เห็นมีหลายคนมาบ่นเรื่องวงเอาแต่ออกงานนอก ไม่ทุ่มเทงานไอดอลเหมือนเก่า ซึ่งก็นำมาซึ่งข้อถกเถียงมากมาย เช่น งานไอดอลคืออะไรหว่า ? บางคนก็ว่า วงไม่เห็นจะทิ้งงานไอดอลเลย เธียเตอร์ จับมือ อีเวนท์ ก็ยังครบ (เธียเตอร์วง BNK ไม่เคยมาต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะจำนวนสมาชิกตัวยืนไม่เพียงพอ ดังนั้นการพึ่งจะมาบ่นคงไม่สมเหตุสมผลเท่าไร) ซึ่งก็แล้วแต่จะถกเถียงกันไปนะครับ...
แต่ผมอยากจะแชร์ความรู้สึกว่า การตามวงช่วงนี้มันเหมือนกับขาดอะไรไปบางอย่างอยู่จริงๆ ซึ่งเหตุผลนั้นผมขอย้อนกลับไปที่บทสัมภาษณ์ของคุณต้อมเมื่อปีก่อน
"ไม่ต่างอะไรจากกลุ่มโอตะ ที่จิรัฐบอกว่าแฟนคลับวง BNK48 ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความเป็นโปรโมเตอร์และ User Generated Content ในตัว พร้อมช่วยโปรโมตวงและศิลปินได้อย่างแพร่หลายและทั่วถึง ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นและแต้มต่อที่ช่วยให้ BNK เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว"
https://thestandard.co/bnk48-strategy-business/
อย่างที่หลายความเห็นบอก โอตะ BNK มีความแอคทีฟสูงมาก ทั้งโปรโมทโอชิ สร้าง content ซึ่งนี่มันคือการ "ผลิตซ้ำ" เพื่อสร้างกระแสให้มันสูงอยู่ตลอด
และคุณต้อมก็ยังพูดซ้ำอีกในบทสัมภาษณ์ปีนี้
"จิรัฐ บอกว่ากระแสความนิยม BNK48 มาก่อนละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่ละครจบไปนานแล้ว แต่ถึงวันนี้ BNK48 ยังถูกพูดถึงอยู่และมีงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ “ทุกวันนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม” งานจับมือคนยังแน่น ออกอีเวนต์ห้างแตกเหมือนเดิม แม้สื่อพูดถึงไม่มากเท่าปีก่อน แต่แฟนคลับ BNK48 ยังพูดถึงตลอดเวลา เห็นได้จาก trend twitter เมื่อมีงานที่เกี่ยวกับน้องๆ ก็ยังติดอันดับ 1"
https://positioningmag.com/1233530
ไม่ว่าจะมาตามวงก่อนหรือหลังคุกกี้ฟีเวอร์ ผมว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บรรดา online content ของวง BNK นี่มันเยอะมากๆ ทั้งจาก อฟช และแฟนคลับช่วยกันทำ (ซึ่งนี่เป็นข้อได้เปรียบของ BNK เหนือวงพี่ที่ญี่ปุ่น คืออย่างน้อยๆวงพี่เขาไม่ให้อิสระการถ่ายรูปมากเท่าวงเรา) เรียกได้ว่า ถาโถมจนเสพกันไม่หวาดไม่ไหวเลยดีกว่า
แต่พอวงเน้นงานที่ทำกับบริษัทอื่น หรือที่เรียกว่า "งานนอก" มันทำให้ content ตรงนี้ขาดหายลงไป (เยอะ) ครับ เพราะ
"ไม่มีบริษัทที่มาร่วมงานด้วยที่ไหนที่เขาจะยอมให้แฟนคลับหรือแม้แต่ อฟช เอง เอาความลับมาเปิดเผยก่อนจะออกฉายจริง"
อย่างถ่าย Where We Belong แฟนคลับแทบไม่รู้ความเคลื่อนไหวของมิวสิคและเจนนิสเลย ตามได้อย่างมากก็คือ มีคนไปสังเกตการณ์แล้วเอามาวาดรูปเป็นการ์ตูนในทวิตเตอร์ และงานอื่นๆเช่น ซีรีส์ ละคร หนัง ก็จะเป็นอย่างนี้หมด แฟนคลับจะรู้ก็ต่อเมื่องานเสร็จแล้วออกฉายจริงเท่านั้น แล้วเมื่อมีงานแบบนี้มากๆขึ้น มันจะไปเบียดบังทำให้จำนวน content ในโลกโซเชี่ยลน้อยลง เช่น เมื่อก่อนเราอาจรอดูรูปปัญทำหน้าเหวอ รอดูรายการครัวคุณไข่ ทุกๆเย็น แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ละ ปัญนานๆอัพโซเชี่ยลทีเพราะติดถ่ายซีรีส์ ส่วนคุณไข่ไปถ่ายหนังไทบ้าน
ผมว่าของพวกนี้มันเหมือนยาเสพย์ติดนะครับ ยิ่งเสพ content มากก็ยิ่งต้องการมากขึ้น แต่พอช่วงไหนของขาด มันจะเหมือนเป็นสุญญากาศ มันขาดตอนน่ะครับ...
