สวัสดีครับ ชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อที่จะรีวิวการขอวีซ่าเชงเก้นไปประเทศสโลวีเนีย ปี2019 ครับ
เนื่องจากตอนผมหาข้อมูลเพื่อที่จะเตรียมตัวไปขอวีซ่าเชงเก้นของสโลวีเนีย ข้อมูลจากบางกระทู้หรือบางเว็บก็ไม่ค่อย up-to-date เท่าไร ดังนั้นผมจึงมาแชร์ประสบการณ์และทำรีวิวนี้ครับ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ
และเนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม หากผมเขียนตรงไหนผิดพลาด ไม่เคลียร์ หรือไม่เหมาะสม ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะครับ
ต้องเรียนอย่างนี้ก่อนนะครับ การที่เราจะขอวีซ่าเชงเก้นสำหรับประเทศสโลวีเนียเนี่ย เราสามารถไปขอได้ 2 ที่ หลักๆครับ คือที่สถานทูตออสเตรีย ซึ่งตั้งอยู่ที่ ซอยสาทร 1 ถนนวิทยุครับ ผมแนะนำให้ไปโดย MRT ครับ โดยลงที่ MRT ลุมพินี และนั่งวินมอเตอร์ไซค์ต่อหรือจะเดินต่อก็ได้ครับ
และอีกที่นึงคือหน่วยงาน vfs ครับ ซึ่งตั้งอยู่ที่ จามจุรีสแควร์ ชั้น 4 ครับ ขับรถไปก็ได้ นั่ง MRT ไปลงที่สามย่านก็ได้ครับ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า...
1. เตรียมเอกสาร
เอกสารที่ผมเตรียมไป มีดังนี้ครับ
- ใบสมัครยื่นคำร้อง โดยต้องใช้แบบฟอร์มของออสเตรียนะครับ ตอนผมโหลด ผมโหลดของสโลวีเนียมาเลย ซึ่งมัน
ผิดนะครับ ต้องใช้ของออสเตรียเท่านั้น จะเขียนมือก็ได้ หรือจะพิมพ์แล้วปริ้นออกมาก็ได้เช่นกันครับ โดยแบบฟอร์มและวิธีกรอกสามารถหาได้ตามเน็ตเลยครับ
โดยผมขอเพิ่มเติมนะครับ คำว่า
Minor หมายถึงบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 นะครับ ผมเห็นบางที่บอก 20 ผมซึ่งอายุ 19 เลยงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ55555
ผมไปถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าเมื่อก่อนหมายถึงบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น
บุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 แล้วนะครับ
- รูปถ่ายสีที่มีพื้นหลังสีขาว และเป็นรูปถ่ายที่ถ่ายอายุไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 ใบ ขนาด 35mm*45mm ครับ
- สำเนา passport 2 ใบ
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน และ ที่พัก ครับ
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพ มูลค่าอย่างต่ำสามหมื่นยูโร สามารถเช็คบริษัทประกันที่ได้รับการยอมรับได้ที่
https://www.vfsglobal.com/Austria/Thailand/thai/pdf/List-of-Travel-Medical-Insurance-Latest.pdf ครับ
