แอบดูเธอมานาน.....
ในที่สุดก็ได้มาหาสักทีไปเที่ยวเลห์ หน้าร้อนกันเถอะ
==> เรื่องที่ไม่รู้เรื่องที่ 1 ที่เลห์ ไม่มีหน้าฝน นาน ๆ ฝนถึงจะตก ถ้าฝนตกจะอันตรายมากเพราะดินภูเขาจะสไลด์
แล้วก็อากาศไม่ร้อนเลยถึงแม้จะเป็นหน้าร้อน จะร้อนแดดอ่ะ แดดที่เลห์แรงมาก ให้พอกกันแดดกันเยอะ ๆ
วันที่ไปถึงคือ 4 องศา (7 มิถุนา 62) กะว่ามาแบบชิล ๆ เย็น ๆ เที่ยวเชียงใหม่
พอลงจากเครื่องแค่นั้นละ ลมมาทีมีสะท้านอ่ะ แขนสั้นที่เตรียมไปนั้นพับเก็บจร้า!!!! หรือใครที่ขี้ร้อน ก็จัดได้ตามสบาย
แว่นกันแดดนี่ห้ามลืมเลย เครื่องสำอางค์ยังลืมได้ เพราะแต่งไปก็ไม่ได้ถอดแว่นถ่ายรูปอยู่ดีอ่ะ จะพกไปสามสี่อันเลยก็ได้
ใส่ไปเล้ย!!! วันละอันก็ยังได้ เดี๋ยวถ่ายรูปออกมาเห็นแค่แว่นทรงเดียวจะน่าเบื่อเนอะ
ทริปนี้เราไปกัน 2 คน เน้นกินหรูอยู่สบาย โดยให้เอเจ้นท์จัดการทั้งหมด ทั้งแพลนเที่ยว ที่พัก คนขับรถ
ไป 9 วัน เต็ม กะว่าไปรอบเดียวเก็บให้หมด ไม่มาอีกแล้วล่ะ อาหารก็คงไม่ถูกปากหรอก เน็ตก็ไม่มี ฝุ่นก็น่าจะเยอะ
แต่...........
==> เรื่องไม่รู้เรื่องที่ 2 อาหารที่นี่อร่อยเฉย อากาสก็ดี ฝุ่นเอาจริง ๆ เราเป็นคนแพ้ฝุ่นมาก จะจามหนักมาก
ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเยอะจนถึงขั้นต้องพก mask มาใส่อ่ะ ยังไม่จามสักแอะเดียว
อาหารเย็นมื้อแรกที่เลห์ ร้าน chopsticks อยู่ใกล้ ๆ ตลาดเลห์ เป็นร้านอาหารไทยนะ
มื้อแรกของเราขอสั่ง local เลยละกัน
เห้ย!! อันที่หน้าตาเหมือนเกี๊ยวซ่าไส้ข้างในเป็นไก่ เรียกว่า momo chicken อร่อยอ่ะถ้าทอดนะจะอร่อยมากกกกก
ส่วนในถ้วยเรียกว่า Thukpa รสชาติคล้าย ๆ ก๋วยจั๊บญวณนะ เผ็ดพริกไทยดีเครื่องเทศไม่เยอะ ซดร้อน ๆ ละคล่องคอ
อีกจานเป็น bottle lamp แฟนบอกอร่อย แฟนชอบกินอาหารอินเดียอยู่แล้ว ส่วนเราไม่สันทัดขอข้าม
รูปนี้เหมือนเป็นธรรมเนียมอ่ะ เป็นรูปที่ต้องมี เรื่องที่รู้ก่อนไปคือ เขาแนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายหน้า ๆ
บิน Air India สามารถเลือกที่นั่งได้ แต่นี่เข้าไปแก้เลือกที่นั่งไม่ได้อ่ะ ก็ต้องทำใจ ฝั่งนี้แดดจะส่อง แล้วก็แสบตามากจร้า
ช่วงที่ไปเหมือนจะมีคนเอเชียและเป็นคนไทยแค่ 2 คนเองอ่ะ พอถึงวิวตรงนี้พี่อินเดียที่นั่งฝั่งซ้ายก็ฮือฮากับวิวถ่ายรูปกันใหญ่ อิจฉา!!
