สวัสดีค่ะ ต่อจากกระทู้ที่แล้วหลังจากคุณหมอคนแรกบอกว่าเราท้องลม !! สามีก็ยังไม่เชื่อ เลยไปเช็คถึง 4 หมอ ว่าท้องลมจริงๆ หลังจากทำใจได้แล้วก็กลับไปหาหมอคนแรก อัลตราซาวด์ดูอีกครั้งพบว่าถุงตั้งครรภ์เริ่มหลุดแล้ว อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ หมอเลยให้แอดมิดเพื่อเอาออกในวันรุ่งขึ้นค่ะ

เช้ามาพอมาถึงโรงพยาบาล คุณหมออธิบายวิธีการว่าจะให้อมยาเพื่อให้หลุดเองก่อน ถ้าหลุดหมดก็ไม่ต้องดูดหรือขูดมดลูก แต่ถ้าหลุดไม่หมดก็ขูดตามเสต็ปไปค่ะ

คุณหมอให้อมยาใต้ลิ้น 2 เม็ดเพื่อให้ปากมดลูกนิ่มแล้วขับออกมาได้ง่าย จะให้ยาทุก 6 ชั่วโมงจนกว่าจะหลุดค่ะ ของเราใช้วิธีอมยาใต้ลิ้นเพราะคุณหมอบอกว่าใต้ลิ้นมีเส้นเลือดเยอะ ยาดูดซึมได้ดีค่ะ หลังจากอมยาไปได้ครึ่งชั่วโมงเรามีอาการหนาวสั่น ไข้ 39.8 องศา อาเจียนและถ่ายเหลว 4 ครั้ง และเริ่มปวดท้องหลังจากนั้น 2 ชั่วโมง ปวดเหมือนปวดประจำเดือน แต่ปวดมากกว่าเยอะมากก ช่วงนี้เป็นอะไรที่ทรมานมาก หนาวจนปากสั่นแต่เหงื่อออกทั้งตัว เทียวเข้าออกห้องน้ำเพราะถ่ายเหลว เพลีย และเริ่มวูบ ... สักพักเริ่มปวดท้องแบบทนไม่ได้ ต้องเรียกพยาบาลมาฉีดยาระงับปวด พยาบาลบอกว่าเรามีอาการข้างเคียงของยาทุกอย่างเลยค่ะ

หลังจากฉีดยาก็เริ่มปวดเบาลง สักพักพยาบาลเดินเข้ามาบอกว่าจะเริ่มให้อมยารอบ 2 แล้วเพราะว่าครบ 6 ชั่วโมง รอบนี้ก็จะมีอาการเหมือนเดิมแต่จะหนักกว่าเดิม !!! จริงค่ะ อาการหนักกว่าเดิม ปวดท้องมาก เริ่มมีเลือดไหล เดินเข้าออกห้องน้ำเพราะยังถ่ายเหลว คุณพยาบาลบอกว่าถ้ารู้สึกอยากเบ่งให้เรียก อย่าเบ่งตลอดเพราะมดลูกจะบวมจะขูดมดลูกไม่ได้ หลังจากอมยามาประมาณ 8 ชั่วโมง ตอนเข้าห้องน้ำรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรหลุดออกมา และอาการปวดท้องเริ่มเบาลง แต่เราไม่เห็นก้อนที่หลุดเพราะมันลงไปชักโครกแล้ว... สักพักคุณหมอก็มาอัลตราซาวด์พบว่าถุงตั้งครรภ์หลุดออกมาแล้ว หลุดหมดไม่ต้องขูดมดลูก เลือดจะไหลไปอีกสักพักแต่ไม่เกิน 7 วัน ให้พักที่โรงพยาบาล 1 คืนพรุ่งนี้กลับบ้านได้และนัดตรวจซ้ำอีก 1 อาทิตย์จากนี้

ระหว่างนี้เราก็ยังมีเลือดออกและปวดท้องบ้าง แต่ปวดแบบทนได้ เหมือนปวดประจำเดือน บางครั้งมีเป็นก้อนเลือดหรือผนังหลุดออกมาด้วย

