[CR] *PARASITE #เมื่อหนังเกาหลีสื่อสารกับคนทั้งโลกผ่านความขัดเเย้งทางชนชั้น

.
.
กว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรมหนังเกาหลีผลิตงานคุณภาพสู่สายตาชาวโลกมากมาย ไม่เพียงตัวหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ดีเยี่ยม หลายๆเรื่องก็ประสบความสำเร็จบนบ็อกซ์ออฟฟิศต่างประเทศเเต่ก็ยังพูดไม่ได้เต็มปากว่ามันเป็นความสำเร็จที่เเท้จริง หากขาดซึ่งรางวัลระดับโลกมาการันตีคุณภาพอย่าง ออสการ์ ลูกโลกทองคำ หรือจะเป็นเทศกาลเมืองคานส์ ที่ล่าสุดปี 2019 หนังของผู้กำกับ 'บงจุนโฮ' อย่าง Parasite กลายเป็นผู้ชนะรางวัลสูงสุดในเทศกาลหนังเมืองคานส์ เเละถูกขนานนามว่าเป็นหนังเกาหลีเรื่องเเรกที่คว้าปาล์มทองคำ ด้วยการหยิบความขัดเเย้งทางชนชั้นที่เป็นประเด็นระดับสากลโลก มานำเสนอได้อย่างเเตกต่าง เฉียบคม เเละน่าสะพรึง ไม่น่าเเปลกใจที่นักวิจารณ์จากทั่วทุกสารทิศต่างเทใจให้หนังเเละยกเป็นหนึ่งผู้ท้าชิงคนสำคัญบนเวทีออสการ์ช่วงต้นปีหน้า
.
.
.
.
โดยประเด็นทาง "ลำดับชั้น" มักจะถูกเล่าในหนังของบงจุนโฮ ผ่านการเซ็ทบริบทหรือโครงสร้างภายนอกที่ต่างกันไป อย่าง Snowpiercer โครงสร้างลำดับชั้นจะถูกวางเป็นเเนวนอน ยึดตามรูปทรงของรถไฟ ที่จะให้คนรวยอยู่หัวขบวน คนจนอยู่ท้ายขบวน ขณะที่บางเรื่องจะมีรูปลักษณ์โครงสร้างไม่ชัดเจน เเต่จะใช้พื้นเพหรือการศึกษาเป็นตัวเเบ่งเเย่งทางชนชั้น อาทิ Okja, The Host ซึ่งในส่วนของ Parasite เลือกที่จะปรับโครงเป็นเเนวตั้งหรือเเนวนิ่ง ตามความคุ้นเคยของคนทั่วไปเพื่ออธิบายความสูง-ต่ำของลำดับชั้น อย่างคนจนจะอาศัยอยู่บ้านกึ่งชั้นใต้ดิน พื้นที่เเคบ คละเคล้าด้วยกลิ่นเหม็นอับ กลับกันที่คนรวยจะมีบ้านอยู่บนเนินสูง หลังใหญ่โต บรรยากาศปลอดโปร่ง
.
.
.
.