- sponsor letter โดยคนที่ มีคนออกค่าใช้จ่ายให้ ต้องมี sponsor letter พร้อมกับเอกสารโชว์ความสัมพันธ์ด้วยนะครับ โดยสามารถดูตัวอย่างการเขียน sponsor letter และเอกสารเพิ่มเติมได้จากในเนตเลยครับ โดยกรณีของผม ผปค เป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ครับ ดังนั้น เอกสารที่ผมเตรียมไปคือ สูติบัตร และ ทะเบียนบ้าน โดย เอกสาร 2 ฉบับนี้ ต้องนำไปแปลด้วยนะครับ ของผมเอาไปแปลที่กรมการกงสุลแจ้งวัฒนะครับ มีบริการแปลให้พร้อมเสร็จสรรพ หลังจากยื่นแล้ว รอ 2 วันทำการนะครับ หรือถ้าใครต้องใช้เร่งด่วน เค้าก็มีบริการส่งวันนี้ได้รับวันนี้เลยครับ แต่ค่ารับรองการแปลจะแพงกว่าแบบปกติราว 2 เท่าครับ
- หนังสือรับรอง ในกรณีของผม ผมใช้ letter of acceptance จากมหาลัยของทางนั้นครับ โดยผมยื่นเอกสารรับรองการเป็นนักศึกษาจากมหาลัยที่ผมเรียนที่ไทย ติดไปด้วยครับ
- statement จากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนครับ ในกรณีผม ผมใช้ statement ของผปคครับ ยื่นไปพร้อมกับ sponsor letter และ สูติบัตรกับทะเบียนบ้านครับ
- travel plan ครับ อาจจะทำเป็นตารางใน excel ก็ได้ครับ คือโชว์ให้เค้าดูว่า เราจะทำอะไรบ้างในช่วงที่เราอยู่ในเขตประเทศเชงเก้น ทำplanแยกเป็นวันๆเลยก็ดีนะครับ
**เพิ่มเติมนะครับ ผมเห็นบางที่บอกว่า ถ้าอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ และไม่ได้เดินทางไปกับ ผปค ต้องขอ consent letter หรือจดหมายยินยอมจาก ผปค ผมก็ไปขอมาครับจากที่ว่าการเขต แล้วก็นำไปแปลเสร็จสรรพ สรุปเค้าไม่ได้ใช้ครับ 5555
หลักๆที่เค้าใช้ มีเท่านี้ครับ
2. จองคิว
ตอนที่ผมหาข้อมูล หลายๆกระทู้และเว็บเล่าว่า สามารถไปจองคิวที่สถานทูตได้เลย บางที่ก็บอกว่าจองตอนเช้าได้คิวทำตอนบ่ายวันนั้นเลย บางคนก็บอกว่าอีก 2-3วันก็ได้คิว
ขอเตือนตรงนี้เลยนะครับ ว่า
ตอนผมไปสถานทูต ผมไม่สามารถจองได้ทันทีทันใดเลยนะครับ คือเราต้องส่ง email นัดหมายกับสถานทูตก่อนนะครับ จู่ๆจะเข้าไปเลยเนี่ย ไม่ได้แล้วนะครับ
ผมก็อีเมลไปหาสถานทูต วันที่ 14 มิถุนายน ได้คิวอีกทีวันที่ 25 มิถุนายน เลยนะครับ ที่บอกๆกันว่า 2-3 วันได้คิวเนี่ย ณ ตอนนี้ ไม่จริงเลยครับ
ตอนนั้นผมเครียดและจิตตกสุดขีดเลยครับ เพราะนับวันจากวันที่ 25 จนถึงวันเดินทางแล้ว มันไม่ถึง 15 วันครับ (เราควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย15วัน ระหว่างวันที่ยื่นเอกสารทำวีซ่าและวันเดินทางนะครับ)
ผมเลยเปลี่ยน ลองไปจองออนไลน์แทนที่เว็บ
https://www.vfsglobal.com/Austria/Thailand/thai/index.html ครับ
