ใครเป็นลูกสาวที่ทางบ้านมีเพื่อ"เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ" บ้างคะ

สวัสดีค่ะ กระทู้แรกอยากระบายความรู้สึกของลูกสาวคนนึงค่ะ

เราเป็นลูกสาวคนเล็ก ทางบ้านพ่อแม่ มาจากบ้านนอก แต่คุณพ่อเป็นคนมุมานะทะเยอทะยาน จนปีนป่ายได้ตำแหน่งใหญ่โต ส่วนคุณแม่เป็นครูประถมต้น

ตั้งแต่เล็กเรารู้สึกว่าแม่ไม่ได้รักเรา แต่รักพี่ชายมากกว่าเสมอ 
ด้วยความที่เป็นเด็กไม่รู้หรอกค่ะว่าที่ตัวเองทำมันดีมั้ย แค่อยากให้พ่อแม่รักแค่นั้น เราเป็นเด็กร่าเริง ชอบแสดงออก ชอบโชว์ให้คนอื่นรู้ในสิ่งที่เราเพิ่งเรียนรู้ใหม่ๆ เราเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่เล็กๆ ด้วยกิจกรรมแข่งวาดรูป แข่งเปียโน พอโตขึ้นมาหน่อยก็แข่งเขียนเรียงความ เขียนแข่งแต่งโครงกาพย์กลอน เขียนคัดลายมือ ปัญหาเชาว์ ไปที่ รร ไหน ก็สร้างชื่อเสียงให้ รร ที่ย้ายไปตลอด ครูบาอาจารย์รักใคร่ชื่นชม มีคนขอเป็นลูกบุญธรรมเกิน3 ครอบครัว

แม้เราจะเป็นเด็กกิจกรรม การเรียนเราไม่เคยตก แต่ตอนนั้นไม่เคยรู้หรอกค่ะ ว่าเกรดน้อยเกรดมากคืออะไร ไม่เคยถูกพ่อแม่บอกว่าเกรดที่เราได้มันน้อยหรือมาก เพราะเรามักจะโดนต่อว่าเสมอ จึงคิดมาตลอดว่าตัวเองนั้นเรียนแย่ เก่งแต่กิจกรรมมาตลอด
ช่วงประถมเราและพี่ ได้อยู่ รร เดียวกับที่แม่สอน หลังเลิกเรียนทั้งเราทั้งพี่มักจะไปรอแม่ที่ห้องเรียนของแม่ ครูหลายคนมักจะถามว่า มีลูกชายด้วยหรอ? ทำไมลูกชายถึงไม่ลงแข่งกิจกรรมแบบเราบ้าง แม่เรามักจะตอบเสมอว่า
"ลูกชายเป็นคนไม่ชอบเป็นจุดสนใจค่ะ แต่ลูกสาวเนี่ย เขาชอบเข้ากิจกรรมเพราะอยากเด่น"

พูดครั้งสองครั้งมันไม่เท่าไรหรอกค่ะ นานเข้ามันเริ่มเยอะ แม่เริ่มด่าเราต่อหน้าคนอื่นว่า เอาแต่เรียกร้องความสนใจบ้างล่ะ อยากเป็นจุดเด่นบ้างล่ะ มันทำให้เราเริ่มสับสัน แม่เรามักจะพูดเสมอว่า

"ที่ลูกชายได้เกรดไม่เยอะเท่าไร เพราะไม่อยากเด่น กลัวเป็นจุดสนใจ"

แต่กับเราแม่ทั้งด่าทั้งตี ที่เกรดน้อย เข้าแต่กิจกรรม ด้วยความที่เป็นเด็ก เราเริ่มสับสนว่า ทำไมคนภายนอกถึงรักใคร่เรา เอ็นดู และชื่นชม แต่พ่อแม่กลับดุด่าตีเราเสมอ เราเคยถามพ่อแม่เรา แต่เราได้คำตอบมาว่า
"คนภายนอกน่ะ ไม่ได้มารู้ซักหน่อยว่าลูกน่ะร้ายกาจขนาดไหน เห็นแค่ภายนอกก็ชื่นชมทั้งนั้นแหละ"

"มัวแต่ทำกิจกรรมจนเกรดตก ชอบนักหรอ อยากเด่นอยากดังอะไรขนาดนั้น"

สุดท้าย วัยเด็กที่ต้องการแค่ให้พ่อแม่รักและชื่นชมบ้าง ก็เลิกทำกิจกรรมทั้งหมด ทั้งๆที่เคยชอบมันมากๆ จะแข่งเปียโนแต่ละที กลัวพลาด กลัวทำได้ไม่ดีเสมอ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยกลัวการขึ้นเวที ขาสั่น หูดับ จนเล่นผิดฟังไม่เป็นเพลงในบางครั้ง และทุกครั้งจะได้คำตอบจากแม่เสมอว่า
"ทำได้ไม่ดีแล้วยังจะกล้าขึ้นเวที"

