แปลบทสัมภาษณ์ โอคุโบะ มิโอริ ในนิตยสาร Weekly WiSE ฉบับที่ 666


แปลบทความในนิตยสาร Weekly WiSE ฉบับที่ 666 โดย @Take เพจ Miori Oshi อวยมี่48
หมายเหตุ: บทความนี้อยู่ในคอลัมน์ WiSE Yell ซึ่งเป็นคอลัมน์สร้างแรงบันดาลใจโดยการแนะนำคนญี่ปุ่นที่กำลังพยายามในเรื่องใดเรื่องหนึ่งในประเทศไทย

หัวคอลัมน์: จะเป็นสะพานเชื่อมไทยและญี่ปุ่น ผ่านกลุ่มไอดอลแห่งชาติ ‘BNK48’
คำโปรยในรูปด้านขวา: “สื่อสารสิ่งที่อยากทำออกมาเป็นคำพูด และบอกเล่าถึงเสน่ห์ของทั้ง 2 ประเทศ”


โอคุโบะ มิโอริ ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ขณะเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รวมเวลาที่อาศัยอยู่ในไทยทั้งหมด 10 ปี

ฉันอยากทำงานที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น”

เธอเริ่มโอบกอดความรู้สึกเช่นนั้นเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ จนในที่สุดก็ได้ผ่านการออดิชั่นเข้ามาเป็น BNK48 ในเดือนธันวาคมปี 2016 อนาคตที่เธอวาดฝันไว้ในปีที่ 3 ของการเป็นไอดอลนั้นจะเป็นอย่างไรกัน

ขณะที่เธอเรียนอยู่ชั้นม.6 และกำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นครู แต่เมื่อผ่านการออดิชั่นเป็น BNK48 (ที่เธอสมัครไปเพราะความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น) ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

“ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะผ่านเข้ารอบค่ะ พูดตรงๆ ตอนนั้นฉันก็รู้สึกสับสนอยู่เหมือนกัน แต่ก็คิดว่าโอกาสในการทำงานในฐานะ BNK48 น่าจะมีแค่ตอนนี้เท่านั้น เลยไม่อยากเสียใจทีหลังค่ะ

วันที่เริ่มฝึกซ้อมวันแรก ณ สถานที่ตรงนั้น... มิโอริซังต้องร้องไห้อย่างหนักและฝืนยิ้มอย่างขื่นขมในเวลาเดียวกัน
“ในตอนนั้นถึงฉันจะอยู่ที่ไทยมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว แต่กลับร้องเพลงไทยที่ได้รับโจทย์มาไม่ได้เลยสักนิดเดียว......
ทำได้แค่รู้สึกเจ็บใจ แล้วน้ำตาก็เอ่อล้นออกมา” และคนที่คอยสนับสนุนเธอในตอนนั้น ก็คือเหล่าเมมเบอร์ที่เพิ่งได้พบกันเป็นครั้งแรกนั่นเอง จากนั้น ตัวเธอเองก็ได้เขียนเนื้อเพลงภาษาไทยเป็นตัวอักษรฟุริกานะ (คำอ่านภาษาญี่ปุ่น) และจดจำโดยใช้แค่เพียงสองหูและสองตาเท่านั้น

“เพราะตอนนั้นไม่เข้าใจภาษาไทยเลย ก็เลยรู้สึกเจ็บปวดเอามากๆ แต่ในตอนนี้ก็พูดได้แล้วว่าสิ่งที่เกิดในช่วงเวลานั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น ส่วนหนึ่งเพราะฉันพูดไทยไม่ได้ ก็เลยคิดว่าต้องขัดเกลาการแสดงออกทางสีหน้าและการเพอร์ฟอร์มานซ์บนเวทีแทน แล้วก็ยังมีแฟนๆ ที่ช่วยจดจำภาษาญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กัน และคอยก้าวไปข้างหน้าอยู่เคียงข้างกัน สายสัมพันธ์ของพวกเราจึงยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นค่ะ”

