ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่จริงมั้ยครับ (hiv)

อยากสอบถามครับ
1.สมมุติถ้าเรามีเพศสัมพันธ์กับคนที่พึ่งได้รับเชื้อ hiv มาโดยไม่ป้องกันแต่ฝ่ายนั้นยังอยู่ในระยะตรวจยังไม่เจอเรามีโอกาสได้รับเชื้อหรือไม่ครับ
2.ถ้าไม่เจอเท่ากับไม่แพร่จริง ทำไมถึงมีคนติดเชื้อจากการบริจาคเลือดครับ เพราะว่าก่อนบริจาคก็ต้องตรวจเลือดก่อน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ใช่ครับ ไม่เจอ เท่ากับ ไม่แพร่
แต่..........
อยู่ที่ว่าคุณตรวจอะไรครับ

ถ้าคุณตรวจหาปริมาณไวรัส HIV ในเลือด แล้วน้อยกว่า 50 copies ต่อ ml(แต่สภากาชาดพูดรับรองที่ 200 copies ต่อ ml) ก็คือชุดตรวจนั้นหาไม่เจอว่าคุณมีไวรัส HIV อยู่(ต้องเข้าใจนะครับว่าการตรวจหาปริมาณอะไรสักอย่างนึง เครื่องวัดปริมาณจะมีปริมาณขั้นต่ำที่สามารถตรวจเจอได้ แล้วก็จะมีปริมาณขั้นต่ำที่สามารถตรวจวัดปริมาณโดยมีผลที่เชื่อถือได้นะครับ ไม่ใช่ว่ามีมากมีน้อยเท่าไรก็ตรวจเจอนะครับ) ตามที่เราๆทราบนะครับ ปริมาณเชื้อ HIV ที่จะติดได้ต้องมีความเข้มข้นมากพอ มีช่องทางการรับเชื้อที่เหมาะสม จึงจะมีโอกาสติดได้(เป็นแค่โอกาสนะครับ จะมากหรือน้อยก็อยู่ที่ปัจจัยครับ) และตามที่ ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ เคยกล่าวไว้ว่ายังไม่เคยพบผู้ติดเชื้อจากการทำงานวิจัยติดตามผู้ป่วยที่ได้รับยาจนไม่สามารถตรวจเจอไวรัส HIV แล้วมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันบ้างไม่ป้องกันบ้าง พบว่า ไม่มีคู่นอนที่มีผลเลือดต่างติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จนมีการประกาศผลในที่ประชุมเอดส์นานาชาติที่กรุงปารีสเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ว่า "ไม่เจอ เท่ากับ ไม่แพร่"

แต่(อีกแล้ว)

ถ้าคุณตรวจหาแอนตี้บอดี้ของเชื้อ HIV คราวนี้แหละครับ ไม่เจอ ก็อาจจะแพร่ก็ได้ ที่ใช้คำว่า"อาจจะ" ก็เพราะว่าหากผู้ที่ติดเชื้อมีเพศสัมพันธ์กันกับคุณในช่วงประมาณ 3 วันแรกหลังจากที่เขาเพิ่งได้รับเชื้อมา เชื้อไวรัสที่เขาได้รับมานั้นจะยังไม่แพร่มากมายในกระแสเลือด พูดง่ายๆตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัส HIV ก็แทบจะไม่เจอหรอกครับ โอกาสรับเชื้อจึงแทบไม่มี(ที่ต้องใช้คำว่า"แทบ" เพราะยังไม่เคยมีงานวิจัยยืนยันข้อนี้ แต่ใช้การอ้างอิงจากเหตุผลข้างต้นมาตอบ)  และหลังจากนั้นเชื้อไวรัส HIV ก็จะเริ่มแบ่งตัวแล้วก็แพร่เข้าสู่กระแสเลือด คราวนี้ก็จะมีการเริ่มสร้างแอนตี้บอดี้ขึ้นมาในเลือดแล้วครับ ซึ่งก็ใช้เวลาหลายวัน โดยที่แต่ละคนจะมีการสร้างแอนตี้บอดี้ไวหรือช้าไม่เท่ากันครับ แล้วทีนี้ก็อยู่ที่เครื่องมือที่จะตรวจหาแอนตี้บอดี้แล้วล่ะครับว่าจะมีความไวแค่ไหน ฉะนั้นช่วงระหว่างที่ยังตรวจหาแอนตี้บอดี้ไม่เจอ ระหว่างนั้นเชื้อไวรัส HIV ก็อาจจะมีมากพอในกระแสเลือดและในสารคัดหลั่งแล้วครับ จึงทำให้โอกาสติดสูงขึ้นหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้

สรุป
- จริงครับ ถ้าตรวจหาปริมาณไวรัส HIV
- ไม่จริงครับ ถ้าตรวจหาแอนตี้บอดี
- วลีที่ว่า ไม่เจอ เท่ากับ ไม่แพร่ อันนี้เขาจะเน้นไปที่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV แล้วได้รับยาต้านเชื้อ จนผลการตรวจหาปริมาณไวรัสในกระแสเลือดน้อยมากจนเครื่องตรวจไม่พบนะครับ ไม่ได้มาเน้นที่คนปกติที่เพิ่งรับเชื้อ

ตอบคำถามนะครับ(อธิบายนานหน่อยนะครับ โทษทีนะครับ)
1.สมมุติถ้าเรามีเพศสัมพันธ์กับคนที่พึ่งได้รับเชื้อ HIV มาโดยไม่ป้องกันแต่ฝ่ายนั้นยังอยู่ในระยะตรวจยังไม่เจอเรามีโอกาสได้รับเชื้อหรือไม่ครับ?
- มีครับ เพราะเขาคงไม่ตรวจหาปริมาณเชื้อ HIV ครับ เขาคงตรวจหาแอนตี้บอดี้ครับ
2.ถ้าไม่เจอเท่ากับไม่แพร่จริง ทำไมถึงมีคนติดเชื้อจากการบริจาคเลือดครับ เพราะว่าก่อนบริจาคก็ต้องตรวจเลือดก่อน?
- อย่างที่ผมเคยบอก เครื่องตรวจไม่เจอเชื้อไวรัส HIV ไม่ได้บอกว่าไม่มี แล้วที่วลีที่พูดว่า ไม่เจอ เท่ากับ ไม่แพร่ เขาพูดถึงความเสี่ยงของการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ HIV ครับ ไม่ได้พูดเรื่องการรับเลือดที่มีเชื้อ HIV เข้าไปโดยตรงครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่