คิดอยู่นานมากว่าจะมาบอกเล่าเรื่องราว ในพันทิปดีไหม (ใช้เวลาคิด1ปีกว่าๆ 555+) หลังจากการคิดหลายตลบ รวมถึงมีการแจ้งเตือนจากสถานฑูตเรื่องการโจรกรรมในประเทศสวีเดน และชุกชุมมากในสต็อคโฮม!!! จึงมาตั้งกระทู้บอกเล่าเรื่อง ตั้งแต่กระเป๋าโดนขโมย และการที่ต้องใช้ Temporary Passport เดินทางต่อในอีก 2ประเทศ ซึ่งมีความทุกลักทุเล มากกว่าคิดไว้
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว เราวางแผนเดินทางเที่ยว Stockholm Iceland Russia 5- 17 เมย 61 โดยเดินทาง 4 คน มีเรา แฟนเรา พี่สาว และเพื่อนพี่
ตอนที่ 1 เมื่อฉันโดนขโมยกระเป๋า ในร้านกาแฟเล็กๆ ที่ SWEDEN!!!!
ทุกครั้งในการไปเที่ยว เราจะมีกระเป๋าคล้องคอ ซึ่งใส่เงินจำนวนมาก ซึ่งจะคล้องไว้ด้านในเสื้ออีกที และแบ่งเงินจำนวนน้อยพกในกระเป๋าตังค์ ซึ่งเราทำแบบนี้ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ และวันแรกที่ไปถึงเราก็คล้องแบบนี้
แต่.....ในวันที่2 ที่เกิดเหตุนั้น เราคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เราเอาเงินจำนวนมากใส่เป้ ไว้ในช่องลึกที่สุด ในที่สุด หยิบยากที่สุด เพื่อป้องกัน การโดนล้วง (ใครจะคิดว่าจะโดนขโมยทั้งกระเป๋า -“-)
โดยแฟนเรา เป็นคนช่วยสะพายกระเป๋า เเละเอาเงินส่วนใหญ่ทั้งหมดใส่ในเป้เช่นเดียวกัน
สถานที่เกิดเหตุคือร้าน “Espresso house” ซึ่งเป็นร้านชื่อดัง ร้านที่เกิดเหตุอยู่ในย่าน Old town แหล่งท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก (ร้านเล็กมาก นั่งได้แค่ประมาณ 30 คน)
เราสั่งกาแฟกินกันปกติ โดยเรานั่งโต๊ะกลางร้าน หน้าเคาเตอร์ชงกาแฟ หลังจากแฟนเราสั่งกาแฟมาเสร็จก็วางกระเป๋าไว้ใต้โต๊ะ โดยกระเป๋าพิงกับขาอยู่ เราก็นั่งเล่น นั่งมองคนเดินไปเดินมา เซลฟี่กัน โดยที่ไม่มีจังหวะที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เลย ตอนเซลฟี่ก็หันไปบริเวณทางคนเดิน รู้ตัวอีกทีกระเป๋าได้ถูกขโมยไปแล้ว!!! ซึ่งไม่มีจังหวะลุกออกจากโต๊ะเลย เราก็ถามพนักงานถึงกล้องวงจรปิด (พนักงานแจ้งว่าไม่มี!!!)
(ตลกร้ายคือ วันแรกเราก็มานั่งที่ร้านนี้ มุมในสุดติดห้องน้ำ วางกระเป๋า วางโทรศัพท์ กล้องไว้บนโต๊ะ และลุกออกจากโต๊ะโดยไม่มีคนเฝ้า ประมาณ 20 วินาที ของทุกอย่างอยู่ครบ พอคิดย้อนหลังแล้ว ตอนนั้นเราประมาทมาก แต่..ไม่หายนะ ฮ่าๆ )
เมื่อเราตั้งสติได้ เรากับแฟนเลยออกจากร้าน วิ่งตามหาเผื่อยังอยู่แถวนี้ หรือทิ้งเอกสารเรา Passport หรือกระเป๋าไว้ เราวิ่งฝั่ง Old town ทุกซอย เปิดถังขยะทุกใบ ทั้งซอยเล็ก ซอยใหญ่ จนวิ่งข้ามฝั่ง มาฝั่งเมือง เปิดถังขยะดูทุกใบ ก็ไม่เจอ (ถังขยะทุกใบใน old town เราจับมาครบหมดแล้ว 555)
จนเราเจอคุณตำรวจ เราขอความช่วยเหลือ คุณตำรวจก็ช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีมาก ให้เบอร์โทรเรามา แล้วก็บายๆ
หลังจากวิ่งวนๆ ราว ชม นึง เราเริ่มทำใจว่าคงไม่เจอแล้ว จึงเรียบเรียงระบบความคิด อะไรหายบ้าง ต้องแจ้งอะไร จึงกลับไปที่ร้านเดิมเพื่อไปหา เพื่อนร่วมทริปอีก 2 คน และติดต่อสถานฑูตไทยในกรุงStockholm และสิ่งแรกที่ต้องทำคือเตรียมเอกสารทำ Temporary Passport เล่มเขียวนั่นเอง .........

ตอนที่ 2 เมื่อ Passport หายเราต้องตั้งสติ และเดินหน้าต่อ....
หลังจากที่เราติดต่อสถานฑูตได้แล้ว (ต้องโทรเบอร์ฉุกเฉินถึงจะติด) สอบถามเรียบร้อยแล้วว่า เราสามารถใช้ Temporary Passport เดินทางต่อไป Icelandได้ จากนั้นเราก็เตรียมเอกสารที่จำเป็น คือ
-สำเนา Passport (ซึ่งเรามีอยู่แล้ว)
-สำเนา หน้าวีซ่า (เราถ่ายไว้เรียบร้อย)
-บัตรประชาชน (ของเราหาย ของแฟนเราอยู่ แต่เรามีสำเนาใช้แทนได้)
-ใบแจ้งความ
-รูปถ่าย (สามารถถ่ายได้ตามรถไฟใต้ดิน รับเฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น)
-เงิน 100sek (ค่าดำเนินการ)
ซึ่งใบแจ้งความเนี่ย ต้องไปแจ้งที่สถานีตำรวจ ซึ่งวันที่เกิดเหตุเป็นวันเสาร์ เราไม่รู้ว่าปิดกี่โมง ถามพี่สถานฑูตก็บอกไม่แน่ใจ
ตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย1 แล้ว เราจึงต้องรีบที่สุด เราต้องกึ่งเดิน กึ่งวิ่งข้ามเกาะ ลากพี่ๆ2คนมาด้วย เดินไป วิ่งไป โทรระงับบัตรเครดิตไป ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน หลังจากที่คุ้ยถังขยะทั่วเกาะแล้ว ยังมีแรงวิ่งไปสถานีตำรวจอีก 55
และเราได้แจ้งความเรียบร้อย อารมณ์เหมือนบันทึกประจำวันบ้านเรา เหมือนไม่มีการดำเนินการหาหรือตาม หรือสอบสวนให้
สิ่งที่หายไปพร้อมกระเป๋า
เรา - Passport 2เล่ม(เล่มเก่า /เล่มใหม่) บัตรประชาชน บัตรเครดิต2ใบ บัตรเดบิต ใบขับขี่ เงินยูโรจำนวนมาก เงินRubจำนวนหนึ่ง ฯลฯ
(สิ่งที่เหลืออยู่เงินสวีเดนนิดเดียว และบัตรเครดิต1ใบ)
แฟนเรา - Passport 2เล่ม(เล่มเก่า /เล่มใหม่) เงินยูโรจำนวนมาก เงินRubจำนวนหนึ่ง ฯลฯ
(สิ่งที่เหลืออยู่เงินสวีเดนนิดเดียว บัตรประชาชน บัตรเครดิต ATM ใบขับขี่)
และ กล้องโกโปร
แต่ตอนนั้น สิ่งที่กังวลสุดๆไม่ใช่ Passport แต่เป็นใบขับขี่สากลของเรา!!!!! ลองถามสถานฑูตไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ คนละหน่วยงานกัน แล้วเรากับแฟนทำใบขับขี่สากลมาแค่ 2คน!!! หมายความว่าถ้าหายไป ทริปไอซ์แลนด์อาจจะล่ม!!!
ตอนนั้นเรามั่นใจมากว่า ใบขับขี่สากลเราอยู่ในเป๋าเป้ด้วย!!
เราจึงส่งเมล์ไปคุยกับ บริษัทรถเช่า แจ้งว่าเอกสารเราหายถูกขโมย เราสามารถใช้ใบขับขี่ไทย(ที่มีภาษาอังกฤษด้วย ได้มั้ย) เพราะแฟนเรายังมีใบขับขี่ไทย แต่ของเราหายไปแล้ว......
บริษัทรถเช่า ตอบเรากลับมาด้วยความรวดเร็ว ว่า ได้!!! เราก็สบายใจ จากนี้ทริปเราเดินต่อได้แล้ว ถึงแม้จะสามารถขับได้คนเดียว.......
หลังจากผ่านร้อน ผ่านหนาว แจ้งความส่งe-mailให้สถานฑูต เรียบร้อย เราก็ไปเที่ยวต่อแบบมึนๆเอ๋อ อาการปวดเท้าก็มา (ความตื่นเต้น ความลนลานหายไป ความเจ็บเข้ามาแทนที่)
กลับที่พัก แบบบอบซ้ำ ทั้งร่างกายและจิตใจ แฟนเรา คุ้ยๆหาเอกสารที่เหลืออยู่ และเจอ!!!!!! ใบขับขี่สากล ของเรา 2คน เรารอดแล้ว ทริปเราไม่ล่ม ไม่ทำทริปพี่สาว 2คนล่มไปด้วย!!!!
ปล.ควรถ่ายเอกสาร ถ่ายสำเนาทุกอย่าง รูปด้วย ส่งเข้า e-mail ตัวเองไว้ ตอนเราเกิดเรื่อง เราไม่มีรูปถ่ายใบขับขี่สากลเลย เลยไม่หลักฐานเอกสารใดๆ โชคดีที่ผ่านไปได้ด้วยดี
ถ้าคิดว่าเรื่องจะจบสวยงาม บริบูรณ์แล้วล่ะก็.....คุณคิดผิด
เมื่อฉันถูกขโมยกระเป๋าที่ Stockhlom แล้วต้องเดินทางต่ออีก 2 ประเทศ ด้วย Temporary Passport
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว เราวางแผนเดินทางเที่ยว Stockholm Iceland Russia 5- 17 เมย 61 โดยเดินทาง 4 คน มีเรา แฟนเรา พี่สาว และเพื่อนพี่
ตอนที่ 1 เมื่อฉันโดนขโมยกระเป๋า ในร้านกาแฟเล็กๆ ที่ SWEDEN!!!!
ทุกครั้งในการไปเที่ยว เราจะมีกระเป๋าคล้องคอ ซึ่งใส่เงินจำนวนมาก ซึ่งจะคล้องไว้ด้านในเสื้ออีกที และแบ่งเงินจำนวนน้อยพกในกระเป๋าตังค์ ซึ่งเราทำแบบนี้ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ และวันแรกที่ไปถึงเราก็คล้องแบบนี้
แต่.....ในวันที่2 ที่เกิดเหตุนั้น เราคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เราเอาเงินจำนวนมากใส่เป้ ไว้ในช่องลึกที่สุด ในที่สุด หยิบยากที่สุด เพื่อป้องกัน การโดนล้วง (ใครจะคิดว่าจะโดนขโมยทั้งกระเป๋า -“-)
โดยแฟนเรา เป็นคนช่วยสะพายกระเป๋า เเละเอาเงินส่วนใหญ่ทั้งหมดใส่ในเป้เช่นเดียวกัน
สถานที่เกิดเหตุคือร้าน “Espresso house” ซึ่งเป็นร้านชื่อดัง ร้านที่เกิดเหตุอยู่ในย่าน Old town แหล่งท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก (ร้านเล็กมาก นั่งได้แค่ประมาณ 30 คน)
เราสั่งกาแฟกินกันปกติ โดยเรานั่งโต๊ะกลางร้าน หน้าเคาเตอร์ชงกาแฟ หลังจากแฟนเราสั่งกาแฟมาเสร็จก็วางกระเป๋าไว้ใต้โต๊ะ โดยกระเป๋าพิงกับขาอยู่ เราก็นั่งเล่น นั่งมองคนเดินไปเดินมา เซลฟี่กัน โดยที่ไม่มีจังหวะที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เลย ตอนเซลฟี่ก็หันไปบริเวณทางคนเดิน รู้ตัวอีกทีกระเป๋าได้ถูกขโมยไปแล้ว!!! ซึ่งไม่มีจังหวะลุกออกจากโต๊ะเลย เราก็ถามพนักงานถึงกล้องวงจรปิด (พนักงานแจ้งว่าไม่มี!!!)
