“ภัยไซเบอร์”นับวันยิ่งมากขึ้น พร้อมกับมีรูปร่างหน้าตามปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อหวังหาประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโนยีใหม่ ๆ ในทางมิชอบ
“BOT พระสยาม Magazine” เสนอบทความ “3 อันดับภัยไซเบอร์ใกล้ตัวท่ีคนไทย ถูกหลอกมากที่สุด” ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการกล่าวอยู่ตลอดเวลา มีกรณีความเสียหายมากขึ้น ทั้งจำนวนเหยื่อและมูลค่าทางเศรษฐกิจ มีรายละเอดียกดังนี้
หากพูดถึงภัยไซเบอร์ในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินข่าวการโจมตีสถาบันการเงิน ภาคธุรกิจต่าง ๆ หรือหน่วยงาน ภาครัฐมาบ้างแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้น ภัยไซเบอร์อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าท่ีคิด คอลัมน์ Financial Wisdom ฉบับน้ี จะพาไปทําความรู้จักภัยไซเบอร์ใกล้ตัวแต่ละประเภทที่ควรรู้ รวมถึงแนะนําาวิธีรับมือและป้องกันตนเองจากภัยที่อาจเกิดข้ึน
ภัยประเภทที่ 1 : มิจฉาชีพบน Social Media
ในยุคแห่ง Social Media นั้นเราคงปฏิเสธไม่ไ่ด้ว่าเราใช้ชีวิตและทํากิจกรรมตางๆ บนโลกออนไลน์มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน ซึ่งมิจฉาชีพเองก็ใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เช่นเดียวกัน โดยอาศัยข้อมูลจากแชทหรือ โพสต์ต่าง ๆ เป็นตัวช่วยในการสวมรอยหรือปลอมแปลงข้อมูลเพื่อหลอกลวง ประชาชน ยกตัว อยํา งเช่น การส่งข้อความแชทเพื่อหลอกให้โอนเงิน หรือ การปลอมแปลงสลิปโอนเงินในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งถ้าหากเราไม่ระวังอาจทำให้สูญเสียเงิน หรือเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจได้
วิธีรับมือและป้องกัน :
1. อย่หลงเชื่อข้อความผ่านแชทเพื่อขอให้โอนเงินหรือขอข้อมูลใดๆ หากผู้ส่งข้อความเป็นเพื่อน ควรติดต่อเพื่อนโดยตรงผ่านช่องทํางอื่นเพื่อยืนยัน ตัวตนและจุดประสงค์ก่อน
2. ควรตรวจสอบสลิปโอนเงินจากผู้โอนให้มั่นใจก่อนยืนยันการโอนเงินทุกครั้ง
ภัยประเภทท่ี 2 : อีเมลหลอกลวง (Phishing)
ทุกวันนี้ เราทุกคนมีอีเมลเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันและ สมัครบริการต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ จึงไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ที่เหล่ามิจฉาชีพจะนิยมใช้ช่องทางนี้ในการแสวงหาผลประโยชน์หรือ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งหนึ่งในกรณที่พบเห็น คือ การส่งอีเมลโดยแอบอ้างเป็นธนาคารพาณิชย์ เพื่อหลอกให้ทำธุรกรรมหรือ กรอกข้อ มูล สําคัญ เช่น รหัสผ่าน หมายเลขบัตราดครดิต นอกจากนี้ มิจฉาชีพอาจฝังมัลแวร์ (โปรแกรมมุ่งร้าย) ไว้ในเอกสารแนบของอีเมล ซึ่งหากเปิดไฟล์ดังกล่าว จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้รับ เกิดความเสียหายได้ เช่น ไฟล์ต่าง ๆ ถูกยึดเพื่อเรียก ค่าไถ่ หรือ ระบบคอมพิวเตอร์ถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานได้
วิธีรับมือและป้องกัน :
หากได้รับอีเมลต้องสงสัยให้ “คิด” ก่อน “คลิก” ควรตรวจสอบ ผู้ส่ง เน้ือหา และลิงก์ภายในอีเมลโดยละเอียดก่อนตอบกลับหรือให้ ข้อมูลใดๆ ทุกคร้ัง
ภัยประเภทที่ 3 : การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (Data Theft)
