สวัสดีครับ
ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาแล้วล่ะ
แต่เมื่อเช้าเห็นเพื่อนไปเที่ยวมาเลเซีย เลยนึกถึงประสบการณ์ครั้งนี้ของตัวเองได้ เลยอยากเอามาแขร์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้อ่านกัน
สำหรับบางท่านอาจจะเคยเจอเรื่องนี้แล้ว ทราบดีอยู่แล้ว แต่สำหรับบางท่านอาจจะยังไม่เคยเจอก็ลองเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นประสบการณ์นะครับ
สำหรับตัวผมเองไม่เคยเจอเรื่องนี้มาก่อน เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอนึกถึงทีไรก็ตลกตัวเองทุกที 55555555
ผมเป็นนักเดินทางมือใหม่ครับ พึ่งเริ่มหัดเที่ยวต่างประเทศได้ไม่นาน ด้วยความกลัวทั้งเรื่องภาษา เรื่องวัฒนธรรมต่าง ๆ
ทำให้ไม่มีประสบการณ์ด้านการเดินทาง ด้าน ตม. เท่าไหร่
จนเมื่อสองปีก่อนได้ลองไปเที่ยวไต้หวันกับเพื่อน ก็รู้สึกว่าไม่ได้ยากนี่หว่า ทำให้เริ่มกล้าออกเดินทาง ไปเป็นกลุ่มบ้าง ไปกับเพื่อนสองคนบ้าง
เคยไปเที่ยว ไต้หวัน ฮ่องกง พม่า มาครั้ง 3-4 ครั้งเนี่ยละครับ ส่วนมากจะบินที่สุวรรณภูมิครับ Full Service โหลดกระเป๋าไป เราก็เดินขึ้นเครื่องชิวๆ
แต่ทริปนี้ นัดกันกะเพื่อน 2 คนครับ อยากไปมาเลเซีย ไปถ้ำบาตู ไปกัน 2 วัน 1 คืนเอง เลยตัดสินใจจัดทริปแบบประหยัด
ไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองครับ บินแอร์เอเชีย ครับ ไม่โหลดกระเป๋า เราจะแบ็คแพ็คกันไปครับ กระเป๋าคนละใบพอ
โดยปกติ คุณพ่อเป็นคนสูบบุหรี่ครับ ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ พ่อก็จะฝากซื้อบุหรี่ทุกครั้ง ขาออกจากประเทศเรา 1 แท่ง ขาออกจากประเทศเค้า 1 แท่ง
ทุกครั้งเลยครับ ครั้งนี้ก็เช่นกันครับ หลังจากผ่าน ตรวจคนเข้าเมืองที่ดอนเมืองเรียบร้อยเราก็จัดการหาซื้อบุหรี่ทันที พ่อดูด Winton ครับ
1 Passport ซื้อได้ 1 แท่ง ผมไปกับเพื่อน 1 คน ก็เลยขอยืม Passport เพื่อนซื้อ 1 แท่ง
สรุปได้บุหรี่มา 2 แท่ง >> พนักงานก็แยกถุงเป็น 2 ใบ ใส่บุหรี่ใส่ใบเสร็จไปในถุง ถุงละ 1 แท่ง !!!!!! <<
ก็อย่างที่บอกแหละครับ ปกติผมบินสุวรรณภูมิ เราโหลดกระเป๋าไปแล้ว เราก็สะพายกระเป๋าใบน้อยๆ บุหรี่ที่ผมซื้อที่สุวรรณภูมิผมก็ต้องถือไปอย่างนั้น
แต่ครั้งนี้ เราแบ็คแพ็คกันมากระเป๋าใบใหญ่เหลือที่อีกเยอะ ผมเลยเอาบุหรี่ออกจากถุงแล้วเอาใส่กระเป๋าผมคนเดียวเลย 2 แท่ง แล้วทิ้งถุงนั้นไป !!!!
