คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 36
การตอบสนองของไมยราบนั้น เกิดจากการสูญเสียน้ำภายในเซลล์บริเวณโคนใบค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสิ่งมากระตุ้น เช่น การสัมผัส จะทำให้เซลล์ตรงโคนใบสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็วไปให้เซลล์ข้างเคียง (ตามหลักวิทยาศาสตร์ เขา เรียกการเปลี่ยนแปลงของแรงดันเต่งภายในเซลล์ค่ะ) เลยเป็นเหตุให้ใบหุบ และพอผ่านไปซักระยะ เมื่อน้ำที่เคยสูญเสียไปนั้นกลับเข้ามาในเซลล์เดิม ใบก็จะกางตามปกติ ซึ่งก็ไม่ได้เกิดอย่างรวดเร็วขนาดนั้น เพราะพืชไม่ได้มีประสาทสัมผัสแบบเรา
ซึ่งการหุบ-กาง ในลักษณะนี้ ไม่ได้พบแค่ในไมยราบเท่านั้น เราพบได้ในพืชอื่นๆ อีก เช่น ดอกบัว บานในตอนเช้า และหุบในตอนเย็น แต่ต่างกันที่การตอบสนองนั้นมาจากการกระตุ้นของแสง ไม่ใช่การสัมผัส หรือกรณีที่เป็นการสัมผัส ก็อย่างเช่น ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง กาบหอยแครง บลาๆๆ
ดังนั้น ที่บอกว่า ทำไมจิ้มๆ บ่อยๆ แล้วกางมั่งไม่กางมั่ง นั่นก็เพราะว่า น้ำมันไหลกลับไปเซลล์เดิมไม่ทัน เลยเห็นบางใบกาง บางใบหุบเพราะกูกางไม่ทัน แค่นั้นแหละ
ซึ่งการหุบ-กาง ในลักษณะนี้ ไม่ได้พบแค่ในไมยราบเท่านั้น เราพบได้ในพืชอื่นๆ อีก เช่น ดอกบัว บานในตอนเช้า และหุบในตอนเย็น แต่ต่างกันที่การตอบสนองนั้นมาจากการกระตุ้นของแสง ไม่ใช่การสัมผัส หรือกรณีที่เป็นการสัมผัส ก็อย่างเช่น ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง กาบหอยแครง บลาๆๆ
ดังนั้น ที่บอกว่า ทำไมจิ้มๆ บ่อยๆ แล้วกางมั่งไม่กางมั่ง นั่นก็เพราะว่า น้ำมันไหลกลับไปเซลล์เดิมไม่ทัน เลยเห็นบางใบกาง บางใบหุบเพราะกูกางไม่ทัน แค่นั้นแหละ
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ถ้าเราทดลองเอาต้นไมยราบ มาจิ้มให้ใบมันหุบโดยตลอด กางอีกก็จิ้มใหม่ ต้นไมยราบจะเป็นยังไงครับ
แล้วผลมันจะออกมาเป็นเช่นไร
ต้นไมยราบจะเฉาตายมั้ยครับ
หรือจะแคระเก็นลง
เพราะใช้พลังงานในการหุบไปจนหมด