เอกลักษณ์สำคัญของหนังบงจุนโฮ คือการเล่าผ่านตัวเอกที่เป็นคนสามัญ เเละไปเกิดปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มชนชั้นที่สูงกว่าด้วยเหตุบางอย่าง จนนำมาซึ่งความขัดเเย้งที่เป็นเส้นเเบ่งทางชนชั้น เเละบางครั้งคนดูก็ไม่อาจเทใจเลือกข้างใดข้างหนึ่งได้ เป็นสภาวะคลุมเครือที่ต่างก็มีเหตุผลรองรับเป็นของตัวเอง อย่าง Okja สาวบ้านนอกที่เกิดความขัดเเย้งกับกลุ่มธุรกิจต่างชาติที่จะมาเอาหมูโอ้คจา ซึ่งเป็นหมูที่พวกเขาฝากเลี้ยงกลับคืนไป, Mother เเม่สูงวัยคนหนึ่งเกิดความขัดเเย้งกับตำรวจที่จับลูกชายเข้าคุกเนื่องจากพยานเเวดล้อมบ่งชี้ว่าเขาเป็นฆาตกร, Memories of Murder ตำรวจโซลกับตำรวจบ้านนอกที่มีความคิดไม่ลงรอยกันในช่วงเเรกของการสืบหาฆาตกร ซึ่งใน Parasite เป็นความไม่ลงรอยระหว่างสองชนชั้น ที่ค่อยๆก่อตัวเป็นคลื่นใต้น้ำจนนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ โดยหนังเซ็ทปมจาก 'คิวู' (ชเวอูชิก) ลูกชายฝั่งครอบครัวชนชั้นล่าง ที่ได้รับคำเเนะนำจากเพื่อนสนิทให้เเฝงตัวไปเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษในครอบครัวชนชั้นสูง ก่อนเขาได้ทำการวางเเผนเเละเซ็ทเหตุการณ์บางอย่างเพื่อดึงคนภายในครอบครัวตัวเองเข้ามาทำงานในบ้านหลังนี้ ตามทักษะของเเต่ละคน อย่าง ‘คิยอง' (พัคโซดัม) น้องสาวที่เเฝงตัวเป็นครูสอนศิลปะภายใต้ชื่อ ‘เจสสิก้า' ขณะที่ฝั่งผู้เป็นพ่อ ’คิเเท็ค’ (ซงคังโฮ) กลายเป็นคนขับรถ เเละผู้เป็นเเม่ ‘ชองซุก' (จางฮเยจิน) ก็ทำหน้าที่เป็นเเม่บ้าน
.
.
.
.
ความต่างทางลำดับชั้นถูกอธิบายในหลากบริบทเชิงอุปมาทั้งลักษณะของบ้าน, ความเป็นอยู่ของตัวละครที่ตลอดทั้งเรื่องมีนัยยะการเปรียบเทียบผ่านเหตุการณ์มากมายเพื่อเเสดงความห่างทางชนชั้นให้ผู้ชมได้ตระหนัก (ไม่เว้นเเต่การดื่ม filite/sapporo ที่สะท้อนสถานะทางการเงินของตัวละครในช่วงนั้น) ตลอดจนการใช้ "กลิ่น" ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจ มาเป็นตัวเเยกเเยะทางลำดับชั้น เป็นสิ่งที่สะท้อนรากเหง้าของมนุษย์ การศึกษา สังคม เเละทัศนคติ ตลอดจนถูกใช้เป็นตัวกลางที่ทำงานกับอารมณ์ เล่นกับสภาวะความอึดอัด ไม่ไว้วางใจของตัวละครได้เป็นอย่างดี โดยหัวหน้าครอบครัวชนชั้นสูงที่รับบทโดย 'อีซอนคยุน' กับเด็กน้อย 'จองฮยอนจุน' สองตัวละครที่มีเซ้นส์ในการเเยกเเยะกลิ่น เกิดความระแคะระคายต่อกลิ่นเฉพาะตัวที่ติดมากับฝั่งผู้เเทรกซึม(ครอบครัวชั้นล่าง) มันเป็นกลิ่นเน่าเหม็นที่ถูกหมักหมมด้วยสภาพเเวดล้อมย่ำเเย่ของบ้านชั้นใต้ดิน สร้างกลิ่นเฉพาะตัวที่ยากจะปกปิด
.
.
.
.