เราเดินทางกันปกติครับ จนมาถึง ตม. ของมาเลเซีย ก็ผ่าน ตม.ไปอย่างปกตินะครับ
หลังจากผ่าน ตม. ไปแล้ว เราจะเจอจุดสแกนกระเป๋า ซึ่งเราก็เห็นบางคนเดินออกไปได้เลย แต่เรากระเป๋าใหญ่มั้งเค้าเลยขอให้เรากับเพื่อนสแกนกระเป๋า
เราก็เอาเข้าสายพานไปแบบปกติ แล้วก็เดินมารอที่ท้ายสายพานเพื่อรับกระเป๋า แต่..... กระเป๋าเพื่อนไหลออกมาครับแต่ของผมมันไม่มาครับ
เจ้าหน้าที่ 2 คนก็ไปมุงที่หน้าจอ ผมนึกในใจเวรละกู ตอนแรกคิดว่าเป็นกล้อง gopro แน่ๆ ครับเพราะมีกระเป๋ากล้อง มีขาตั้งกล้อง มีไม้ 3Way
มันจะยาวๆ เวลาพับอาจจะเหมือนมีดพับ เจ้าหน้าที่ก็ขอให้เราเดินตามกลับไปที่จุด ตม. แต่ไม่ได้กลับไปที่เคาเตอร์ ตม. นะครับ เป็นโต๊ะหลังเคาเตอร์แล้วเรียก เจ้าหน้าที่ ตม. มา 1 ท่าน ตอนนั้นคือในใจคิดว่าตายแน่ๆ กลับบ้านแน่นอน ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ดีมาก ถ้าคะแนนเต็ม 10 ให้คะแนนตัวเองสัก 5 จะได้มั้ง
เจ้าหน้าที่ ตม. 1 ท่าน เจ้าหน้าที่ที่สแกนกระเป๋า 1 ท่าน เรากับเพื่อน 1 คน ยืนเงียบอยู่ตรงโต๊ะ ..
สักพัก เจ้าหน้าที่ ตม. บอกให้เราเปิดกระเป๋า open your bag.. เราก็เปิดเฉยๆ พออ้ากระเป๋า ก็ถึงบางอ้อเลยครับ
บุหรี่ 2 แท่ง อยู่ในกระเป๋า เด่นชัดเลย เราพอจะเดาสถานการณ์ออกเลย เค้าคงหาว่าเราขโมยมาแน่ๆ เพราะลงเครื่องมาก็ผ่านร้านขายพวกนี้อยู่บ้าง
ตอนแรกก็เคยสงสัยนะครับ ทำไมเวลาซื้อบุหรี่ ใน ตม. เค้าไม่รวมถุงให้เรา จะแยกตลอดเวลา ก็ถึงบางอ้อตรงนี้แหละ
คำถามที่เค้าถามเราคือ where are you from? - where are you buy? and where are your plastic bag?
พอฟังคำถามก็ยิ่งกลัวเลย ได้แต่ตอบไปแบบสั่นๆ ด้วยภาษาอังกฤษระดับล่าง ๆ ตอนนั้นทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษามือมาหมดครับ
เอิ่มมม.....I from thailand and I buy from Departure of thailand. I put in my bag because I can not หิ้ว (ทำท่าหิ้ว) คือพูดไปว่าหิ้วจริงๆ เพราะเราพูดไม่ได้จริงๆ หิ้วจะพูดยังไง
and 2 in my bag because my bag is empty but my friend bag is full of clothes แล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่า เราต้องหาใบเสร็จสิ เอามายืนยันกับเค้า
เลยเทกระเป๋าเลย เพราะเราทิ้งแต่ถุง ไม่ได้ทิ้งใบเสร็จไปด้วย (เก็บใบเสร็จไว้เบิกเงินพ่อ) พอเราเทกระเป๋าออกมา เจอใบเสร็จ
เราเลยเอาบุหรี่จับคู่กับใบเสร็จ แล้วบอกว่า อันนี้ของฉัน อันนี้ของเพื่อนฉัน เจ้าหน้าที่ก็เอาใบเสร็จกับบุหรี่ไปดู พักใหญ่ๆเลยครับ ดูกัน 2 คน คุยกันด้วยภาษาท้องถิ่นขอองเค้า ตอนนั้นคือ สั่นไปหมดเลยครับ สำหรับเราคือเรื่องเล็กๆ แต่สำหรับเจ้าหน้าที่สนามบิน กฏคือกฏ ไม่มีเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ทั้งภาษาอีก ตอนนั้หันไปบอกเพื่อน ซวยละกู ถ้าสงสัยก็ยึดไปเลยนะ อย่าพาไปไหนอีก อย่าพาไปโรงพัก อย่าพาไปสอบสวน 555555
พอผ่านไปพักนึก สัก 5 นาทีได้มัน ตม. เค้าก็หันมาแล้วบอกขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะ sorry sorry อยู่ สองสามรอบ เราโล่งอกถอนหายใจเลย
เหตุการณ์นี้คือต้องยอมรับว่าหาเรื่องเอง โง่เอง คือเค้าแยกถุงมาให้เราแล้ว แยกใบเสร็จ ใส่ถุงปิดมาให้แล้ว ทำไมเราไม่คิดถึงเหตุผล ดันไปแกะถุงทิ้ง
นี่ยังดีมีใบเสร็จ ถ้าไม่มีใบเสร็จซวยแน่ๆ คือเราไม่เคยคิดเลยจริงๆ ได้แต่ซื้อๆ หิ้วๆ
ครั้งนี้ถึงได้รู้ สินค้าปลอดภาษี เค้าใส่ถุง Duty Free แนบใบเสร็จเพื่อยืนยันว่าซื้อมาปลอดภาษีประมาณนั้น
ต่อไปถ้าจะเอาใส่กระเป๋าก็จะเอาใส่ไปทั้งถุงนั่นแหละ 55555555
ขอบคุณครับ
tag ผิดห้องขออภัยด้วยนะครับ
ประสบการณ์โดน ตม. มาเลเซีย สอบสวนเนื่องจากสงสัยว่า "ขโมยของใน Duty Free"
ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาแล้วล่ะ
แต่เมื่อเช้าเห็นเพื่อนไปเที่ยวมาเลเซีย เลยนึกถึงประสบการณ์ครั้งนี้ของตัวเองได้ เลยอยากเอามาแขร์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้อ่านกัน
สำหรับบางท่านอาจจะเคยเจอเรื่องนี้แล้ว ทราบดีอยู่แล้ว แต่สำหรับบางท่านอาจจะยังไม่เคยเจอก็ลองเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นประสบการณ์นะครับ
สำหรับตัวผมเองไม่เคยเจอเรื่องนี้มาก่อน เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอนึกถึงทีไรก็ตลกตัวเองทุกที 55555555
ผมเป็นนักเดินทางมือใหม่ครับ พึ่งเริ่มหัดเที่ยวต่างประเทศได้ไม่นาน ด้วยความกลัวทั้งเรื่องภาษา เรื่องวัฒนธรรมต่าง ๆ
ทำให้ไม่มีประสบการณ์ด้านการเดินทาง ด้าน ตม. เท่าไหร่
จนเมื่อสองปีก่อนได้ลองไปเที่ยวไต้หวันกับเพื่อน ก็รู้สึกว่าไม่ได้ยากนี่หว่า ทำให้เริ่มกล้าออกเดินทาง ไปเป็นกลุ่มบ้าง ไปกับเพื่อนสองคนบ้าง
เคยไปเที่ยว ไต้หวัน ฮ่องกง พม่า มาครั้ง 3-4 ครั้งเนี่ยละครับ ส่วนมากจะบินที่สุวรรณภูมิครับ Full Service โหลดกระเป๋าไป เราก็เดินขึ้นเครื่องชิวๆ