โดยการจองออนไลน์เนี่ยเท่ากับว่าเราจะต้องไปยื่นเอกสารกับ vfs นะครับ ที่จามจุรี สแควร์
โอเค ผมก็สมัคร account เข้าไป โดยดูวิธีสมัครจากกระทู้นี้ครับ
https://pantip.com/topic/37311766
ได้คิววันที่ 24 มิถุนายน ถึงแม้มันจะเว้นระยะห่างจากวันเดินทางไม่ถึง 15 วันอยู่ดี แต่อย่างน้อยมันก็เร็วกว่าจองกับสถานทูตวันนึง ผมเลยเอาที่นี่เลยครับ
พอกดยืนยันปุ้ป เค้าก็จะส่ง email เอกสารหลักฐานการจองมาให้ วันที่ไปยื่นเอกสารทำวีซ่าเราก็ต้องปริ้นไปโชว์เป็นหลักฐานด้วยนะครับ
เป็นอันเสร็จขั้นตอนการจองคิวครับ
ขอย้ำเตือนอีกครั้งนะครับว่าไม่ควรชะล่าใจ จองคิวได้ก็รีบจองเลยนะครับ ไม่ควรคิดว่าจองวันนี้อีก 2-3วันก็ได้คิวนะครับ โอเค คือมันอาจจะได้จริงในบางช่วงเวลา แต่ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าครับ 555 จะได้ไม่ต้องมานั้งลุ้นตุ้มๆต่อมๆแบบผม
3. วันยื่นเอกสารทำวีซ่า
ผมได้คิวตอนเวลา 9.30 น. ครับ ผมก็ไปถึง office ของ vfs ตอน 9 โมง เค้ายังไม่ให้เข้านะครับ ต้องเข้าตรงเวลาพอดี พอเข้าไปปุ้ป ก็ไปรับบัตรคิวครับ ผมนั่งรอคิวนานมากกก ผมเริ่ม freak out ในใจครับ 555555 เพราะดูทรงแล้ว คนมาทำเยอะมากๆ อาจจะไม่ได้วีซ่าทันก่อนวันเดินทาง
พอถึงคิวปุ้ป ผมก้ไปยื่นเอกสารครับที่ช่อง 41 จำได้เลย555
มาถึงเอกสารอันแรก(แบบฟอร์ม) ผมก็ทำผิดเลยครับ แต่ผมโชคดีมากครับ เจ้าหน้าที่เค้ายื่นแบบฟอร์มของออสเตรียมาให้และให้ผมกรอกทั้งหมด ณ ตรงนั้นเลยครับ
นอกจากนั้น รูปถ่ายผมก็ดันมาผิดอีก รูปถ่ายผมพื้นหลังเป็นสีครีมครับ แต่เค้าต้องการสีขาว เค้าก็เลยให้ไปถ่ายใหม่ครับ ที่ข้างหน้าทางเข้า ราคา 250 บาท
พอยื่นเอกสารทั้งหมดเสร็จ เค้าก็ให้ผมเขียนจดหมาย insist ครับ เนื้อความประมาณว่าเนื่องจากวันที่ผมยื่นเอกสารกับวันเดินทาง มันห่างกันไม่ถึง 15 วัน ถ้าออกไม่ทัน ก็ถือเป็นความรับผิดชอบของผมครับ
หลังจากเขียนจดหมายเสร็จ ก็ชำระเงินครับ ผมจ่ายไป 2,650 บาทถ้วน และไปนั่งรอสแกนลายนิ้วมือครับ พอสแกนลายนิ้วมือเสร็จ ก็เป็นอันจบพิธี
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าวีซ่าผมจะออกทันวันเดินทางไหม (อีก 11 วัน) หลายๆคนบอกว่าไม่ทราบ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานทูตอย่างเดียวเลย แต่ให้ทำใจไว้ดีกว่า ผมก้เครียดและจิตตกหนักกว่าเดิมครับ
4. รับวีซ่า
วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันที่ผมไปยื่นเอกสารทำวีซ่าครับ ในใจก็ตุ้มๆต่อมๆครับ ว่าจะทันหรือป่าว
แต่แล้ว
วันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ผมก็ได้รับ sms จาก vfs ครับ ว่าวีซ่าเสร็จแล้ว ให้มารับ asap เท่านั้นล่ะครับ ผมโล่งอกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่เนืองจาก เค้าส่งมาตอน 15.43 น. และเค้าเปิดให้รับวีซ่าแค่ช่วง 13.00-16.00 ผมเลยไปรับวันถัดไปครับ
วันที่ 28 มิถุนายน ผมก็เข้าไปเอาวีซ่าครับ process คล้ายๆตอนไปยื่นเอกสารครับ คือต้องไปรับบัตรคิวก่อน
จากนั้น เตรียม สำเนา passport ที่มีตราปั๊ม และใบเสร็จ โดย 2 อันนี้ เค้าจะให้มาหลังจากเราชำระเงินเสร็จครับ ไปยื่นให้เค้าครับ
เป็นอันจบการทำวีซ่าเชงเก้นครับผม
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้นี้จะเป็นข้อมูลสำหรับคนที่แพลนจะทำวีซ่าเชงเก้นและเป็นเครื่องเตือนใจให้คนที่มีแพลนจะทำวีซ่าไม่ประมาทและไม่ชะล่าใจแบบผมนะครับ ผมคิดว่าผมโชคดีมากๆๆครับที่ได้วีซ่าทันเวลา ภายใน 3 วัน อยากให้ทุกท่านวางแผนกะเวลาดีๆไปเลยครับ
และสำหรับคนที่ยื่นวีซ่าต่ำกว่า 15 วัน เหมือนผม ผมอยากบอกว่า ยังมีความหวังอยู่นะครับ สิ่งที่ผมแนะนำได้คือ เตรียมเอกสารไปให้พร้อมเลยครับ เอกสารเกินยังดีกว่าขาดนะครับ อะไรที่คิดว่าอาจจะต้องใช้ แต่เค้าไม่ได้ระบุไว้ เอาไปเผื่อก็ดีครับ เป็นกำลังใจให้ ลุ้น ด้วยคนครับ
สุดท้ายนี้ ใครมีคำถามเพิ่มเติม อยาก counter ผม หรืออยากแชร์ประสบการณ์ก็พูดคุยกันได้เลยนะครับ ผมหวังว่ากระทู้นี้ของผมจะสามารถเป็นแนวทางสำหรับคนที่จะขอวีซ่าเชงเก้นไป ออสเตรีย สโลวีเนีย หรือ มอลต้าครับ
(REVIEW) แชร์ประสบการณ์ ขอวีซ่าเชงเก้น ประเทศสโลวีเนีย
เนื่องจากตอนผมหาข้อมูลเพื่อที่จะเตรียมตัวไปขอวีซ่าเชงเก้นของสโลวีเนีย ข้อมูลจากบางกระทู้หรือบางเว็บก็ไม่ค่อย up-to-date เท่าไร ดังนั้นผมจึงมาแชร์ประสบการณ์และทำรีวิวนี้ครับ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ
และเนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม หากผมเขียนตรงไหนผิดพลาด ไม่เคลียร์ หรือไม่เหมาะสม ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะครับ
ต้องเรียนอย่างนี้ก่อนนะครับ การที่เราจะขอวีซ่าเชงเก้นสำหรับประเทศสโลวีเนียเนี่ย เราสามารถไปขอได้ 2 ที่ หลักๆครับ คือที่สถานทูตออสเตรีย ซึ่งตั้งอยู่ที่ ซอยสาทร 1 ถนนวิทยุครับ ผมแนะนำให้ไปโดย MRT ครับ โดยลงที่ MRT ลุมพินี และนั่งวินมอเตอร์ไซค์ต่อหรือจะเดินต่อก็ได้ครับ
และอีกที่นึงคือหน่วยงาน vfs ครับ ซึ่งตั้งอยู่ที่ จามจุรีสแควร์ ชั้น 4 ครับ ขับรถไปก็ได้ นั่ง MRT ไปลงที่สามย่านก็ได้ครับ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า...