(รูปจากรายการ ii ne Japan)
มิโอริกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ไปเยือนฮอกไกโดในรายการ TV ของไทยที่แนะนำเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่น “ii ne JAPAN” 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถ้าหากไม่ได้มาเป็นไอดอลก็คงไม่ได้พบกับประสบการณ์เช่นนี้อย่างแน่นอน มิโอริซังที่ได้รับกำลังใจอย่างมากมายนั้นจึงได้ก้าวต่อไปอย่างมุ่งมั่น แม้ในช่วงแรกจะยังมีชื่อติดอยู่ในเซมบัตสึ แต่ในงาน General Election ของ BNK48 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมปีนี้นั้น ผลก็คือเธอหลุดจากเซมบัตสึ 16 คนมาอยู่ที่อันดับ 20

“ทั้งรู้สึกเจ็บใจ และรู้สึกผิดที่ทำให้แฟนๆ ต้องลำบากในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ต้องประหยัดมากขึ้น และเพราะฉันได้รับการสนับสนุนมากมายเหลือเกิน ฉันจึงอยากจะตอบสนองมันให้ได้”

“สิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้ เพื่อให้กรุ๊ปเป็นที่รักในระยะยาว”

มิโอริซังเล่าว่าในอดีตช่วงแรกที่ก่อตั้งวงนั้น สถานะของ BNK48 คือได้แฟนๆ ของ AKB48 มา “ช่วยสนับสนุน” แต่ด้วยอิทธิพลจากซิงเกิ้ล “คุกกี้เสี่ยงทาย” ที่จำหน่ายในปี 2017 ทำให้วงก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นไอดอลแห่งชาติ มีงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และสัมผัสได้ถึงความนิยมที่สูงขึ้นอย่างท่วมท้น โดยมีแฟนๆ ที่เชียร์ BNK48 เพียงวงเดียวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็น่าหวาดหวั่นเพราะความมุ่งมั่นในฐานะกรุ๊ปที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในช่วงแรกๆ นั้นกำลังจะเลือนหายไป

“กรุ๊ปไอดอลในประเทศไทยก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ความนิยมในตอนนี้จะมีไปถึงตอนไหนก็ไม่รู้ ดังนั้นในตอนนี้ต้องคอยกระตุ้นเมมเบอร์ให้เร่งฝึกฝน พัฒนาตัวเองไปด้วยกัน เราจะมาพอใจแค่ตรงนี้ไม่ได้” มิโอริกล่าวด้วยสีหน้าเครียดๆ

หลังจากรับสมาชิกรุ่น 2 เข้ามา บทบาทในฐานะฝ่ายสนับสนุนของมิโอริก็เพิ่มขึ้น ถ้ามีเมมเบอร์ที่เต้นไม่ได้ก็จะเข้าไปฝึกเต้นด้วย ถ้าบนเวทีมีเมมเบอร์คนไหนที่ไม่กล้าพูดก็จะส่งเสียงเรียกให้เธอได้พูดออกมา และแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนที่ชอบก้าวออกไปยืนข้างหน้าสักเท่าไหร่ แต่ก็มีหลายๆ ครั้งที่เธอต้องตัดสินใจเอ่ยปากพูดออกไปในสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากๆ “โดยเฉพาะเมมเบอร์รุ่น 2 หลังจากนี้ก็อยากให้พยายามต่อไปด้วยความรู้สึกที่อยากผลักดันกรุ๊ปไปข้างหน้า แล้วก็รุ่น 3. รุ่น 4, …… ต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่ว่าอีกกี่ 10 ปี ฉันก็ยังคงอยากเฝ้ามอง BNK48 อยู่เหมือนเดิมแบบนี้ เพราะฉันอยากให้วงนี้เป็นที่รักในระยะยาวค่ะ”