สำหรับผู้อ่านท่ีติดตามข่าวด้าน Cybersecurity ในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่ามีข่าวเว็บไซต์และบริการหลายแห่งถูกแฮกข้อมูล หรือทำข้อมูลรั่วไหลออกมาบ่อยครั้ง ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์และบริการ สาธารณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้อยู่ด้วย โดยข้อมูลท่ีรั่วไหล มักเป็นข้อมูลสําคัญ เช่น ชื่อบัญชีอผู้ใช้งาน รหสัผ่าน หรือข้อมูลบัตร เครดิต และมิจฉาชีพสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเข้าถึงบัญชี ผู้ใช้งานของเรา หรือกระทำการใดโดยมิชอบในนามของเราได้ เช่น โอนเงินโดยทุจริต
วิธีรับมือและป้องกัน :
1. ไม่ให้ข้อมูลสําคัญกัเว็บไซต์ หรือบริการใด ๆ หากไม่จำเป็น
2. หมั่นติดตามตามข่าวสารด้าน Cybersecurity อย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีข่าวเว็บไซต์หรือบริการที่ใช้งานอยู่ถูกโขมยข้อมูลไป ควรรีบเปลี่ยนรหัสผ่านหรือ ดําเนินการต่าง ๆ เพื่อป้องกัน หรือลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เช่น อายัดบัตรเครดิตทันที
จะเห็นได้ว่าภัยไซเบอร์น้ันมีหลากหลายรูปแบบ และอาจส่งผลกระทบต่อตัวเรา ครอบครัว และองค์กรได้โดยไม่ทันต้ังตัว ดังนั้น เราจึงต้องตระหนักรู้และเท่าทันภัยไซเบอร์ตลอดเวลาโดย ติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้การอัปเดตอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่ออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ก็เป็นส่ิงที่สำคัญเช่นเดียวกัน
https://money2know.com/%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%8b%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c-4/
3อันดับภัยไซเบอร์ ที่คนไทยถูกหลอกมากที่สุด
“ภัยไซเบอร์”นับวันยิ่งมากขึ้น พร้อมกับมีรูปร่างหน้าตามปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อหวังหาประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโนยีใหม่ ๆ ในทางมิชอบ
“BOT พระสยาม Magazine” เสนอบทความ “3 อันดับภัยไซเบอร์ใกล้ตัวท่ีคนไทย ถูกหลอกมากที่สุด” ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการกล่าวอยู่ตลอดเวลา มีกรณีความเสียหายมากขึ้น ทั้งจำนวนเหยื่อและมูลค่าทางเศรษฐกิจ มีรายละเอดียกดังนี้
หากพูดถึงภัยไซเบอร์ในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินข่าวการโจมตีสถาบันการเงิน ภาคธุรกิจต่าง ๆ หรือหน่วยงาน ภาครัฐมาบ้างแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้น ภัยไซเบอร์อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าท่ีคิด คอลัมน์ Financial Wisdom ฉบับน้ี จะพาไปทําความรู้จักภัยไซเบอร์ใกล้ตัวแต่ละประเภทที่ควรรู้ รวมถึงแนะนําาวิธีรับมือและป้องกันตนเองจากภัยที่อาจเกิดข้ึน
ภัยประเภทที่ 1 : มิจฉาชีพบน Social Media
ในยุคแห่ง Social Media นั้นเราคงปฏิเสธไม่ไ่ด้ว่าเราใช้ชีวิตและทํากิจกรรมตางๆ บนโลกออนไลน์มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน ซึ่งมิจฉาชีพเองก็ใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เช่นเดียวกัน โดยอาศัยข้อมูลจากแชทหรือ โพสต์ต่าง ๆ เป็นตัวช่วยในการสวมรอยหรือปลอมแปลงข้อมูลเพื่อหลอกลวง ประชาชน ยกตัว อยํา งเช่น การส่งข้อความแชทเพื่อหลอกให้โอนเงิน หรือ การปลอมแปลงสลิปโอนเงินในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งถ้าหากเราไม่ระวังอาจทำให้สูญเสียเงิน หรือเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจได้
วิธีรับมือและป้องกัน :
1. อย่หลงเชื่อข้อความผ่านแชทเพื่อขอให้โอนเงินหรือขอข้อมูลใดๆ หากผู้ส่งข้อความเป็นเพื่อน ควรติดต่อเพื่อนโดยตรงผ่านช่องทํางอื่นเพื่อยืนยัน ตัวตนและจุดประสงค์ก่อน
2. ควรตรวจสอบสลิปโอนเงินจากผู้โอนให้มั่นใจก่อนยืนยันการโอนเงินทุกครั้ง
ภัยประเภทท่ี 2 : อีเมลหลอกลวง (Phishing)
ทุกวันนี้ เราทุกคนมีอีเมลเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันและ สมัครบริการต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ จึงไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ที่เหล่ามิจฉาชีพจะนิยมใช้ช่องทางนี้ในการแสวงหาผลประโยชน์หรือ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งหนึ่งในกรณที่พบเห็น คือ การส่งอีเมลโดยแอบอ้างเป็นธนาคารพาณิชย์ เพื่อหลอกให้ทำธุรกรรมหรือ กรอกข้อ มูล สําคัญ เช่น รหัสผ่าน หมายเลขบัตราดครดิต นอกจากนี้ มิจฉาชีพอาจฝังมัลแวร์ (โปรแกรมมุ่งร้าย) ไว้ในเอกสารแนบของอีเมล ซึ่งหากเปิดไฟล์ดังกล่าว จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้รับ เกิดความเสียหายได้ เช่น ไฟล์ต่าง ๆ ถูกยึดเพื่อเรียก ค่าไถ่ หรือ ระบบคอมพิวเตอร์ถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานได้
วิธีรับมือและป้องกัน :
หากได้รับอีเมลต้องสงสัยให้ “คิด” ก่อน “คลิก” ควรตรวจสอบ ผู้ส่ง เน้ือหา และลิงก์ภายในอีเมลโดยละเอียดก่อนตอบกลับหรือให้ ข้อมูลใดๆ ทุกคร้ัง
ภัยประเภทที่ 3 : การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (Data Theft)
สำหรับผู้อ่านท่ีติดตามข่าวด้าน Cybersecurity ในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่ามีข่าวเว็บไซต์และบริการหลายแห่งถูกแฮกข้อมูล หรือทำข้อมูลรั่วไหลออกมาบ่อยครั้ง ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์และบริการ สาธารณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้อยู่ด้วย โดยข้อมูลท่ีรั่วไหล มักเป็นข้อมูลสําคัญ เช่น ชื่อบัญชีอผู้ใช้งาน รหสัผ่าน หรือข้อมูลบัตร เครดิต และมิจฉาชีพสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเข้าถึงบัญชี ผู้ใช้งานของเรา หรือกระทำการใดโดยมิชอบในนามของเราได้ เช่น โอนเงินโดยทุจริต
วิธีรับมือและป้องกัน :
1. ไม่ให้ข้อมูลสําคัญกัเว็บไซต์ หรือบริการใด ๆ หากไม่จำเป็น
2. หมั่นติดตามตามข่าวสารด้าน Cybersecurity อย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีข่าวเว็บไซต์หรือบริการที่ใช้งานอยู่ถูกโขมยข้อมูลไป ควรรีบเปลี่ยนรหัสผ่านหรือ ดําเนินการต่าง ๆ เพื่อป้องกัน หรือลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เช่น อายัดบัตรเครดิตทันที
จะเห็นได้ว่าภัยไซเบอร์น้ันมีหลากหลายรูปแบบ และอาจส่งผลกระทบต่อตัวเรา ครอบครัว และองค์กรได้โดยไม่ทันต้ังตัว ดังนั้น เราจึงต้องตระหนักรู้และเท่าทันภัยไซเบอร์ตลอดเวลาโดย ติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้การอัปเดตอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่ออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ก็เป็นส่ิงที่สำคัญเช่นเดียวกัน
https://money2know.com/%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%8b%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c-4/