สวัสดีทุกคน ก็ตามหัวข้อเลยเราเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบมาสดๆร้อนๆ เรียกได้ว่าตูดยังชาตายังหลอนกับงานวิจัยที่ผ่านมาอยู่เลย
.
.
ต้องบอกก่อนว่าตอนสมัยเรียน เราเชื่อว่า 70% ที่เป็นเหมือนเราในสังคมมหาวิทยาลัย คืองานเยอะ เรียนหนัก กิจกรรมแน่น การเรียนคือทุกอย่างของชีวิตเหนื่อยแบบสุดๆ เหนื่อยจนท้อจนร้องไห้ก็มี แต่เวลาเดินไวเหมือนโกหกจ่ะแม่...... เรียนจบแล้ว!!! .........
ขอมอยก่อนว่าอาทิตย์แรกในการเป็นคนนอนโง่ๆ ดูหนังทุกเรื่องที่อยากดู เมาได้ทุกวันจันทร๋-ศุกร์ ตื่นบ่ายสามนอนตีสี่ คือชีวิตดีดีที่ลงตัวที่สุดในตอนนั้น เเต่เชื่อเถอะ วันนึงทุกคนก็อาจจะเป็นเหมือนเรา
เรานอนโง่ๆอยู่บ้านได้ไม่นาน ถึงวันที่ต้องไปมหาวิทยาลัย เราไปเจอเพื่อนๆของเราก็ถามสารทุกข์สุขดิบ วันนั้นแหละเป็นวันแห่งการพารานอย วันที่อยู่ดีๆชีวิตก็สิ้นหวังแบบไร้ที่มาไร้สาเหตุ5555 เป็นจุดที่ชีวิตดราม่ามากๆเลยนะสำหรับเด็กจบใหม่ แต่ก็นั้นแหละฮ้ะ 'พน.กินเหล้าหน่อยมั้ย' " โทดวะทำงาน" บลาๆ ยิ่งต้องมานอนไถโทรศัพย์จนจอแทบไหม้อยู่บ้าน ยิ่งเห็นว่าเพื่อนหลายๆคนเริ่มที่จะได้ดิบได้ดี คนนั้นได้งานที่บริษัทยักษ์ใหญ่ คนนั้นไปเมกา บลาๆๆ ยิ่งท้อยิ่งนอยด์ จุดนี้และมันจะทำให้เด็กจบใหม่หลายๆคนเป็นโรคๆนึง วันๆก็จะ
- เข้า Google เสริช " สมัครงาน "
- ดาวโหลด appication " Jobbkk / Jobthai "
- Facebook เสริช " หางานพระรามสอง / งานดก "
- รีเฟรช Email
- ไถหน้าจอไปเรื่อยๆ
หลายๆคนที่เป็นเเบบเราบอกเราว่า ทุกเช้าที่ตื่นมาถามตัวเองแค่ว่า " กูดูซีรี่ย์ถึงตอนไหนแล้ววะ " "วันนี้กินไรดี?" ชีวิตมีแค่นี้ ซึ่งมันก็จริง!
มันกลายเป็นว่าสิ่งที่เรากำลังเป็น กำลังต้องเจอเป็นความรักสบายในสายตาของคนอื่น เป็นความขี้เกียจสันหลังยาว เป็นการโดนดูถูกต่างนาๆ
แต่สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ การที่เราเอาสิ่งเรานั้น มาทับทมตัวเราเอง ซึ่งมันก็ต้องยอมรับจริงๆว่าทุกคนบนโลกมีต่อมรับแรงกดดันได้ไม่เท่ากันนั้นแหละ
แต่สิ่งนึงที่จะเป็นแรงสำคัญของเด็กจบใหม่ได้ดีที่สุดคือ ' ครอบครัว ' และคนรอบข้าง
เด็กจบใหม่ที่ฝ่าฟันกับการเรียน การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมาได้อย่างหนักหน่วง อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆสบายๆสำหรับผู้ใหญ่ แต่เชื่อเถอะ การเรียนรู้มันก็ขนานไปในทิศทางเดียวกับวัยของเราทุกคนนั้นแหละค่ะ
ได้โปรด
เชื่อใจ ให้กำลังใจ ปล่อยให้เค้าได้ตัดสินใจ คอยให้คำปรึกษาเค้า ในวันที่เค้าต้องการพวกคุณเถอะนะคะ
การกดดันเค้าด้วยคำพูดที่รุนแรง คำขอร้องที่มันมากเกินกว่าจุดที่เค้าจะหามาให้ได้ ในบางครั้งมันก็ใช้ไม่ได้ในการเป็นแรงขับเคลื่อน และที่แน่ๆมันทำให้คนคนนึงเสียกำลังใจมากๆเลยค่ะ
และสิ่งที่เราจะบอกกับเพื่อนๆทุกคนที่เคยเคว้งคว้าง อ้างหว้างเหลือเกินนนนน Resume ฉันอยู่ในทุกตำแหน่ง ทุก Webside หางาน ใจเย็นๆ!!