สรุป : คนที่บอกว่างานนอกเยอะไปเขาก็มีประเด็นอยู่ครับ แต่ในความเห็นผมปัญหาไม่ได้อยู่ที่งานไอดอล (ซึ่งก็ไม่รู้คืออะไร) แต่มันอยู่ที่ว่าตอนนี้วงเน้นงานบันเทิงแบบเก่าที่หลายครั้งมันขัดและเบียดบัง social content ที่เป็นจุดขายหลักจุดหนึ่งของวง
ในความเห็นผมก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไรนะครับ แต่ก็อยากจะแชร์ความเห็นและชวนมาถกกัน
วิเคราะห์ : การที่แฟนคลับหลายคนออกมาบ่นเรื่องงานนอกเยอะไปในช่วงนี้ อาจเป็นเพราะ content ออนไลน์มันขาดช่วงไป
แต่ผมอยากจะแชร์ความรู้สึกว่า การตามวงช่วงนี้มันเหมือนกับขาดอะไรไปบางอย่างอยู่จริงๆ ซึ่งเหตุผลนั้นผมขอย้อนกลับไปที่บทสัมภาษณ์ของคุณต้อมเมื่อปีก่อน
"ไม่ต่างอะไรจากกลุ่มโอตะ ที่จิรัฐบอกว่าแฟนคลับวง BNK48 ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความเป็นโปรโมเตอร์และ User Generated Content ในตัว พร้อมช่วยโปรโมตวงและศิลปินได้อย่างแพร่หลายและทั่วถึง ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นและแต้มต่อที่ช่วยให้ BNK เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว"
https://thestandard.co/bnk48-strategy-business/
อย่างที่หลายความเห็นบอก โอตะ BNK มีความแอคทีฟสูงมาก ทั้งโปรโมทโอชิ สร้าง content ซึ่งนี่มันคือการ "ผลิตซ้ำ" เพื่อสร้างกระแสให้มันสูงอยู่ตลอด
และคุณต้อมก็ยังพูดซ้ำอีกในบทสัมภาษณ์ปีนี้
"จิรัฐ บอกว่ากระแสความนิยม BNK48 มาก่อนละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่ละครจบไปนานแล้ว แต่ถึงวันนี้ BNK48 ยังถูกพูดถึงอยู่และมีงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ “ทุกวันนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม” งานจับมือคนยังแน่น ออกอีเวนต์ห้างแตกเหมือนเดิม แม้สื่อพูดถึงไม่มากเท่าปีก่อน แต่แฟนคลับ BNK48 ยังพูดถึงตลอดเวลา เห็นได้จาก trend twitter เมื่อมีงานที่เกี่ยวกับน้องๆ ก็ยังติดอันดับ 1"
https://positioningmag.com/1233530
ไม่ว่าจะมาตามวงก่อนหรือหลังคุกกี้ฟีเวอร์ ผมว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บรรดา online content ของวง BNK นี่มันเยอะมากๆ ทั้งจาก อฟช และแฟนคลับช่วยกันทำ (ซึ่งนี่เป็นข้อได้เปรียบของ BNK เหนือวงพี่ที่ญี่ปุ่น คืออย่างน้อยๆวงพี่เขาไม่ให้อิสระการถ่ายรูปมากเท่าวงเรา) เรียกได้ว่า ถาโถมจนเสพกันไม่หวาดไม่ไหวเลยดีกว่า
แต่พอวงเน้นงานที่ทำกับบริษัทอื่น หรือที่เรียกว่า "งานนอก" มันทำให้ content ตรงนี้ขาดหายลงไป (เยอะ) ครับ เพราะ "ไม่มีบริษัทที่มาร่วมงานด้วยที่ไหนที่เขาจะยอมให้แฟนคลับหรือแม้แต่ อฟช เอง เอาความลับมาเปิดเผยก่อนจะออกฉายจริง"
อย่างถ่าย Where We Belong แฟนคลับแทบไม่รู้ความเคลื่อนไหวของมิวสิคและเจนนิสเลย ตามได้อย่างมากก็คือ มีคนไปสังเกตการณ์แล้วเอามาวาดรูปเป็นการ์ตูนในทวิตเตอร์ และงานอื่นๆเช่น ซีรีส์ ละคร หนัง ก็จะเป็นอย่างนี้หมด แฟนคลับจะรู้ก็ต่อเมื่องานเสร็จแล้วออกฉายจริงเท่านั้น แล้วเมื่อมีงานแบบนี้มากๆขึ้น มันจะไปเบียดบังทำให้จำนวน content ในโลกโซเชี่ยลน้อยลง เช่น เมื่อก่อนเราอาจรอดูรูปปัญทำหน้าเหวอ รอดูรายการครัวคุณไข่ ทุกๆเย็น แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ละ ปัญนานๆอัพโซเชี่ยลทีเพราะติดถ่ายซีรีส์ ส่วนคุณไข่ไปถ่ายหนังไทบ้าน
ผมว่าของพวกนี้มันเหมือนยาเสพย์ติดนะครับ ยิ่งเสพ content มากก็ยิ่งต้องการมากขึ้น แต่พอช่วงไหนของขาด มันจะเหมือนเป็นสุญญากาศ มันขาดตอนน่ะครับ...
สรุป : คนที่บอกว่างานนอกเยอะไปเขาก็มีประเด็นอยู่ครับ แต่ในความเห็นผมปัญหาไม่ได้อยู่ที่งานไอดอล (ซึ่งก็ไม่รู้คืออะไร) แต่มันอยู่ที่ว่าตอนนี้วงเน้นงานบันเทิงแบบเก่าที่หลายครั้งมันขัดและเบียดบัง social content ที่เป็นจุดขายหลักจุดหนึ่งของวง
ในความเห็นผมก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไรนะครับ แต่ก็อยากจะแชร์ความเห็นและชวนมาถกกัน