แต่ทริปนี้ นัดกันกะเพื่อน 2 คนครับ อยากไปมาเลเซีย ไปถ้ำบาตู ไปกัน 2 วัน 1 คืนเอง เลยตัดสินใจจัดทริปแบบประหยัด
ไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองครับ บินแอร์เอเชีย ครับ ไม่โหลดกระเป๋า เราจะแบ็คแพ็คกันไปครับ กระเป๋าคนละใบพอ
โดยปกติ คุณพ่อเป็นคนสูบบุหรี่ครับ ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ พ่อก็จะฝากซื้อบุหรี่ทุกครั้ง ขาออกจากประเทศเรา 1 แท่ง ขาออกจากประเทศเค้า 1 แท่ง
ทุกครั้งเลยครับ ครั้งนี้ก็เช่นกันครับ หลังจากผ่าน ตรวจคนเข้าเมืองที่ดอนเมืองเรียบร้อยเราก็จัดการหาซื้อบุหรี่ทันที พ่อดูด Winton ครับ
1 Passport ซื้อได้ 1 แท่ง ผมไปกับเพื่อน 1 คน ก็เลยขอยืม Passport เพื่อนซื้อ 1 แท่ง
สรุปได้บุหรี่มา 2 แท่ง >> พนักงานก็แยกถุงเป็น 2 ใบ ใส่บุหรี่ใส่ใบเสร็จไปในถุง ถุงละ 1 แท่ง !!!!!! <<
ก็อย่างที่บอกแหละครับ ปกติผมบินสุวรรณภูมิ เราโหลดกระเป๋าไปแล้ว เราก็สะพายกระเป๋าใบน้อยๆ บุหรี่ที่ผมซื้อที่สุวรรณภูมิผมก็ต้องถือไปอย่างนั้น
แต่ครั้งนี้ เราแบ็คแพ็คกันมากระเป๋าใบใหญ่เหลือที่อีกเยอะ ผมเลยเอาบุหรี่ออกจากถุงแล้วเอาใส่กระเป๋าผมคนเดียวเลย 2 แท่ง แล้วทิ้งถุงนั้นไป !!!!
เราเดินทางกันปกติครับ จนมาถึง ตม. ของมาเลเซีย ก็ผ่าน ตม.ไปอย่างปกตินะครับ
หลังจากผ่าน ตม. ไปแล้ว เราจะเจอจุดสแกนกระเป๋า ซึ่งเราก็เห็นบางคนเดินออกไปได้เลย แต่เรากระเป๋าใหญ่มั้งเค้าเลยขอให้เรากับเพื่อนสแกนกระเป๋า
เราก็เอาเข้าสายพานไปแบบปกติ แล้วก็เดินมารอที่ท้ายสายพานเพื่อรับกระเป๋า แต่..... กระเป๋าเพื่อนไหลออกมาครับแต่ของผมมันไม่มาครับ
เจ้าหน้าที่ 2 คนก็ไปมุงที่หน้าจอ ผมนึกในใจเวรละกู ตอนแรกคิดว่าเป็นกล้อง gopro แน่ๆ ครับเพราะมีกระเป๋ากล้อง มีขาตั้งกล้อง มีไม้ 3Way
มันจะยาวๆ เวลาพับอาจจะเหมือนมีดพับ เจ้าหน้าที่ก็ขอให้เราเดินตามกลับไปที่จุด ตม. แต่ไม่ได้กลับไปที่เคาเตอร์ ตม. นะครับ เป็นโต๊ะหลังเคาเตอร์แล้วเรียก เจ้าหน้าที่ ตม. มา 1 ท่าน ตอนนั้นคือในใจคิดว่าตายแน่ๆ กลับบ้านแน่นอน ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ดีมาก ถ้าคะแนนเต็ม 10 ให้คะแนนตัวเองสัก 5 จะได้มั้ง
เจ้าหน้าที่ ตม. 1 ท่าน เจ้าหน้าที่ที่สแกนกระเป๋า 1 ท่าน เรากับเพื่อน 1 คน ยืนเงียบอยู่ตรงโต๊ะ ..
