
สวัสดีครับ ขอคั่นหนังใหญ่ก่อน ด้วยหนังสั้นเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมว่าทุกคนก็รู้กันอยู่เเล้วเนอะ ว่าตอนนี้ Where We Belong มีหนังสั้นภาคเเรกเริ่มด้วย
ว้าววววววววว ซึ่งก็ต้องขอบอกเลยว่าพี่คงเดชใจดีมาก ที่นำฟุตเทจที่ไม่ได้ใช้ในหนังจริง มาตัดต่อใหม่เป็นหนังสั้นให้ดูกันฟรี ๆ ในเฟซบุ๊ค
เเละเพิ่งจะฉายจบไปหมาด ๆ คำถามต่าง ๆ ที่มีอยู่ในหนัง ได้เผยหลาย ๆ อย่างออกมาจากหนังสั้นเรื่องนี้ และบอกเลยนะว่า
หนังสั้นเกือบครึ่งชั่วโมงนี้ เล่าเรื่องสไตล์เดิม แต่ใช้สเกลจอที่เล็กกว่า เหมือนกับเรากำลังดูม้วนวิดีโอที่ถูกเเอบถ่ายไว้ ซึ่งเเน่นอนว่าไม่แมส
เเต่ก็ยังดูเข้าใจง่ายเหมือนหนังเช่นกัน ไม่แน่ดูเรื่องนี้คุณอาจจะอยากไปดูเรื่องราวชีวิตของตัวละคร หรือไปดูซ้ำก็เป็นได้ เอาล่ะ มาดูกันว่าหนังสั้นนี้มีอะไร
"สองปีก่อน เบล เป็นเด็กใหม่ เบล ไม่รู้จักใคร เบล เฝ้ามองดูชีวิตผ่านไป จนกระทั่ง เบล ได้พบกับซู คนที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล"
เรื่องย่อก็มีเเค่นี้เเหล่ะครับ หนังสั้นนี่นะ5555
Me Before You เอ้ย We สิ จะนำเสนอชีวิตของวัยรุ่นคนหนึ่งที่เพิ่งได้เข้ามาในสังคมใหม่ ซึ่งใครหลายคนต้องเข้าใจ เพราะหนังเล่าในมุมมองของ "เบล" ตัวละครหลักอีกตัวจากภาพยนตร์ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่จันทบุรี หนังเล่าเรื่องเเบบเส้นตรง เล่าให้เห็นชีวิตที่คนรอบตัวดูแตกต่างไปจากเธอ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนที่พูดคำหยาบใส่กัน, คนที่มีความสามารถโดดเด่น, หรือเเม้เเต่ เพื่อนสนิทคนเเรกในชีวิต ซึ่งผมว่าทุกคนจะได้หวนกลับไปตอนที่เราเป็นเด็กมัธยม ว่าเราเป็นเด็กเเบบไหน เป็นเด็กเงียบ เด็กกิจกรรม เด็กเเสบ เด็กกวน ผสมกับดนตรีที่บรรเลงช้า ๆ ชวนให้นึกถึงอดีตโดยพี่ป๊อดโมเดิร์นด็อกที่ยังคงเอกลักษณ์ด้วยเสียงกีตาร์ที่เบาบาง แต่บาดใจคนดูหนังมาเเล้วเเน่นอน5555 แต่เหนือสิ่งอื่นใด หนังยังไม่ทิ้งลายเส้นเดิม คือการเข้าไปสำรวจชีวิตคนรอบตัวอย่างละเล็กอย่างละน้อย ที่ทำให้เห็นว่า ทำไม พวกเขาถึงต้องทำแบบนั้น ทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบนี้ หนังสั้นเรื่องนี้ตอบคำถามให้หมดครับ
ประเด็นที่อาจมีสปอยภาพยนตร์ ต้องใส่กรอบไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังสั้นเเสดงให้เห็นว่า แม่เบลนั้น ไม่พอใจในชีวิตของจันทบุรีที่เงียบและน่าเบื่อ สภาพเเวดล้อมก็ไม่ดี น้ำก็ไม่ไหล ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก
แม้ว่าเบลจะพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้เเม่ไปงานตลาดนัดคนเดินกับเธอ หวังให้เธอเห็นเเสงสี หรือ ผู้คน แต่ก็ไม่มีวันนั้น เพราะความอดทนของเเม่ที่มีขีดจำกัดจนมีปากเสียงกับพ่อ เธอเองก็มองข้ามฟังเพลงกลบเกลื่อนไป สุดท้ายแม่ตัดสินใจไปจากที่จันทบุรี เพื่อไปอยู่ในที่ที่เธอเชื่อว่ามันเหมาะกับเธอ และเพราะแม่ทิ้งเธอไปโดยไม่บอกลาสักคำ เธอรู้สึกโดนหักหลังตั้งเเต่นั้น