สวัสดีค่ะ คือเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่มันคืออะไร เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันน่าเบื่อสำหรับเราไปหมด เราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ป.4แล้วค่ะ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก คือตอนนั้นขึ้นป.4แล้วต้องเปลี่ยนห้องไม่มีเพื่อนเลย โดดเดี่ยวมากค่ะ พอเวลาผ่านไปเราก็ชินชากับมันไปเลยไม่ได้เครีนดอะไรมากทำกับว่าไม่มีเรื่องที่เราต้องเครียดเลย จนเข้ามัธยมค่ะ ม.1เข้าโรงเรียนเราก็ได้รู้จักกับคนคนนึงขอแทนว่า A แล้วเราก็เป็นเพื่อนกับเขา และเพื่อนอีก2คนด้วย ม.1ก็ใช้ชีวิตปกติไม่ได้คิดอะไรมาก พอขึ้นชั้นมัธยมปีที่2 ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปค่ะ เพื่อนสนิทที่เล่นกันตอนม.1อีกสองคน เขาย้ายกลุ่มไปเล่นกับกลุ่มอื่นค่ะ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเรากับAยังสนิทกันอยู่ แต่พอผ่านมาตอนม.2เทอมสอง Aก็เริ่มไม่คุยกับเรา เราเลยไปอยู่กับกลุ่มอื่นแทน เวลาไปพักก็ไปกับกลุ่มนั้น(กลุ่มนี้เราไม่ได้สนิทไรเป็นพิเศษแค่ไปอยู่แก้เบือเรื่อยๆ)แต่ตอนนี้ก็ยังพูดคุยกับAอยู่ค่ะ จนวันนึงเราก็ไปคุยกับเพื่อนในห้องคนนึง จนรู้สึกว่าเค้าเหมือนๆกับเรา เลยสนิทกันค่ะ จนเวลาผ่านไปม.3(ปัจจุบัน)
เราเริ่มปลีกตัวจากผู้คนมากขึ้น รู้สึกว่าทุกอย่างมันเลวร้ายไปหมด เราอคติกับหลายๆสิ่ง สังคม สิ่งแวดล้อม มันเหมือนคนถือปืนจ่อมาที่เราอยู่ เรากลัวการเข้าหาผู้คน ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เราก็ไม่คุยกับAเลยตั้งแต่ปิดเทอม จนตอนนี้เปิดเกือบ3เดือนแล้ว เราเย็นชาไปเลยล่ะค่ะ เราเกลียดผู้คนที่เข้ามาหาเราเเล้วสุดท้ายก็ทิ้งเราไป เราเลยปิดบังความรู้สึกนี้ และความเจ็บปวดนี้ด้วยความเย็นชา ถึงแม้ทุกๆวัน เราจะดูปกติ แต่ข้างในความคิดเรามันแย่ไปหมดแล้ว เมื่อคนทีอยู่คนเดียวมาตลอด พอลองมาเข้าสังคมกับคนเยอะๆดู แต่มันกลับทำร้ายเรา พอต้องกลับไปในสังคมที่มีแต่ผู้คนอีกมันทำให้เรา"กลัว"ค่ะ กลัวมากๆ เราจึงปิดความกลัวนี้ด้วยความคิดที่ว่า "เราแค่เย็นชากับทุกสิ่งมันก็จะปกติเอง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น" ตอนนี้เราเลยเป็นคนที่ไม่คุยกับคนในห้องเลยจะเลือกทีเย็นชาใส่ ไม่อยากเข้าไปในสังคมที่มีแต่ผู้คนอีกแล้ว เรามาระบายในนี้ก็เพราะมันเบืาอค่ะ ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณ ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิตในสังคมนะคะ
คิดเยอะ+คิดแปลก เบื่อสังคมโรงเรียน เย็นชากับทุกอย่าง