จนเราเคยแอบไปขึ้นแสดงโดยไม่บอกทางบ้าน เพราะตอนขึ้นแสดงโดยไม่มีทางบ้านมาดู จะรู้สึกสบายใจกว่า แต่ก็ยังกลัวการขึ้นเวทีมากๆ ทั้งๆที่เล่นได้ค่อนข้างดี

เราพยายมเรียนอย่างหนัก จนเข้าม.ต้น จำได้ว่าเกรดที่เราเห็นคือ 3.89 แม่และพ่อนั่งด่าเราจนเลยเวลาเข้านอน เช้ามาก็ยังนั่งด่า จนเราไปนั่งร้องไห้ที่ รร (ตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำค่ะ ว่าเกรดสูงสุดคือ4.00) พอไปนั่งร้องไห้ที่ รร โดนเพื่อนหมั่นใส้ว่าได้ขนาดนั้นจะเอาอะไรนักหนา เราตั้งใจเรียนมากเพื่อแค่ให้พ่อแม่ชม แต่เราไม่เคยได้รับคำชมเลย ได้รับแต่คำด่า  
แม่มักจะภูมิใจ ที่พี่ชายหน้าตาหล่อเหลา มีแต่คนบอกว่าเหมือนแม่ และล้อเลียนเราว่าเป็นลิง แก้วหน้าม้า จนเพื่อนๆมาล้อที่ รร ต่อ 
เราพยายามดูแลตัวเองมากขึ้น งดเล่นกีฬา บำรุงผิว เพื่ออยากจะสวยขึ้นให้แม่ชมว่าเป็นลูกแม่บ้าง
เราโดนด่าว่ากระแดะ คนพยายามสวยทำให้ตายยังไงก็ไม่สวยหรอก บอกว่าเราแก่แดด จะท้อง จะบ้าผู้ชาย

จนถึงจุดนึงที่เราเททุกอย่าง ไม่เอามันแล้ว ไม่ทำอะไรซักอย่าง ไม่เรียนมันแล้ว ทำอะไรเท่าไรไปก็โดนด่า สรุป..โดนด่าหนักกว่าเดิม5555555
ด้วยความที่โดนด่าหนักกว่าเดิม และโดนด่าในเรื่องที่เราไม่ได้ทำ บางเรื่องเราเลยประชดทำมันซะเลยเดี๋ยวนั้น 
ก็โดนด่าหนักกว่าเดิม

จนจะเข้ามหาลัย แม่เราคุยกับพ่อว่าไม่ต้องส่งเราเรียนหรอก ปล่อยให้เราอยู่บ้านไปเหอะ
แต่เราดันสอบติดคณะดนตรี ติดอันดับTop100 ของโลก555 ญาติพี่น้องมาแสดงความยินดีและชมพ่อแม่ว่าเลี้ยงลูกเก่ง(?)
ด้วยความที่พ่อแม่มีหน้ามีตาในสังคมและคนอื่นรู้ว่าเราสอบติดมอดัง ก็จำใจส่งเราเรียน

ส่วนพี่ชายเรา ว่างงาน 7 ปี อยากเป็นนักบิน พ่อแม่จึงส่งไปติวที่ กทม กับสถาบันติวการบินดังๆ และติวกับนักบินหลายแห่ง 7 ปี จนพี่เราสอบติดนักบินฝึกหัด แต่เขารับอายุไม่เกิน 30 ปี แต่พี่ชายเราปีนั้นใกล้จะครบ 30 แต่จะได้เรียกเข้าเป็นนักบินฝึกหัดอีกปีหน้า เพราะอยู่อันดับกลางๆเท่ากับว่าพี่ชายอาจจะไม่ได้เป็นเพราะอายุเกิน พ่อเราจึงช่วยเดินเรื่องให้คนรู้จักร่นอันดับมาให้ก่อนอายุจะเกิน จนตอนนี้พี่ชายเป็นนักบินฝึกหัดอยู่สายการบินหนึ่ง

เราเมื่อจบมาแล้ว พ่อแม่ด่าว่าเราขี้เกียจ นอนกินค่าไฟ ไล่เราไปหางานตั้งแต่ยังจบไม่ครบ 3 เดือน ใบรับรองไม่มีซักอย่าง เราระเหเร่ร่อนจนได้เป็นครูสอนฟรีแลนซ์ จนเกือบครบปีถึงรู้ว่าอยากทำอะไรต่อ ขอพ่อแม่ว่าอยากเรียนต่อป.โท
เราโดนแม่พูดเมื่อสองวันที่แล้วว่า