หากตอนนี้ที่กำลังอ่านกระทู้นี้แสดงว่ายังพอที่จะมีเวลาว่าง การบ้านวันนี้ของพวกคุณคือ คิดให้ดีว่าคุณชอบอะไร คุณทำอะไรแล้วคุณมีความสุขจริงๆ พึงระลึกไว้เลยว่างานคือส่วนหนึ่งของชีวิต ในหนึ่งวันคุณต้องอยู่กับมัน 70% เลยนะ แล้วคุณจะปล่อยชีวิตในวัยที่คุณยังไฟแรง วัยที่พร้อมจะพัฒนาแบบที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ ไปก้มหน้าก้มตาทำงานงกๆที่ไม่สามารถพัฒนาชีวิตของตัวคุณเอง ชีวิตของคนรอบข้างคุณได้จริงๆหรอ คุณมีสิทธิ์เลือกว่าคุณอยากจะเดินทางไหน มีสิทธิ์แผลนอนาคตตัวคุณเองในสามปี ห้าปี สิบปีข้างหน้าว่าคุณวาดมันไว้อย่างไร คุณสามารถลงมือทำมันตั้งแต่ก้าวแรกได้จริงๆ
ข้อสำคัญก็คือ "
อย่าดูถูกตัวเองเด็ดขาด " เราไม่ได้จะให้คุณอีโก้ใดๆนะ แต่จงเชื่อมั่นเถอะ ว่าเราทำได้ หากเราได้โอกาสนั้น ไขว่คว้าหามันมาใส่มือ ถึงผลลัพย์

จะเละไม่เป็นท่า ใครจะมาว่าคุณเหยีบขี้ไก่ไม่ฝ่อก็ช่าง แต่ทุกโอกาสมันเป็นประสบการณ์เสมอ เชื่อซิ
สุดท้ายเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเอามือเล็กๆของเราคว้านหาอนาคตของตัวเองอยู่
สู้ๆนะ คนหลายๆคนก็เคยผ่านจุดนี้ เพราะฉะนั้นอย่าหยุดหละ วันนี้เหนื่อยแล้วท้อแล้วก็พัก
คิดถึงสิ่งที่ฝัน คนที่รักไว้ หาแรงบันดาลใจไปเรื่อยๆ ชีวิตต้องก้าวต่อไปนะคะ เรากำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว อยู่ที่เราแล้วแหละว่าเราจะเป็นผู้ใหญ่แบบไหน?
สู้ๆนะคะ <3
ความรู้สึกของเด็กจบใหม่..
.
.
ต้องบอกก่อนว่าตอนสมัยเรียน เราเชื่อว่า 70% ที่เป็นเหมือนเราในสังคมมหาวิทยาลัย คืองานเยอะ เรียนหนัก กิจกรรมแน่น การเรียนคือทุกอย่างของชีวิตเหนื่อยแบบสุดๆ เหนื่อยจนท้อจนร้องไห้ก็มี แต่เวลาเดินไวเหมือนโกหกจ่ะแม่...... เรียนจบแล้ว!!! .........
ขอมอยก่อนว่าอาทิตย์แรกในการเป็นคนนอนโง่ๆ ดูหนังทุกเรื่องที่อยากดู เมาได้ทุกวันจันทร๋-ศุกร์ ตื่นบ่ายสามนอนตีสี่ คือชีวิตดีดีที่ลงตัวที่สุดในตอนนั้น เเต่เชื่อเถอะ วันนึงทุกคนก็อาจจะเป็นเหมือนเรา
เรานอนโง่ๆอยู่บ้านได้ไม่นาน ถึงวันที่ต้องไปมหาวิทยาลัย เราไปเจอเพื่อนๆของเราก็ถามสารทุกข์สุขดิบ วันนั้นแหละเป็นวันแห่งการพารานอย วันที่อยู่ดีๆชีวิตก็สิ้นหวังแบบไร้ที่มาไร้สาเหตุ5555 เป็นจุดที่ชีวิตดราม่ามากๆเลยนะสำหรับเด็กจบใหม่ แต่ก็นั้นแหละฮ้ะ 'พน.กินเหล้าหน่อยมั้ย' " โทดวะทำงาน" บลาๆ ยิ่งต้องมานอนไถโทรศัพย์จนจอแทบไหม้อยู่บ้าน ยิ่งเห็นว่าเพื่อนหลายๆคนเริ่มที่จะได้ดิบได้ดี คนนั้นได้งานที่บริษัทยักษ์ใหญ่ คนนั้นไปเมกา บลาๆๆ ยิ่งท้อยิ่งนอยด์ จุดนี้และมันจะทำให้เด็กจบใหม่หลายๆคนเป็นโรคๆนึง วันๆก็จะ
- เข้า Google เสริช " สมัครงาน "
- ดาวโหลด appication " Jobbkk / Jobthai "
- Facebook เสริช " หางานพระรามสอง / งานดก "
- รีเฟรช Email
- ไถหน้าจอไปเรื่อยๆ
หลายๆคนที่เป็นเเบบเราบอกเราว่า ทุกเช้าที่ตื่นมาถามตัวเองแค่ว่า " กูดูซีรี่ย์ถึงตอนไหนแล้ววะ " "วันนี้กินไรดี?" ชีวิตมีแค่นี้ ซึ่งมันก็จริง!
