>SFO>>LAX>>JFK>>HND>>BKK

-สรุปค่าใช้จ่าย-

1 ค่าโครงการ 45,000 บาท (สมัครรอบเเรกๆจะได้ส่วนลดเยอะ)

2 ค่าจองงาน 6,500 บาท (จ่ายหลังกดงานได้)

3 ค่าวีซ่า+SEVIS 9,500 บาท

4 ค่าเครื่อง 40,000 บาท (อันนี้เเนะนำให้หาเอง)

รวมเป็น 101,000 บาทจ้า

                                                                                                       .

 พอเอกสารครบ ตั๋วเครื่องบินพร้อม เราก็รอเวลาเดินทางอย่างเดียว ไปลุยกัน!! 

กินอิ่ม นอนหลับยาวๆ รอเปลี่ยนเครื่อง

 

แต่จู่ๆเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ตอนที่เราเปลี่ยนเครื่องที่ DFW ต้องบอกก่อนว่าเรามีเวลาเปลี่ยนเรื่องประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเราพลาดเองเเหละที่ไม่เช็คเวลาให้ดีๆ ถ้าใครเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินใหญ่ๆอย่าง DFW เพื่อนๆควรเผื่อเวลาต่อเครื่อ สัก 2-3 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย 

หลายๆคนคงอยากรู้เเล้วว่าเราเจอเหตการณ์อะไร ก็คือเราเจอซุ่มตรวจนั้นเองจ้า!! เป็นอะไรที่ช็อคมากกกก เพราะไม่คาดคิดเลยว่าจะเจอกับตัวเอง!

คือเราพยายามบอกเจ้าหน้าที่เเล้วนะว่าเรามีต่อเครื่องอีก 30 นาทีเขาก็โนสนโนเเคร์เลยจ้ะ (งงมากกกเเม่) จนสุดท้ายเราตกเครื่อง...วินาทีที่รู้แล้วว่าตกเครื่องเเน่ๆ คือเเพนิคมาก อะไรวะ ยังไงต่อ เกิดมาไม่เคยตกเครื่องเลย ไม่เคยเจอซุ่มตรวจเลยเว้ยย ตอนนั้นคือต้อง ไอ เเฮฟ สติ อย่างเดียวเลยค่ะ (หน้าเเม่ลูกเกดลอยมา) ตอนนั้นคือรีบวิ่งไปที่เกตแล้วบอกพนักงานตรงนั้น ว่าเออเราโดนซุ่มตรวจมาเลยตกเครื่อง...เขาก็ติดต่อประสานงานแล้วก็ได้ยินข่าวดีคือ มีเครื่องไปเมืองที่เราทำงาน แต่ต้องรออีก 5 ชั่วโมง เราก็โอเคตกลง(ไม่เสียเงินเพิ่มนะ)คือตอนนั้นต้องรีบต่อซิมแล้วโทรหานายจ้างเลยเพราะเรานัดให้เค้ามารับที่สนามบิน 

เราอยากบอกทุกคนเลยนะเหตการณ์ไม่คาดฝันเเบบนี้ เกิดได้กับทุกคนเพราะฉะนั้นมีสติ คิดเเพลนบีไว้ในหัวตลอด แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีเอง