สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึง Xiaomi Mi 9 สมาร์ทโฟนเรือธง ในวันที่ Xiaomi Mi 9T หรือ K20 เปิดตัวบนโลกใบนี้กันนะครับ ว่า Mi 9 ยังคงจะหน้าใช้อยู่หรือไม่

เรามารู้จักสเปคของ Xiaomi Mi 9 คร่าวๆที่คนเลือกซื้อมือถือกันก่อนละกันครับ เริ่มจากหน้าจอ Samsung OLED ขนาด 6.39" ความละเอียด Full HD ในอัตจราส่วน 19.5:9 ที่มีความทนทานสูงด้วยกระจกกอลิลล่า 6 ส่วนกระจกฝาหลังนั้นเป็นกอลิลล่า 5 เท่านั้น ส่วนเฟรมเครื่องอลูมิเนียมนั้นใช้ อลูมิเนียมซีรี่ย์ 7000 กันเลยทีเดียว.

ในส่วนของ SoC ที่ใช้นั้นเป็นระดับเรือธงของ Qualcomm ปี 2019 อย่าง Snapdragon 855 แรม 6GB เนื้อที่ 128GB ส่วน ROM (Read [Only] Memory ยุคนี้ไม่มีใครเอามาใช้กันแล้วละมั้ง น่าจะใช้เนื้อที่ในเครื่องแบ่งส่วนไว้สำหรับลง Firmware แทน... ในส่วนของประสิทธิภาพนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในปีนี้ที่เล่นเกมได้ดีหนึ่งตัวเลย แต่แบตเตอรี่ก็อาจจะไม่อึดนักเพราะมีขนาดอยู่ที่ 3,300 mAh ซึ่งเล่นชั่วโมงนึงแบตหายไป 30% พอๆกับ Mi 9se นั่นเอง แต่ถ้าไม่ได้เล่นเกมในหนึ่งวันก็อยู่ได้สบายๆ เพราะ Qualcomm Snapdragon 855 นั้นมี Arm-Cortex A55 4 cores สำหรับใช้งานทั่วไปที่จัดการพลังงานได้ดีเป็นอย่างมาก จึงไม่ต้องห่วงเรื่องแบตไหลตอนใช้งานทั่วไปเลย เช่น Youtube, Chrome, IG, Pinterest, etc.

เรื่องสุดท้ายที่เราจะพูดคงหนีไม่พ้นเรื่องกล้อง เออ... ส่วน GPS อย่าพูดถึงมันละกันนะ รู้ๆกันอยู่ว่า GPS ของ Xiaomi นั้นไม่ค่อยได้ดีมากสักเท่าไหร่

โดยกล้องหลักของ Mi 9 นั้นมาพร้อมเซนเซอร์ความละเอียด 12MP f/1.75 ด้วยเทคโนโลยี Quad-Bayer Sensor บน Sony IMX586 ที่สามารถถ่ายรูปได้ความละเอียดสูงสุด 48MP

ส่วนกล้องรองลงมานั้นจะเป็นเลนส์ซูม 2เท่า f/2.2 50mm ความละเอียด 12MP ด้วยเซนเซอร์กล้องจาก Samsung รุ่น Samsung S5K3M5

ส่วนตัวสุดท้าย่เลนส์อัลตร้าไวด์ 16MP f/2.2 17mm เซนเซอร์กล้องจาก Sony IMX481

สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายสามารถดูได้ที่คลิปเลยครับ....

ในส่วนของ Video นั้นถ้าใครคิดจะนำมาถ่าย Vlog ขำๆหรือวิดีโอนั้นต้องบอกก่อนว่า วิดีโอกันสั่นนั้นนิ่งจริงๆ บนความละเอียด Full HD 30fps แต่ถ้าเกิดถ่าย Full  HD 60fps หรือ 4K ขึ้นไปอาจต้องมีไม้กันสั่นสักหน่อยไม่งั้นมันจะแกว่งจนบางทีอาจเกิดอาการอารมณ์เสียขึ้นมาได้เลยทีเดียว

สำหรับดีไซน์ของ 9 นั้นอาจจะโบราณไปหน่อยเมื่อนำมาเทียบกับ 9T ที่ใช้งานจอ Full-view ไร้ติ่งไร้จุด ที่มีขนาดหน้าจอ 6.39" Full HD เท่ากันเป้ะๆ แต่ข้อดีของ Mi 9 เลยก็คือการสลับใช้งานกล้องหน้า-หลัง นั้นจะไวกว่า 9T ในระดับนึง น่าจะเพราะไม่ต้องเสียเวลาเอฟเฟคการสไลด์แผ่น Floppy A ด้านบนของเครื่องมั้งนะ.

ในส่วนของกล้องหลังนั้น สิ่งที่เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือกล้องนูนที่เคยนูนหนากว่าเคสของ Mi 9 นั้นหายไปแล้วบน Mi 9T แต่ต้องแรกมากลับเซนเซอร์ที่มีการดี๊อปสเปคลงสำหรับกล้อง TelePhoto และ UltraWide แต่กล้องหลังยังคงใช้สเปคเท่ากันเหมือนเดิม

งถ้าเกิดใครที่ต้องการเน้นเล่นเกม หรือถ่ายรูปยังไงก็คงต้องมาเล่น Mi 9 อยู่ดีเพราะ สเปคที่โดยรวมยังคงอัดแน่นได้ดีกว่า 9T พอสมควร แต่ถ้าใครที่เน้นแบตอึดเล่นได้เพลินๆทั้งวัน ก็คงต้องเลือก 9T แล้วละ แบต 4,000 mAh ยังไงมันก็อึดกว่า 3พันอยู่ดี .....

สำหรับมินิรีวิวของ Xiaomi Mi 9T เร็วๆนี้ไว้เจอกันครับ ขอตัวลาไปก่อนครับ บายครับ.