เเละไม่เเปลกว่าทำไมเธอถึงไม่อยากอยู่กับแม่ที่กรุงเทพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในขณะที่เบล ต้องพบเจอกับเพื่อนที่เธอไม่กล้าเข้าไปหา พูดจาเป็นกันเองอย่างหยาบคาย เมื่อเทียบกับเธอ ที่ใช้คำว่า "คุณ" แทน (แต่สองปีต่อมาก็อย่างที่เห็นล่ะครับ5555) และโกหกแม่ว่า เธอมีเพื่อน อาจเพราะเธอไม่อยากให้เเม่คิดว่า ที่นี่สิ้นหวัง มันยังมีอะไรดี ๆ อยู่ การที่เเม่เบลถามกลับมาหลังเบลตอบ ทำให้เบลเศร้ามากกว่าเดิม แต่ก็ทำได้เเค่ตอบรับไป
มีแอบเเง้ม ๆ เรื่อง ทรงผมในวัยเรียน เรื่องการขับรถของพ่อซู ที่ผู้ใหญ่ออกกฏด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันคือความเหมาะสม หรือมันคืออะไร
แต่เเสงสว่างก็มีอยู่ เบล ได้พบกับ หยก ที่จ้องมองเธอตามประสาเด็กเก่ามองเด็กใหม่ และน่าจะเป็นเลสเบี้ยนด้วย เพราะคุยกับผู้หญิงอยู่ จากท่าทางแมน ๆ ห้าว ๆ เเสบ ๆ, ป่าน เด็กมีพรสวรรค์ด้านการเล่นคีย์บอร์ด, จ๊ะเอ๋ เด็กเนิร์ดผู้มีความรู้เรื่องกีตาร์, แพร สาวเสียงหวานที่ร้องเพลงได้ไพเราะจนเบลชื่นชม เเต่พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่ได้สนใจเบลมากนัก
กลับกันกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่พึ่งเจอปัญหาซ้ำซ้อนอย่าง ซู ที่เพิ่งจะเสียแม่ไป แล้วยังทะเลาะกับเพื่อนสนิทที่สุดอย่างมิว กลับเข้ามาหาเธอ สนใจเธอ โดยที่ก่อนหน้านั้นเบลมองซูมาตลอด อะไรที่ทำให้ซูสนใจเบล หนังไม่ได้ตอบ แต่อาจเพราะชอบอะไรเหมือนกัน เบลไม่เหมือนแม่ตรงที่เธอมีย่าอยู่ และเธอก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าการมีเพื่อนสักคน
ฉากมองเครื่องบินน่าจะเป็นฉากที่สะอึกที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันไม่ใช่เครื่องบินจริง มันคือเครื่องบินจำลอง เเสดงให้เห็นว่าที่นี่มันไม่ได้เจริญเลย แม้แต่เครื่องบิน ยังไม่ใช่ของจริงเลย น่าเศร้ากว่าคือ ถึงซูกับเบลจะมีที่มาพักผ่อนตอนเย็น ๆ แต่สุดท้ายที่ตรงนั้น ก็จะต้องถูกทำลายด้วยตึกราบ้านช่อง ความรู้สึกนั้นทำให้สองคนตั้งคำถามว่า
"จะมีที่ไหน ที่ให้พวกเขาหลบหนีจากความเจ็บปวดบ้างมั้ย"
"เป็นผู้ใหญ่นี่ดีเนอะ อยากไปไหนก็ได้" นี่คือความคิดของวัยรุ่นสองคนที่กำลังมีปัญหา ซึ่งเราทุกคนที่เป็นวัยรุ่นก็ต้องคิดแบบนี้กันบ้างละ
ในขณะเดียวกัน หนังก็ยังขยี้คำตอบเรื่องชื่อวง STRATOSPHERE ไปอีก ซูมองว่า ที่ ๆ คนทั่วไปจะหายใจได้ คือชั้นนี้ และนั่นอาจเเสดงว่า ความรู้สึกที่อยากอยู่ที่นี่ของเธอมันเปราะบางลงเรื่อย ๆ เหมือนชั้นบรรยากาศสุดท้ายของโลกใบนี้ และสองปีต่อมามันก็คือขีดสุดของเธอแล้ว
และในตอนท้าย ซูก็ทำให้เบล ได้รู้ว่า ที่ ๆ เธออยากอยู่มากที่สุด ตอนนี้ คือ ซู หรือ "เรา" นั่นเอง
เพราะอะไรน่ะเหรอ กีตาร์ ขับมอเตอร์ไซค์ เพื่อนในกลุ่ม ที่เบลมีได้ เพราะ "ซู" ทั้งนั้น แล้วมันจะมีความหมายอะไร
ถ้าหากซูไม่ได้อยู่กับเธอ ไม่ได้ซ้อนท้ายเธอ เหมือนที่เธอหวังมาตลอด
และความรู้สึกนั้นมันก็ตอบให้เเล้วในตอนจบภาพยนตร์เต็ม นั่นคือ
ความกล้ำกลืนอย่างเจ็บปวดที่ยอมปล่อยให้ซูจากไป....