พอครบ 1 สัปดาห์ คุณหมอตรวจอีกครั้งพบว่ามดลูกอักเสบก็ให้ยาแก้อักเสบมากิน แต่ยิ่งกินยาเลือดยิ่งออกเยอะขึ้น ผ่านไปอีก 5 วันเรามีอาการปวดท้องมากและเลือดออกเยอะขึ้น ทีแรกคิดว่าเดินเยอะมากไป แต่พออีกวันนึงปวดแบบเริ่มทนไม่ได้และเลือดออกเยอะ แบบครึ่งชั่วโมงเต็มแผ่นผ้าอนามัยแบบกลางคืน ตอนนี้ใจไม่ดีละ รีบโทรหาคุณหมอ คุณหมอให้มาที่คลินิค พอมาถึงอัลตราซาวด์อีกครั้งคุณหมอพบว่ามีลิ่มเลือดติดอยู่ที่ปากมดลูก เด๋วจะคีบออกให้ ซึ่ง .. คีบสด !!!!

คุณคะ ช็อตนี้คือแบบพีคในพีค หมอให้เราขึ้นขาหย่างแล้วใช้ที่ถ่างช่องคลอดเพื่อเอาคีบเข้าไปคีบออกสดๆ มันเจ็บมาก เรากรีดร้องแบบทรมานสุดๆและยังปวดท้องอยู่ เลือดก็ไหลไม่หยุด คือไหลเยอะมาก คุณหมอก้กระทุ้งๆคีบๆสักพักแล้วบอกว่าไม่ออก ให้ไปโรงพยาบาล !!!

พอถึงโรงพยาบาลเราเริ่มมีอาการปากสั่นตัวสั่นวูบเป็นลม 2 ครั้งระหว่างนำส่งโรงพยาบาล มีอาการเหมือนจะช็อกเพราะเสียเลือดมาก แผนกฉุกเฉินรีบส่งต่อเพื่อเตรียมพร้อมเข้าห้องผ่าตัด !!

คุณหมออธิบายว่าจะใช้เครื่องดูดสุญญากาศเพื่อดูดเอาชิ้นเนื้อหรือก้อนเลือดนั้นออกมา ขั้นตอนนี้วิสัญญีแพทย์จะวางยาสลึมสลือเราจะหลับแต่เหมือนจะรู้สึกตัวเหมือนมีคนจับย้ายเตียง เข็นไปนั่นนี่ แต่เราไม่เจ็บตอนทำ หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาคือปวดท้องมากกกก เขาก็ฉีดยาแก้ปวดให้ จากนั้นก็พักฟื้นที่ห้องพักฟื้นในห้องผ่าตัด 2 ชั่วโมง แล้วก็มาพักในห้องพักแผนกสูติต่อ ระหว่างนี้มีเลือดไหลบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มากแล้วค่ะ

เช้ามาเลือดไม่ไหลเลย เหมือนมันดูดออกไปหมด แต่อ่อนเพลียมากคงเพราะเสียเลือดมาก คุณหมอบอกว่าของเรามันมีเศษชิ้นเนื้อขนาดประมาณ 1 นิ้วอุดอยู่ที่ปากมดลูกเลยทำให้มันอักเสบและตกเลือด พอดูดออกมาก็หายปวดเลือดก็ไม่ไหลอีก

คุณหมอให้พัก 7 วัน ให้นอนนิ่ง นอนเยอะๆ ห้ามเดินเยอะ และพักการผลิตลูกไป 3 เดือนเพื่อให้มดลูกได้พัก หลังจาก 3 เดือนก็ปล่อยมีลูกได้ตามปกติค่ะ ...

ปล. ยาวหน่อยนะคะ แต่ฝากประสบการณ์ไว้ให้แม่ๆที่กำลังมีปัญหาเหมือนกันค่ะ ทีแรกว่าท้องลมแย่แล้ว ตอนแท้งก็ว่าหนัก แต่ตอนตกเลือดแย่กว่าเยอะค่ะ สู้ๆนะคะ แล้วเราจะผ่านไปได้ค่ะ