ส่วนพี่อินเดียที่นั่งอยู่ฝั่งขวา แกดูตื่นเต้นกับวิวกันมากถึงกับลุกไปถ่ายรูปกันฝั่งโน้นกันเลย
==> อ่อ!! ตอนรอต่อเครื่องเอเจ้นท์แนะนำมาถ้าเจอเก้าอี้แบบนี้นอนได้เลย ไม่ต้องเดินไปจนถึงเกท เพราะมีไม่กี่ตัว
แต่เราก็เดินไปจนสุดทางอยู่ดีอ่ะเพราะไม่ว่างสักกะตัว โชคดีตรงสุดทางมีว่างอยู่ 2 ตัวพอดี นอนสบายมาก
นอนรอได้เลยของไม่หายสนามบินดี สะอาด อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกด้วยล่ะ อันนี้เอเจ้นท์ก็บอกมาบริการดีดุจญาติมิตร
==> Air India ขาไป ได้ตั๋วสองใบเลย แต่กระเป๋าต้องเอาออกตอนถึงเดลี เอาออกแต่ไม่ต้องเชคอินใหม่ แค่เอาเป๋าออก
ละเดินตามป้าย domestic tranfer ไป ละโหลดต่อได้เลย ไม่ต้องรอเวลา ละเข้าข้างในได้เลยนะ
==> ตอนเราไป Immigration โล่งมาก มีกันแค่ 4 คนเข้าคนละช่องเลยจร้า อย่าลืมกรอกใบเข้าประเทศนะ
พี่แกก็จะถามมาครั้งแรกหรอ มาคนเดียว? ผ่านละ ให้กรอกชื่อโรงแรมหรือชื่อเจ้นท์ลงไปด้วยนะ
แล้วเกทจะอยุ่ซ้ายมือสุดทางเลยจร้า จะมีร้าน KFC ร้านอาหารอยู่ก่อนเข้าเกทแวะกินก่อนได้
==> สนามบินเดลีไม่มีเนต มีเนตฟรี 45นาที แต่ต้องเปิดโรมมิ่ง 2-3 นาทีเพื่อรับรหัส ถ้าอยากใช้เนต
เปิดโรมมิ่งเนตอันลิมิตไปเวิคกว่า 300 กว่าบาท อันนี้เอเจ้นท์ก็บอกมาเหมือนกัน
ทริปนี้เราไปกับเอเจ้นท์ที่ชื่อ Luckyteam in ladakh
หรือจะสอบถามข้อมูลโดยตรง ที่เพจตามลิงค์ข้างล่างนี้เลย
เจ้าของชื่อ Lucky วันที่เราไปเค้ามาขับให้เอง พูดภาษาอังกฤษคล่อง ภาษาไทยได้เพราะมีแฟนเป็นคนไทย
ใครที่มีคำถามเยอะ ๆ ไม่ถนัดภาษาอังกฤษไปคุยกับคุณหนุงหนิงจะอรรถรสกว่า
แอบกระซิบ คุณหนิงแนะนำของกินให้ดีมากอ่ะ กินได้ทุกอย่างเลย แล้วถ่ายรูปให้สวยมากกกกกกก
ไปกับทีมนี้คือดีมากเหมือนได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ได้มีส่วนได้เสียเลยแถมยังทิปให้เค้าด้วย
เราตามหา contact ของ Lucky มา 6 ดือนได้อ่ะ ไปตามหาในเพจแบกเป้เที่ยวมั่ง ตามหาในพันทิปมั่งกว่าจะได้เจอกัน
เพราะไปอ่านเจอในพันทิปกระทู้นึงบอกว่า Lucky พูดอังกฤษคล่องแล้วก็ใจดีแค่นี้เลย

กดยิ้ม กด+ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนร้า

[CR] (CR) เรื่องที่ยังไม่รู้เมื่อได้ไปเยือน Leh Ladakh (7-15 มิย 62)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้