"ดูตัวเองเถอะลูก ว่าลูกน่ะจะมีปัญญาไปเรียนมั้ย?"
ใช้คำนี้เลยค่ะ จะมีปัญญาเรียนมั้ย?
"เอาเงินไปทำอย่างอื่นเถอะเสียดายเงิน และแม่ไม่มีเงินให้หนูหรอก"
และพ่อกับแม่ก็เอาเงินซื้อคอนโดให้พี่อยู่ที่ กทม 4 ล้าน

พ่อเราบอกว่า
"ตั้งแต่ลูกเกิดมา พ่อไม่เคยเห็นลูกทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง"

เรานั่งร้องไห้ในห้อง คุยโทรศัพท์กับแฟน ว่าเราควรจะทำอย่างไร 
เรานั่งร้องไห้ไปอ่านหนังสือไป เราเริ่มมองกลับไปวัยเด็ก พ่อแม่มักจะด่าว่าเราสกปรก เราพยายามปรับตัว และพอโตขึ้นเราถึงได้รู้ว่าพี่ชายเป็นคนที่แม่ไม่เคยสอนให้เก็บอะไรเอง กินอะไรทิ้งไว้จนขึ้นรา แคะหูที่ไหนวางไว้ตรงนั้น ที่แม่ด่าเราสกปรก คือสกปรกที่ไม่ยอมเก็บของที่พี่ชายทิ้งเรี่ยราด
บางครั้งที่พี่ชายทำ ก็บอกเราทำ แม่ด่าเรา เราพยายามอธิบาย แม่บอกเราใส่ร้ายพี่
เรามาเห็นใบเกรดของพี่ตั้งแต่วัยประถมถึงวัยมหาลัย เกรดพี่ไม่เคยถึง3.3 เลย แต่แม่ก็ยังพยายามหาข้อดีมาให้พี่
ส่วนเรา เกรด 3.89 เด็กกิจกรรม รองหัวหน้าห้อง ด่าเราเดือนนึง
จากเด็กร่าเริงช่างพูด ช่างถาม กล้าแสดงออก เห็นเวทีที่ไหนอยากขึ้นแสดงใจจะขาด ตอนนี้ก่อนขึ้นเวทีกลายเป็นต้องกินยาลดอัตรการเต้นของหัวใจ ไม่งั้นขึ้นไม่ได้ ยิ่งมีพ่อแม่มาดูด้วยยิ่งเล่นแย่ กลายเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่กล้าแสดงความคิด
เราไม่อยากโทษพ่อแม่ทั้งหมด เพราะส่วนนึงเป็นตัวเราเองที่เอาพ่อแม่เป็นจุดศูยน์กลางในชีวิต อยากให้เขารัก ทั้งๆที่ น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ว่าแค่เราอยากให้เขารักนั้น แสดงถึงอะไร
แม่ไม่ได้อยากให้เราเรียนหนังสือตั้งแต่แรก เพราะแม่เรา จบ ปวช ปวส เรียนตรีที่บ้าน และสอบครู แม่มองว่า ผญ ไม่จำเป็นต้องเรียนสูง
แต่เรากลับมองว่าถ้าเราเรียนเพิ่ม ก็จะมีทางเลือกในชีวิตที่เพิ่มขึ้น
แต่พ่อแม่กลับมองว่า ไร้สาระ เอาเงินไปซื้อคอนโดให้ลูกชายดีกว่า
เคยถามพ่อแม่ว่า "ทำไมถึงมีลูกสาว" พ่อแม่พยายามพูดกรอกหูเราตั้งแต่เล็กว่า พ่อแม่พยายามอย่างหนักเพื่อจะมีลูกสาว หาหมอฉีดสีเข้ามดลูกเพื่อจะมีลูกสาว
ได้คำตอบว่า

"เพราะหลักสากลแล้ว ครอบครัวไหนที่มีลูกชายและลูกสาวอย่างละคนคือครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ"

ตอนนี้เราคิดจะสอบแอร์และออกจากบ้านเลยไม่กลับไปอีก ออกมาตั้งต้นชีวิตเอง เก็บเงินตอนทำงานแล้วค่อยไปเรียนต่อ ไม่กลับไปอีก ไม่ให้รับรู้ถึงตัวตนเราอีก คิดว่าไหนๆเขาก็มองเราไม่เอาไหน ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นแค่ส่วนนึงที่ทำให้ครอบครัวดูสมบูรณ์แบบ เราออกมาเองดีกว่ามั้ย?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่