1. เตรียมเอกสาร
เอกสารที่ผมเตรียมไป มีดังนี้ครับ
- ใบสมัครยื่นคำร้อง โดยต้องใช้แบบฟอร์มของออสเตรียนะครับ ตอนผมโหลด ผมโหลดของสโลวีเนียมาเลย ซึ่งมันผิดนะครับ ต้องใช้ของออสเตรียเท่านั้น จะเขียนมือก็ได้ หรือจะพิมพ์แล้วปริ้นออกมาก็ได้เช่นกันครับ โดยแบบฟอร์มและวิธีกรอกสามารถหาได้ตามเน็ตเลยครับ
โดยผมขอเพิ่มเติมนะครับ คำว่า Minor หมายถึงบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 นะครับ ผมเห็นบางที่บอก 20 ผมซึ่งอายุ 19 เลยงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ55555
ผมไปถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าเมื่อก่อนหมายถึงบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น บุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 แล้วนะครับ
- รูปถ่ายสีที่มีพื้นหลังสีขาว และเป็นรูปถ่ายที่ถ่ายอายุไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 ใบ ขนาด 35mm*45mm ครับ
- สำเนา passport 2 ใบ
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน และ ที่พัก ครับ
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพ มูลค่าอย่างต่ำสามหมื่นยูโร สามารถเช็คบริษัทประกันที่ได้รับการยอมรับได้ที่ https://www.vfsglobal.com/Austria/Thailand/thai/pdf/List-of-Travel-Medical-Insurance-Latest.pdf ครับ
- sponsor letter โดยคนที่ มีคนออกค่าใช้จ่ายให้ ต้องมี sponsor letter พร้อมกับเอกสารโชว์ความสัมพันธ์ด้วยนะครับ โดยสามารถดูตัวอย่างการเขียน sponsor letter และเอกสารเพิ่มเติมได้จากในเนตเลยครับ โดยกรณีของผม ผปค เป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ครับ ดังนั้น เอกสารที่ผมเตรียมไปคือ สูติบัตร และ ทะเบียนบ้าน โดย เอกสาร 2 ฉบับนี้ ต้องนำไปแปลด้วยนะครับ ของผมเอาไปแปลที่กรมการกงสุลแจ้งวัฒนะครับ มีบริการแปลให้พร้อมเสร็จสรรพ หลังจากยื่นแล้ว รอ 2 วันทำการนะครับ หรือถ้าใครต้องใช้เร่งด่วน เค้าก็มีบริการส่งวันนี้ได้รับวันนี้เลยครับ แต่ค่ารับรองการแปลจะแพงกว่าแบบปกติราว 2 เท่าครับ
- หนังสือรับรอง ในกรณีของผม ผมใช้ letter of acceptance จากมหาลัยของทางนั้นครับ โดยผมยื่นเอกสารรับรองการเป็นนักศึกษาจากมหาลัยที่ผมเรียนที่ไทย ติดไปด้วยครับ
- statement จากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนครับ ในกรณีผม ผมใช้ statement ของผปคครับ ยื่นไปพร้อมกับ sponsor letter และ สูติบัตรกับทะเบียนบ้านครับ
- travel plan ครับ อาจจะทำเป็นตารางใน excel ก็ได้ครับ คือโชว์ให้เค้าดูว่า เราจะทำอะไรบ้างในช่วงที่เราอยู่ในเขตประเทศเชงเก้น ทำplanแยกเป็นวันๆเลยก็ดีนะครับ