(ตลกร้ายคือ วันแรกเราก็มานั่งที่ร้านนี้ มุมในสุดติดห้องน้ำ วางกระเป๋า วางโทรศัพท์ กล้องไว้บนโต๊ะ และลุกออกจากโต๊ะโดยไม่มีคนเฝ้า ประมาณ 20 วินาที ของทุกอย่างอยู่ครบ พอคิดย้อนหลังแล้ว ตอนนั้นเราประมาทมาก แต่..ไม่หายนะ ฮ่าๆ )
เมื่อเราตั้งสติได้ เรากับแฟนเลยออกจากร้าน วิ่งตามหาเผื่อยังอยู่แถวนี้ หรือทิ้งเอกสารเรา Passport หรือกระเป๋าไว้ เราวิ่งฝั่ง Old town ทุกซอย เปิดถังขยะทุกใบ ทั้งซอยเล็ก ซอยใหญ่ จนวิ่งข้ามฝั่ง มาฝั่งเมือง เปิดถังขยะดูทุกใบ ก็ไม่เจอ (ถังขยะทุกใบใน old town เราจับมาครบหมดแล้ว 555)
จนเราเจอคุณตำรวจ เราขอความช่วยเหลือ คุณตำรวจก็ช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีมาก ให้เบอร์โทรเรามา แล้วก็บายๆ
หลังจากวิ่งวนๆ ราว ชม นึง เราเริ่มทำใจว่าคงไม่เจอแล้ว จึงเรียบเรียงระบบความคิด อะไรหายบ้าง ต้องแจ้งอะไร จึงกลับไปที่ร้านเดิมเพื่อไปหา เพื่อนร่วมทริปอีก 2 คน และติดต่อสถานฑูตไทยในกรุงStockholm และสิ่งแรกที่ต้องทำคือเตรียมเอกสารทำ Temporary Passport เล่มเขียวนั่นเอง .........
ตอนที่ 2 เมื่อ Passport หายเราต้องตั้งสติ และเดินหน้าต่อ....