ศาสตร์ของงานศิลปะมักมีการหยิบยืมไอเดียหรือบริบทบางอย่างมาใช้เป็นเเรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ หนังเรื่องนี้ก็เฉกเช่นเดียวกัน บงจุนโฮเคยให้สัมภาษณ์ถึงเเรงบันดาลใจว่า อิงจากหนังของฮิตช์ค็อก, หนังคล็อด ชาโบรล (La femme infidèle 1969 คู่รักที่ถูกใครบางคนเเทรกซึมเข้ามาในชีวิต), เฮนรี-จอร์จ คลูโซ (Les Diaboliques 1955 สองหญิงที่วางเเผนฆาตกรรมเพื่อปลดห่วงโซ่อำนาจ), คิมคียอง (The Housemaid 1960 สาวรับใช้ที่ใช้มารยาหญิงเพื่อปั่นป่วนเเละบ่อนทำลายสถาบันครอบครัว) หนังเหล่านี้ว่าด้วยประเด็นของการคุกคามเเละลำดับชั้น ซึ่งอาจโยงไปยังหนังศตวรรษที่ 21 ของ ปาร์คชานวุค (The Handmaiden 2016 เเก๊งต้มตุ๋นที่เเทรกซึมสู่ตระกูลเศรษฐีญี่ปุ่นเพื่อหวังจะฮุบสมบัติ) เเละหนังของอเล็กซ์ฟานวอร์เมอเด็ม (Borgman 2013 ชายจรจัดที่เเทรกซึมสู่ครอบครัวชั้นสูงเพื่อเป้าหมายอันชั่วร้าย)
.
.
.
.
การมิกซ์ชองได้อย่างกลมกลืนเเละเป็นธรรมชาติ เป็นทักษะที่หาคนเทียบเคียงได้ยากของบงจุนโฮ อย่าง Memories of Murder ที่สร้างมู้ดเเอนด์โทน ดราม่า ทริลเลอร์ เเละเเทรกคอมเมดี้ หลอมจนเข้าที่เสมือนว่าหนังเป็นภาพสะท้อนของเหตุการณ์จริง ขณะที่ Parasite โทนหนังสองช่วงดูจะต่างกัน เเต่หลอมเข้ากันผ่านเรื่องราวเเละสถานการณ์ได้อย่างลงตัว โดยช่วงหนึ่งชั่วโมงเเรกเน้นสำรวจชีวิตตัวละคร อัดเเน่นด้วยโทนดราม่าตลกร้าย ก่อนปมจะถูกขมวดเข้าที่ ฝั่งชนชั้นล่างก็ค่อยๆเเสดงท่าทีหนักข้อ พร้อมกับการมาของอดีตเเม่บ้าน (อีจองอึน) ผู้กำความลับบางอย่างที่ปรับโหมดหนังเป็นซัสเพ้นส์-ทริลเลอร์ ไต่ระดับความเข้มข้นจนนำไปสู่จุดไคลเเม็กซ์ ที่จะตรึงคนดูให้ติดอยู่กับวังวนจนกระทั่งซาวด์แทร็กจบลง...
.
.
.
ป.ล.1 คนที่จะดูหนังเรื่องนี้ ผมขอเเนะนำให้ดูจนจบ end credit เพราะซาวด์เเทร็คของหนังเรียกได้ว่าเป็นบทสรุปที่เเท้จริง โดยซาวด์เเทร็คดังกล่าวมีชื่อว่า 'Soju One Glass' เป็นปรัชญาทางดนตรีของบงจุนโฮ ที่ใช้จังหวะสนุกสนาน ขับเล่าเนื้อหาอันขมขื่น อีกทั้งยังให้นักเเสดงนำอย่าง 'ชเววูชิค' มาเป็นผู้ขับร้อง ถ่ายทอดสารจากเนื้อเพลง ซึ่งคนดูจะเข้าใจความหมายของการกระทำครั้งนี้ก็ต่อเมื่อได้ดูตัวหนังเเล้วเท่านั้น

ป.ล.2 ในไทยเข้าฉาย 25 กรกฎาคมนี้ ใครที่สนใจหนังเรื่องนี้ก็อย่าลืมไปช่วยอุดหนุนหนังเกาหลีดีๆเเบบนี้กันนะครับ หวังว่ามันจะเป็นหนึ่งในเเรงกระเพื่อมสำคัญที่ช่วยให้ค่ายหนังต่างๆในไทย เกิดความสนใจที่จะซื้อหนังเกาหลีมาฉายให้คนไทยได้ดูกันในกว้างขวางมากขึ้น
.

.
.
.
.
.
.
.

ทวิตเตอร์
@Review_Me_
พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)
.
เพจเฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/Criticalme  
.
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__
ชื่อสินค้า:   Parasite ชนชั้นปรสิต
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่