**เพิ่มเติมนะครับ ผมเห็นบางที่บอกว่า ถ้าอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ และไม่ได้เดินทางไปกับ ผปค ต้องขอ consent letter หรือจดหมายยินยอมจาก ผปค ผมก็ไปขอมาครับจากที่ว่าการเขต แล้วก็นำไปแปลเสร็จสรรพ สรุปเค้าไม่ได้ใช้ครับ 5555
หลักๆที่เค้าใช้ มีเท่านี้ครับ
2. จองคิว
ตอนที่ผมหาข้อมูล หลายๆกระทู้และเว็บเล่าว่า สามารถไปจองคิวที่สถานทูตได้เลย บางที่ก็บอกว่าจองตอนเช้าได้คิวทำตอนบ่ายวันนั้นเลย บางคนก็บอกว่าอีก 2-3วันก็ได้คิว
ขอเตือนตรงนี้เลยนะครับ ว่า
ตอนผมไปสถานทูต ผมไม่สามารถจองได้ทันทีทันใดเลยนะครับ คือเราต้องส่ง email นัดหมายกับสถานทูตก่อนนะครับ จู่ๆจะเข้าไปเลยเนี่ย ไม่ได้แล้วนะครับ
ผมก็อีเมลไปหาสถานทูต วันที่ 14 มิถุนายน ได้คิวอีกทีวันที่ 25 มิถุนายน เลยนะครับ ที่บอกๆกันว่า 2-3 วันได้คิวเนี่ย ณ ตอนนี้ ไม่จริงเลยครับ
ตอนนั้นผมเครียดและจิตตกสุดขีดเลยครับ เพราะนับวันจากวันที่ 25 จนถึงวันเดินทางแล้ว มันไม่ถึง 15 วันครับ (เราควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย15วัน ระหว่างวันที่ยื่นเอกสารทำวีซ่าและวันเดินทางนะครับ)
ผมเลยเปลี่ยน ลองไปจองออนไลน์แทนที่เว็บ https://www.vfsglobal.com/Austria/Thailand/thai/index.html ครับ
โดยการจองออนไลน์เนี่ยเท่ากับว่าเราจะต้องไปยื่นเอกสารกับ vfs นะครับ ที่จามจุรี สแควร์
โอเค ผมก็สมัคร account เข้าไป โดยดูวิธีสมัครจากกระทู้นี้ครับ https://pantip.com/topic/37311766
ได้คิววันที่ 24 มิถุนายน ถึงแม้มันจะเว้นระยะห่างจากวันเดินทางไม่ถึง 15 วันอยู่ดี แต่อย่างน้อยมันก็เร็วกว่าจองกับสถานทูตวันนึง ผมเลยเอาที่นี่เลยครับ
พอกดยืนยันปุ้ป เค้าก็จะส่ง email เอกสารหลักฐานการจองมาให้ วันที่ไปยื่นเอกสารทำวีซ่าเราก็ต้องปริ้นไปโชว์เป็นหลักฐานด้วยนะครับ
เป็นอันเสร็จขั้นตอนการจองคิวครับ
ขอย้ำเตือนอีกครั้งนะครับว่าไม่ควรชะล่าใจ จองคิวได้ก็รีบจองเลยนะครับ ไม่ควรคิดว่าจองวันนี้อีก 2-3วันก็ได้คิวนะครับ โอเค คือมันอาจจะได้จริงในบางช่วงเวลา แต่ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าครับ 555 จะได้ไม่ต้องมานั้งลุ้นตุ้มๆต่อมๆแบบผม
3. วันยื่นเอกสารทำวีซ่า
ผมได้คิวตอนเวลา 9.30 น. ครับ ผมก็ไปถึง office ของ vfs ตอน 9 โมง เค้ายังไม่ให้เข้านะครับ ต้องเข้าตรงเวลาพอดี พอเข้าไปปุ้ป ก็ไปรับบัตรคิวครับ ผมนั่งรอคิวนานมากกก ผมเริ่ม freak out ในใจครับ 555555 เพราะดูทรงแล้ว คนมาทำเยอะมากๆ อาจจะไม่ได้วีซ่าทันก่อนวันเดินทาง
พอถึงคิวปุ้ป ผมก้ไปยื่นเอกสารครับที่ช่อง 41 จำได้เลย555