สักพัก เจ้าหน้าที่ ตม. บอกให้เราเปิดกระเป๋า open your bag.. เราก็เปิดเฉยๆ พออ้ากระเป๋า ก็ถึงบางอ้อเลยครับ
บุหรี่ 2 แท่ง อยู่ในกระเป๋า เด่นชัดเลย เราพอจะเดาสถานการณ์ออกเลย เค้าคงหาว่าเราขโมยมาแน่ๆ เพราะลงเครื่องมาก็ผ่านร้านขายพวกนี้อยู่บ้าง
ตอนแรกก็เคยสงสัยนะครับ ทำไมเวลาซื้อบุหรี่ ใน ตม. เค้าไม่รวมถุงให้เรา จะแยกตลอดเวลา ก็ถึงบางอ้อตรงนี้แหละ
คำถามที่เค้าถามเราคือ where are you from? - where are you buy? and where are your plastic bag?
พอฟังคำถามก็ยิ่งกลัวเลย ได้แต่ตอบไปแบบสั่นๆ ด้วยภาษาอังกฤษระดับล่าง ๆ ตอนนั้นทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษามือมาหมดครับ
เอิ่มมม.....I from thailand and I buy from Departure of thailand. I put in my bag because I can not หิ้ว (ทำท่าหิ้ว) คือพูดไปว่าหิ้วจริงๆ เพราะเราพูดไม่ได้จริงๆ หิ้วจะพูดยังไง
and 2 in my bag because my bag is empty but my friend bag is full of clothes แล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่า เราต้องหาใบเสร็จสิ เอามายืนยันกับเค้า
เลยเทกระเป๋าเลย เพราะเราทิ้งแต่ถุง ไม่ได้ทิ้งใบเสร็จไปด้วย (เก็บใบเสร็จไว้เบิกเงินพ่อ) พอเราเทกระเป๋าออกมา เจอใบเสร็จ
เราเลยเอาบุหรี่จับคู่กับใบเสร็จ แล้วบอกว่า อันนี้ของฉัน อันนี้ของเพื่อนฉัน เจ้าหน้าที่ก็เอาใบเสร็จกับบุหรี่ไปดู พักใหญ่ๆเลยครับ ดูกัน 2 คน คุยกันด้วยภาษาท้องถิ่นขอองเค้า ตอนนั้นคือ สั่นไปหมดเลยครับ สำหรับเราคือเรื่องเล็กๆ แต่สำหรับเจ้าหน้าที่สนามบิน กฏคือกฏ ไม่มีเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ทั้งภาษาอีก ตอนนั้หันไปบอกเพื่อน ซวยละกู ถ้าสงสัยก็ยึดไปเลยนะ อย่าพาไปไหนอีก อย่าพาไปโรงพัก อย่าพาไปสอบสวน 555555
พอผ่านไปพักนึก สัก 5 นาทีได้มัน ตม. เค้าก็หันมาแล้วบอกขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะ sorry sorry อยู่ สองสามรอบ เราโล่งอกถอนหายใจเลย
เหตุการณ์นี้คือต้องยอมรับว่าหาเรื่องเอง โง่เอง คือเค้าแยกถุงมาให้เราแล้ว แยกใบเสร็จ ใส่ถุงปิดมาให้แล้ว ทำไมเราไม่คิดถึงเหตุผล ดันไปแกะถุงทิ้ง
นี่ยังดีมีใบเสร็จ ถ้าไม่มีใบเสร็จซวยแน่ๆ คือเราไม่เคยคิดเลยจริงๆ ได้แต่ซื้อๆ หิ้วๆ
ครั้งนี้ถึงได้รู้ สินค้าปลอดภาษี เค้าใส่ถุง Duty Free แนบใบเสร็จเพื่อยืนยันว่าซื้อมาปลอดภาษีประมาณนั้น
ต่อไปถ้าจะเอาใส่กระเป๋าก็จะเอาใส่ไปทั้งถุงนั่นแหละ 55555555
ขอบคุณครับ
tag ผิดห้องขออภัยด้วยนะครับ