สำหรับการเเสดง แน่นอนมิวสิค รอบนี้คือตัวนำทุกอย่าง เราจะเห็นสีหน้ายิ้มแต่อมทุกข์อยู่เกือบทั้งเรื่อง กระทั่งได้พบกับเจนนิษฐ์ที่ยังเล่นคอนเซปต์น้อยแต่มากเหมือนเดิม เเม้จะมีเเอร์ไทม์ไม่มากก็ตาม ในขณะที่นักเเสดงอื่น ๆ ก็คีปคาร์เเร็คเตอร์ไปอย่างดี อาจเพราะบทน้อย เลยไม่มีอะไรขัดเท่าไหร่ แต่แม่เบลที่เล่นโดย
เอ๋ สุพิชา สอนดําริห์ นี่ก็เด่นรองมิวสิคใช้ได้เลย เราได้เห็นน้ำเสียง จังหวะ ความเบื่อหน่าย ความกล้ำกลืน และหมดความอดทนได้ชัดเจน เมื่อเทียบกับในภาพยนตร์ที่ทำให้เห็นแค่มุมของเบล และพี่คงเดช ขอบคุณครับที่ทำหนังสั้นนี้ขึ้นมา พี่เจ๋งจริง หนังมันธรรมดามาก แต่มันพิเศษโคตร ๆ กับคนที่ดูหนังมาเเล้วอย่างผม เล่นเอากลับมาหน่วงเลยเมื่อนึกถึงภาพยนตร์
ทุกคนควรได้ดูหนังสั้นเรื่องนี้ และอย่าลืมลองหาโอกาสไปดู Where We Belong สักครั้งนะครับ
ขอบคุณครับ
ชมกันได้เเล้ววันนี้ที่
https://www.facebook.com/WhereWeBelongOfficial/videos/322785638630645/
หรือ ในนี้ก็ได้

รีวิวภาพยนตร์ Where We Belong
https://pantip.com/topic/38984753
เรื่องที่ 19.5 : หนังสั้น Me Before We เรื่องเล่าก่อน "เรา" พบกัน (Prequel ของ Where We Belong)
สวัสดีครับ ขอคั่นหนังใหญ่ก่อน ด้วยหนังสั้นเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมว่าทุกคนก็รู้กันอยู่เเล้วเนอะ ว่าตอนนี้ Where We Belong มีหนังสั้นภาคเเรกเริ่มด้วย
ว้าววววววววว ซึ่งก็ต้องขอบอกเลยว่าพี่คงเดชใจดีมาก ที่นำฟุตเทจที่ไม่ได้ใช้ในหนังจริง มาตัดต่อใหม่เป็นหนังสั้นให้ดูกันฟรี ๆ ในเฟซบุ๊ค
เเละเพิ่งจะฉายจบไปหมาด ๆ คำถามต่าง ๆ ที่มีอยู่ในหนัง ได้เผยหลาย ๆ อย่างออกมาจากหนังสั้นเรื่องนี้ และบอกเลยนะว่า
หนังสั้นเกือบครึ่งชั่วโมงนี้ เล่าเรื่องสไตล์เดิม แต่ใช้สเกลจอที่เล็กกว่า เหมือนกับเรากำลังดูม้วนวิดีโอที่ถูกเเอบถ่ายไว้ ซึ่งเเน่นอนว่าไม่แมส
เเต่ก็ยังดูเข้าใจง่ายเหมือนหนังเช่นกัน ไม่แน่ดูเรื่องนี้คุณอาจจะอยากไปดูเรื่องราวชีวิตของตัวละคร หรือไปดูซ้ำก็เป็นได้ เอาล่ะ มาดูกันว่าหนังสั้นนี้มีอะไร
"สองปีก่อน เบล เป็นเด็กใหม่ เบล ไม่รู้จักใคร เบล เฝ้ามองดูชีวิตผ่านไป จนกระทั่ง เบล ได้พบกับซู คนที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล"
เรื่องย่อก็มีเเค่นี้เเหล่ะครับ หนังสั้นนี่นะ5555