มาถึงเอกสารอันแรก(แบบฟอร์ม) ผมก็ทำผิดเลยครับ แต่ผมโชคดีมากครับ เจ้าหน้าที่เค้ายื่นแบบฟอร์มของออสเตรียมาให้และให้ผมกรอกทั้งหมด ณ ตรงนั้นเลยครับ
นอกจากนั้น รูปถ่ายผมก็ดันมาผิดอีก รูปถ่ายผมพื้นหลังเป็นสีครีมครับ แต่เค้าต้องการสีขาว เค้าก็เลยให้ไปถ่ายใหม่ครับ ที่ข้างหน้าทางเข้า ราคา 250 บาท
พอยื่นเอกสารทั้งหมดเสร็จ เค้าก็ให้ผมเขียนจดหมาย insist ครับ เนื้อความประมาณว่าเนื่องจากวันที่ผมยื่นเอกสารกับวันเดินทาง มันห่างกันไม่ถึง 15 วัน ถ้าออกไม่ทัน ก็ถือเป็นความรับผิดชอบของผมครับ
หลังจากเขียนจดหมายเสร็จ ก็ชำระเงินครับ ผมจ่ายไป 2,650 บาทถ้วน และไปนั่งรอสแกนลายนิ้วมือครับ พอสแกนลายนิ้วมือเสร็จ ก็เป็นอันจบพิธี
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าวีซ่าผมจะออกทันวันเดินทางไหม (อีก 11 วัน) หลายๆคนบอกว่าไม่ทราบ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานทูตอย่างเดียวเลย แต่ให้ทำใจไว้ดีกว่า ผมก้เครียดและจิตตกหนักกว่าเดิมครับ
4. รับวีซ่า
วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันที่ผมไปยื่นเอกสารทำวีซ่าครับ ในใจก็ตุ้มๆต่อมๆครับ ว่าจะทันหรือป่าว
แต่แล้ว
วันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ผมก็ได้รับ sms จาก vfs ครับ ว่าวีซ่าเสร็จแล้ว ให้มารับ asap เท่านั้นล่ะครับ ผมโล่งอกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่เนืองจาก เค้าส่งมาตอน 15.43 น. และเค้าเปิดให้รับวีซ่าแค่ช่วง 13.00-16.00 ผมเลยไปรับวันถัดไปครับ
วันที่ 28 มิถุนายน ผมก็เข้าไปเอาวีซ่าครับ process คล้ายๆตอนไปยื่นเอกสารครับ คือต้องไปรับบัตรคิวก่อน
จากนั้น เตรียม สำเนา passport ที่มีตราปั๊ม และใบเสร็จ โดย 2 อันนี้ เค้าจะให้มาหลังจากเราชำระเงินเสร็จครับ ไปยื่นให้เค้าครับ
เป็นอันจบการทำวีซ่าเชงเก้นครับผม
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้นี้จะเป็นข้อมูลสำหรับคนที่แพลนจะทำวีซ่าเชงเก้นและเป็นเครื่องเตือนใจให้คนที่มีแพลนจะทำวีซ่าไม่ประมาทและไม่ชะล่าใจแบบผมนะครับ ผมคิดว่าผมโชคดีมากๆๆครับที่ได้วีซ่าทันเวลา ภายใน 3 วัน อยากให้ทุกท่านวางแผนกะเวลาดีๆไปเลยครับ
และสำหรับคนที่ยื่นวีซ่าต่ำกว่า 15 วัน เหมือนผม ผมอยากบอกว่า ยังมีความหวังอยู่นะครับ สิ่งที่ผมแนะนำได้คือ เตรียมเอกสารไปให้พร้อมเลยครับ เอกสารเกินยังดีกว่าขาดนะครับ อะไรที่คิดว่าอาจจะต้องใช้ แต่เค้าไม่ได้ระบุไว้ เอาไปเผื่อก็ดีครับ เป็นกำลังใจให้ ลุ้น ด้วยคนครับ
สุดท้ายนี้ ใครมีคำถามเพิ่มเติม อยาก counter ผม หรืออยากแชร์ประสบการณ์ก็พูดคุยกันได้เลยนะครับ ผมหวังว่ากระทู้นี้ของผมจะสามารถเป็นแนวทางสำหรับคนที่จะขอวีซ่าเชงเก้นไป ออสเตรีย สโลวีเนีย หรือ มอลต้าครับ