Spoil Alert : ปรัชญาของ Mysterio : Jake Gyllenhaal ที่คนอาจมองข้ามกัน

เนื่อเรื่องนี้สำหรับใครที่ดูแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผมเขียนและสังเกตุเอง ยังไม่ได้อ่านเวปนอกใดๆ

Mysterio เป็นนักสร้างภาพที่มีทีมอยู่เยอะมาก (เป็นทีมที่เคยทำงานกับ Tony เพราะฉะนั้น หัวกระทิทั้งนั้นที่ได้ทำงานกับเค้า)

ปรัชญาในเรื่องนี้เลยหลักๆคือเราของ สื่อ .... เราจะเห็นในสิ่งที่เค้าอยากให้เราให้ และคนก็เลือกที่จะเชื่อสื่อกันด้วยไง (คิดถึงบ้านเราดีๆ)

ความเจ๋งของเรื่องนี้คือการนำ Jake Gyllenhaal ซึ่งหล่อมากๆเรื่องนี้ ซึ่งเค้าเคยเล่น Nightcrawler มาก่อน ที่ฉาย 2014 เกี่ยวกับ ..เรื่องสื่อเหมือนกัน ไม่รู้หรือตั้งใจหรือบังเอิญ แต่คิดว่าคงมีคนสังเกตุเรื่องนี้ มันคลิกกันพอดี 5555 

ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นการหลอกลวงตั้งแต่ต้นจนจบ จนถึง End credits ทั้งสองตัวด้วยกัน

end credit 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
end credit 2

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปรัชญาของการหลอก 
- ยุคนี้เป็นยุค 4G และจะ 5G แล้ว น้องอ้วนรัก มีแฟนบนเครื่องเลยเพียงแค่นั่งข้างกัน 9 ชั่วโมงกว่าๆ และก็เลิกกันอย่างรวดเร็วหลังจบทริป
- ป้าเมย์ กับ แฮปปี้ ก็หลอกๆกันเอง คนนึงบอกคบกัน อีกคนบอกคุยกัน ปีเตอร์งงๆ แล้วหนีไปเลยให้เคลียร์กันเอง
- Mysterio หลอกทั้งเรื่อง หลอกได้ทั้งคนดู ทั้งสไปดี้ ทั้งทีมงาน และทุกๆคน
- ครูหลอกนักเรียนว่าจะไปที่นึง สุดท้ายไปอีกที่นึง นักเรียนหลอกครูไม่ยอมดูโอเปร่าา
- สไปดี้หลอกเพื่อนตลอด ส่วนเอ็มเจ ก็หลอกสไปดี้ด้วยรู้ตัวจริง จริงๆแล้วรู้แค่ 67% ที่เหลือเฉลยออกมาเองหมด

แง่คิดเรื่องนี้ 
- การแอบถ่ายผู้อื่นเป็นสิ่งไม่ดี กว่าการแอบคบเสียอีก (แม้จะเรื่องไม่จริง)
- เราอย่าไว้ใจและเชื่อใจใครมากเกินไป นั่นแหละเป็นจุดอ่อนของเรา
- ทำอะไรต้องรอบคอบ ไม่งั้นพา shift หายทั้งหมู่คณะหรือทั้งโลกได้

ปล. ผมจบนิเทศมาเลยอาจอินภาคนี้หน่อยครับ
ปล2. สรุปคือเรื่องนี้เชื่ออะไรใครไม่ได้เลยจริงๆ 555
ปล3. โทนี่กล้าให้แว่นเด็กนี่ได้ไงฟะ ทำหล่นตั้งแต่ต้นเรื่อง 555

ชอบในความไม่  perfect ของสไปดี้มาก ทำให้เรื่องนี้สนุกมากในใจผม
ใครมีอะไรมาคุยกันได้เลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่