Me Before You เอ้ย We สิ จะนำเสนอชีวิตของวัยรุ่นคนหนึ่งที่เพิ่งได้เข้ามาในสังคมใหม่ ซึ่งใครหลายคนต้องเข้าใจ เพราะหนังเล่าในมุมมองของ "เบล" ตัวละครหลักอีกตัวจากภาพยนตร์ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่จันทบุรี หนังเล่าเรื่องเเบบเส้นตรง เล่าให้เห็นชีวิตที่คนรอบตัวดูแตกต่างไปจากเธอ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนที่พูดคำหยาบใส่กัน, คนที่มีความสามารถโดดเด่น, หรือเเม้เเต่ เพื่อนสนิทคนเเรกในชีวิต ซึ่งผมว่าทุกคนจะได้หวนกลับไปตอนที่เราเป็นเด็กมัธยม ว่าเราเป็นเด็กเเบบไหน เป็นเด็กเงียบ เด็กกิจกรรม เด็กเเสบ เด็กกวน ผสมกับดนตรีที่บรรเลงช้า ๆ ชวนให้นึกถึงอดีตโดยพี่ป๊อดโมเดิร์นด็อกที่ยังคงเอกลักษณ์ด้วยเสียงกีตาร์ที่เบาบาง แต่บาดใจคนดูหนังมาเเล้วเเน่นอน5555 แต่เหนือสิ่งอื่นใด หนังยังไม่ทิ้งลายเส้นเดิม คือการเข้าไปสำรวจชีวิตคนรอบตัวอย่างละเล็กอย่างละน้อย ที่ทำให้เห็นว่า ทำไม พวกเขาถึงต้องทำแบบนั้น ทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบนี้ หนังสั้นเรื่องนี้ตอบคำถามให้หมดครับ
ประเด็นที่อาจมีสปอยภาพยนตร์ ต้องใส่กรอบไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับการเเสดง แน่นอนมิวสิค รอบนี้คือตัวนำทุกอย่าง เราจะเห็นสีหน้ายิ้มแต่อมทุกข์อยู่เกือบทั้งเรื่อง กระทั่งได้พบกับเจนนิษฐ์ที่ยังเล่นคอนเซปต์น้อยแต่มากเหมือนเดิม เเม้จะมีเเอร์ไทม์ไม่มากก็ตาม ในขณะที่นักเเสดงอื่น ๆ ก็คีปคาร์เเร็คเตอร์ไปอย่างดี อาจเพราะบทน้อย เลยไม่มีอะไรขัดเท่าไหร่ แต่แม่เบลที่เล่นโดย เอ๋ สุพิชา สอนดําริห์ นี่ก็เด่นรองมิวสิคใช้ได้เลย เราได้เห็นน้ำเสียง จังหวะ ความเบื่อหน่าย ความกล้ำกลืน และหมดความอดทนได้ชัดเจน เมื่อเทียบกับในภาพยนตร์ที่ทำให้เห็นแค่มุมของเบล และพี่คงเดช ขอบคุณครับที่ทำหนังสั้นนี้ขึ้นมา พี่เจ๋งจริง หนังมันธรรมดามาก แต่มันพิเศษโคตร ๆ กับคนที่ดูหนังมาเเล้วอย่างผม เล่นเอากลับมาหน่วงเลยเมื่อนึกถึงภาพยนตร์
ทุกคนควรได้ดูหนังสั้นเรื่องนี้ และอย่าลืมลองหาโอกาสไปดู Where We Belong สักครั้งนะครับ
ขอบคุณครับ
ชมกันได้เเล้ววันนี้ที่
https://www.facebook.com/WhereWeBelongOfficial/videos/322785638630645/
หรือ ในนี้ก็ได้
รีวิวภาพยนตร์ Where We Belong
https://pantip.com/topic/38984753