ในขณะที่มองภาพรวมของวงเช่นนั้น เธอก็ชี้ให้เราเห็นถึงลักษณะที่เป็นจุดอ่อนของตัวเองด้วย เธอได้อธิบายถึงความสับสนที่ยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ
“ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง การเต้น การทำอาหาร หากเทียบกับเมมเบอร์คนอื่นๆ แล้วตัวฉันไม่มีจุดเด่นอะไรเลย แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่นานคำตอบที่ฉันได้รับก็คือ ฉันเป็น ‘ไอดอลคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ที่ประเทศไทยมาเกินครึ่งชีวิต’ ค่ะ พอระลึกถึงภูมิหลังของตัวเองขึ้นมาได้แบบนั้น ก็ตั้งปณิธานขึ้นมาในใจขึ้นมาอีกครั้งว่าอยากจะเป็นคนที่สามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของทั้งประเทศไทยและญี่ปุ่นออกมาให้ได้

และเพื่อขานรับกับความรู้สึกเหล่านั้น เธอจึงได้เข้าร่วมรายการ TV แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น “ii ne JAPAN” (อี้เนะ เจแปน) ซึ่งถ่ายทำและออกอากาศในปีนี้ ร่วมกับเมมเบอร์คนอื่นๆ นอกจากนี้ยังค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับประเทศไทยผ่านการใช้ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และดูเหมือนว่าเธอกำลังท้าทายกับการถ่ายทำคลิปภาพเคลื่อนไหวต่างๆ อีกด้วย... ในตอนนี้ เธอกำลังค้นหาหนทางของตัวในฐานะไอดอล ในฐานะโอคุโบะ มิโอริ บนเส้นทางเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่มีใครเหมือน...

ประวัติ
“โอคุโบะ มิโอริ”

เกิดที่จังหวัดอิบารากิในปี 1998, สมาชิก BNK48 รุ่นที่ 1,
ย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยในปี 2009 เนื่องจากงานของคุณพ่อคุณแม่,
อายุ 17 ปี ผ่านการออดิชั่นของ BNK48 และเริ่มต้นอาชีพไอดอล,
อายุ 18 ปี ได้แสดงละครเวที AKB48 “โรมิโอกับจูเลียต” ในบท ‘เบนโวลิโอ’,
ของกินที่ชอบคือเซมเบ้

อัลบั้มที่ 2
“JABAJA” 

มีกำหนดเปิดตัวในเดือนสิงหาคม
ปัจจุบันเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว!

อัลบั้มที่รวมเพลงเก่าๆ ที่เคยวางจำหน่ายไปแล้ว และเพิ่มเพลงใหม่ๆ เข้าไป “JABAJA”(จาบาจา) กำลังเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าผ่านทางเว็บ “SHOPEE” นอกจากนี้อย่าลืมเช็คข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงน้องสาว “CGM(เชียงใหม่)48” ที่เพิ่งประกาศก่อตั้งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา! ติดตามข่าวสารล่าสุดของกรุ๊ปได้ผ่านทางช่องทางด้านล่าง
www.bnk48.com
facebook: BNK48 / CGM48

จากใจกองบรรณาธิการ:
สำหรับมิโอริซัง ตั้งแต่เดบิวต์มาก็ได้ให้สัมภาษณ์กับเรารวมทั้งหมด 3 ครั้งแล้ว พวกเราไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมภาษณ์คนๆ เดียวซ้ำหลายๆ ครั้งสักเท่าใดนัก ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงมากมายในตัวเธอ ช่างเป็นข้อมูลในการเขียนบทความที่ล้ำค่า และเป็นการพบปะที่น่าจดจำจริงๆ ขอบคุณครับ (ยามากาตะ, ผู้เขียน)

Link อ่านออนไลน์: (สามารถ download เป็น PDF ได้) 
https://www.wisebk.com/magazine/71924

ขอบคุณ ที่มา+แปล  : 
เพจ Miori Oshi อวยมี่48  
https://www.facebook.com/OshiMiiko48/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่