หลังจากที่เราติดต่อสถานฑูตได้แล้ว (ต้องโทรเบอร์ฉุกเฉินถึงจะติด) สอบถามเรียบร้อยแล้วว่า เราสามารถใช้ Temporary Passport เดินทางต่อไป Icelandได้ จากนั้นเราก็เตรียมเอกสารที่จำเป็น คือ
-สำเนา Passport (ซึ่งเรามีอยู่แล้ว)
-สำเนา หน้าวีซ่า (เราถ่ายไว้เรียบร้อย)
-บัตรประชาชน (ของเราหาย ของแฟนเราอยู่ แต่เรามีสำเนาใช้แทนได้)
-ใบแจ้งความ
-รูปถ่าย (สามารถถ่ายได้ตามรถไฟใต้ดิน รับเฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น)
-เงิน 100sek (ค่าดำเนินการ)
ซึ่งใบแจ้งความเนี่ย ต้องไปแจ้งที่สถานีตำรวจ ซึ่งวันที่เกิดเหตุเป็นวันเสาร์ เราไม่รู้ว่าปิดกี่โมง ถามพี่สถานฑูตก็บอกไม่แน่ใจ
ตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย1 แล้ว เราจึงต้องรีบที่สุด เราต้องกึ่งเดิน กึ่งวิ่งข้ามเกาะ ลากพี่ๆ2คนมาด้วย เดินไป วิ่งไป โทรระงับบัตรเครดิตไป ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน หลังจากที่คุ้ยถังขยะทั่วเกาะแล้ว ยังมีแรงวิ่งไปสถานีตำรวจอีก 55
และเราได้แจ้งความเรียบร้อย อารมณ์เหมือนบันทึกประจำวันบ้านเรา เหมือนไม่มีการดำเนินการหาหรือตาม หรือสอบสวนให้
สิ่งที่หายไปพร้อมกระเป๋า
เรา - Passport 2เล่ม(เล่มเก่า /เล่มใหม่) บัตรประชาชน บัตรเครดิต2ใบ บัตรเดบิต ใบขับขี่ เงินยูโรจำนวนมาก เงินRubจำนวนหนึ่ง ฯลฯ
(สิ่งที่เหลืออยู่เงินสวีเดนนิดเดียว และบัตรเครดิต1ใบ)
แฟนเรา - Passport 2เล่ม(เล่มเก่า /เล่มใหม่) เงินยูโรจำนวนมาก เงินRubจำนวนหนึ่ง ฯลฯ
(สิ่งที่เหลืออยู่เงินสวีเดนนิดเดียว บัตรประชาชน บัตรเครดิต ATM ใบขับขี่)
และ กล้องโกโปร
แต่ตอนนั้น สิ่งที่กังวลสุดๆไม่ใช่ Passport แต่เป็นใบขับขี่สากลของเรา!!!!! ลองถามสถานฑูตไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ คนละหน่วยงานกัน แล้วเรากับแฟนทำใบขับขี่สากลมาแค่ 2คน!!! หมายความว่าถ้าหายไป ทริปไอซ์แลนด์อาจจะล่ม!!!
ตอนนั้นเรามั่นใจมากว่า ใบขับขี่สากลเราอยู่ในเป๋าเป้ด้วย!!
เราจึงส่งเมล์ไปคุยกับ บริษัทรถเช่า แจ้งว่าเอกสารเราหายถูกขโมย เราสามารถใช้ใบขับขี่ไทย(ที่มีภาษาอังกฤษด้วย ได้มั้ย) เพราะแฟนเรายังมีใบขับขี่ไทย แต่ของเราหายไปแล้ว......
บริษัทรถเช่า ตอบเรากลับมาด้วยความรวดเร็ว ว่า ได้!!! เราก็สบายใจ จากนี้ทริปเราเดินต่อได้แล้ว ถึงแม้จะสามารถขับได้คนเดียว.......
หลังจากผ่านร้อน ผ่านหนาว แจ้งความส่งe-mailให้สถานฑูต เรียบร้อย เราก็ไปเที่ยวต่อแบบมึนๆเอ๋อ อาการปวดเท้าก็มา (ความตื่นเต้น ความลนลานหายไป ความเจ็บเข้ามาแทนที่)
กลับที่พัก แบบบอบซ้ำ ทั้งร่างกายและจิตใจ แฟนเรา คุ้ยๆหาเอกสารที่เหลืออยู่ และเจอ!!!!!! ใบขับขี่สากล ของเรา 2คน เรารอดแล้ว ทริปเราไม่ล่ม ไม่ทำทริปพี่สาว 2คนล่มไปด้วย!!!!
ปล.ควรถ่ายเอกสาร ถ่ายสำเนาทุกอย่าง รูปด้วย ส่งเข้า e-mail ตัวเองไว้ ตอนเราเกิดเรื่อง เราไม่มีรูปถ่ายใบขับขี่สากลเลย เลยไม่หลักฐานเอกสารใดๆ โชคดีที่ผ่านไปได้ด้วยดี
ถ้าคิดว่าเรื่องจะจบสวยงาม บริบูรณ์แล้วล่ะก็.....คุณคิดผิด