มันกลายเป็นว่าสิ่งที่เรากำลังเป็น กำลังต้องเจอเป็นความรักสบายในสายตาของคนอื่น เป็นความขี้เกียจสันหลังยาว เป็นการโดนดูถูกต่างนาๆ
แต่สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ การที่เราเอาสิ่งเรานั้น มาทับทมตัวเราเอง ซึ่งมันก็ต้องยอมรับจริงๆว่าทุกคนบนโลกมีต่อมรับแรงกดดันได้ไม่เท่ากันนั้นแหละ
แต่สิ่งนึงที่จะเป็นแรงสำคัญของเด็กจบใหม่ได้ดีที่สุดคือ ' ครอบครัว ' และคนรอบข้าง
เด็กจบใหม่ที่ฝ่าฟันกับการเรียน การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมาได้อย่างหนักหน่วง อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆสบายๆสำหรับผู้ใหญ่ แต่เชื่อเถอะ การเรียนรู้มันก็ขนานไปในทิศทางเดียวกับวัยของเราทุกคนนั้นแหละค่ะ
ได้โปรด เชื่อใจ ให้กำลังใจ ปล่อยให้เค้าได้ตัดสินใจ คอยให้คำปรึกษาเค้า ในวันที่เค้าต้องการพวกคุณเถอะนะคะ
การกดดันเค้าด้วยคำพูดที่รุนแรง คำขอร้องที่มันมากเกินกว่าจุดที่เค้าจะหามาให้ได้ ในบางครั้งมันก็ใช้ไม่ได้ในการเป็นแรงขับเคลื่อน และที่แน่ๆมันทำให้คนคนนึงเสียกำลังใจมากๆเลยค่ะ
และสิ่งที่เราจะบอกกับเพื่อนๆทุกคนที่เคยเคว้งคว้าง อ้างหว้างเหลือเกินนนนน Resume ฉันอยู่ในทุกตำแหน่ง ทุก Webside หางาน ใจเย็นๆ!!
หากตอนนี้ที่กำลังอ่านกระทู้นี้แสดงว่ายังพอที่จะมีเวลาว่าง การบ้านวันนี้ของพวกคุณคือ คิดให้ดีว่าคุณชอบอะไร คุณทำอะไรแล้วคุณมีความสุขจริงๆ พึงระลึกไว้เลยว่างานคือส่วนหนึ่งของชีวิต ในหนึ่งวันคุณต้องอยู่กับมัน 70% เลยนะ แล้วคุณจะปล่อยชีวิตในวัยที่คุณยังไฟแรง วัยที่พร้อมจะพัฒนาแบบที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ ไปก้มหน้าก้มตาทำงานงกๆที่ไม่สามารถพัฒนาชีวิตของตัวคุณเอง ชีวิตของคนรอบข้างคุณได้จริงๆหรอ คุณมีสิทธิ์เลือกว่าคุณอยากจะเดินทางไหน มีสิทธิ์แผลนอนาคตตัวคุณเองในสามปี ห้าปี สิบปีข้างหน้าว่าคุณวาดมันไว้อย่างไร คุณสามารถลงมือทำมันตั้งแต่ก้าวแรกได้จริงๆ
ข้อสำคัญก็คือ " อย่าดูถูกตัวเองเด็ดขาด " เราไม่ได้จะให้คุณอีโก้ใดๆนะ แต่จงเชื่อมั่นเถอะ ว่าเราทำได้ หากเราได้โอกาสนั้น ไขว่คว้าหามันมาใส่มือ ถึงผลลัพย์
สุดท้ายเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเอามือเล็กๆของเราคว้านหาอนาคตของตัวเองอยู่
สู้ๆนะ คนหลายๆคนก็เคยผ่านจุดนี้ เพราะฉะนั้นอย่าหยุดหละ วันนี้เหนื่อยแล้วท้อแล้วก็พัก
คิดถึงสิ่งที่ฝัน คนที่รักไว้ หาแรงบันดาลใจไปเรื่อยๆ ชีวิตต้องก้าวต่อไปนะคะ เรากำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว อยู่ที่เราแล้วแหละว่าเราจะเป็นผู้ใหญ่แบบไหน?