หนังเก่าเล่าใหม่ 119: Ran (Akira Kurosawa, 1985) รีวิวโดย Form Corleone

หนังเก่าเล่าใหม่ 119: Ran (Akira Kurosawa, 1985)


"สูงสุดคืนสู่สามัญ ความทะยานอยากในอำนาจ" Ran ผลงานผู้กำกับ 'อาคิระ คุโรซาวา' เล่าเรื่องราวของ โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ ฮิเดโตราและลูกชายทั้งสามคน เมื่อโชกุนผู้ยิ่งใหญ่เข้าสู่วัยชราจึงตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติและดินแดนเพราะอยากไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข โชกุนจึงยกตำแหน่งให้กับลูกชายคนโตปกครองดินแดนแทนตัวเอง และมอบดินแดนส่วนที่เหลือให้กับลูกชายอีกสองคน แต่แล้วลูกชายคนเล็กที่รักในตัวโชกุนที่สุดได้พูดจาไม่ถูกใจเพราะเป็นคนซื่อตรงซื่อสัตย์ จนถูกเนรเทศออกจากเมือง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำในชีวิตโชกุนผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อลูกชายคนโตถูกภรรยาปั่นหัวให้ยึดอำนาจพ่อตัวเองมาทั้งหมด ทำให้ลูกชายคนโตทำการยึดทุกสิ่งของพ่อตัวเองมาเป็นของตัวเอง และทำให้โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ต้องออกเดินทางจากเมืองที่ตัวเองเคยปกครอง ร่อนเร่พเนจรเหลือผู้ติดตามเพียงน้อยนิด จนตัดสินใจไปขออาศัยอยู่กับลูกชายคนกลาง แต่กลับถูกลูกชายคนกลางปฏิเสธให้การช่วยเหลือ เพราะจะไปขัดคำสั่งจากพี่ชายตัวเอง ทำให้โชกุนผู้ยิ่งใหญ่เจ็บซ้ำ ต้องเดินทางอย่างไร้จุดหมาย ไร้อำนาจ และสิ้นหวังเต็มทน เคราะห์กรรมยิ่งกว่านั้น เมื่อลูกชายคนโตตัดสินใจจะตามมาสังหารโชกุนผู้เป็นพ่อตัวเอง เพราะกลัวอำนาจจะหลุดมือ แต่สุดท้าย โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ ก็รอดออกมาได้ โดยไม่เหลือทหารผู้ติดตามแม้แต่คนเดียว เหลือแค่เพียงตัวตลกข้างกาย และนั่นก็ทำให้โชกุนผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นคนบ้าในที่สุด


แต่ความโหดร้ายของชีวิตโชกุนไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะตัวโชกุนมีอาการเดียวบ้าเดียวดีสลับกันไป ชะตาชีวิตนำพาโชกุนไปพบกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำเมื่อครั้งเป็นหนุ่ม จากเมืองหนึ่งไปสู่เมืองหนึ่ง จากอดีตที่เคยกระทำต่อชีวิตคนหนึ่งไปสู่ผลกรรมในปัจจุบัน ทั้งหมดตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้น จุดจบของโชกุนกับลูกชายคนสุดท้องยังเป็นโศกนาฏกรรมที่แสนเจ็บปวดเศร้าใจหัวใจสลาย ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดดูมีพลังคืองานภาพและบรรยากาศทั้งหมดที่ 'อาคิระ คุโรซาวา' ยึดความเป็นธรรมชาติทั้งแสงจริง ท้องฟ้าจริง ภูมิทัศน์แวดล้อมจริง ทั้งหมด สะท้อนให้เราเห็นถึงความตัวเล็กของมนุษย์ที่พยายามแย่งชิงอำนาจกันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่ได้สำนึกถึงว่าตัวเองนั้นเล็กเพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และความวุ่นวายอลหม่านที่มนุษย์ก่อขึ้นคือนรกบนพื้นดินดี ๆ นี่เอง รวมไปถึงฉากรบกันของทหารที่ล้มตายกันด้วยเงื่อนไขอย่างไม่จำเป็น และฉากจบของตัวละครชายตาบอดที่มีเพียงภาพวาดพระพุทธเจ้าผู้เป็นลูกชายของศัตรูเก่าโชกุนที่รอคอยพี่สาวกลับมารับ ที่แสดงสัญลักษณ์ของความมืดบอดในชีวิตและไม่รู้ว่าจะต้องออกเดินไปในทิศทางไหน


ดังนั้น Ran จึงเป็นภาพยนตร์ซามูไรที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกภาพยนตร์ ด้วยความยิ่งใหญ่ของงานสร้าง และฝีมือการกำกับช่วงปลายชีวิตของ 'อาคิระ คุโรซาวา' ที่ยอดเยี่ยม ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง 42 นาที ตัวหนังพาเราไปพบเจอกับห้วงอารมณ์ความสิ้นหวังและแก่นแท้ของมนุษย์ที่โหยหาอำนาจ ฝักใฝ่อยากเป็นใหญ่โดยไม่สนวิธีการ ขนานไปกับการตกอับของผู้ที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดและค่อย ๆ กลายเป็นคนสติฟั่นเฟือน บนเรื่องราวที่สอดประสานซ้อนทับกันไปมาในเส้นเรื่องเดียวกัน แง่มุมของการต่อสู้กันระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือดที่ทำสงครามแย่งชิงอำนาจกันเอง จุดต่ำสุดในชีวิตของคนที่เคยอยู่สูงสุด ตัวละครทุกตัวในเรื่องได้รับบทเรียนจากผลของการกระทำด้วยกันทั้งสิ้น ความคมลึกของบทภาพยนตร์จึงสะท้อนภาวการณ์ของด้านมืดในจิตใจมนุษย์ และแสดงให้เราตระหนักถึงความเจ็บปวด ความโหดร้าย ความสับสนในจิตใจ พร้อมทั้งโศกนาฏกรรมผลกรรมของตัวละคร ทั้งหมดมีครบทุกองค์ประกอบ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความยาวของหนังทำให้เราสามารถซึมซับและพินิจพิเคราะห์พัฒนาการของตัวละครอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงทรงคุณค่ามากที่สุดเรื่องหนึ่ง...


ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ ยิ้ม

ตัวอย่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/ 
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่