อาจจะยาวหน่อยนะครับ
ผมอายุ 18 ปีตอนนี้ กำลังเรียนปวส. สาขา คอมกราฟิก ที่ไม่ค่อยได้เกี่ยวพันธุ์อะไรกับ ภาพยนต์สักเท่าไหร่
ความฝันของผม คืออยากเป็นผู้กำกับครับ ไม่ว่าจะ MV ,โฆษณา,หนัง เพราะว่าผมชอบ ศาสาตร์ภาพเคลื่อนไหวมาก
ผมศึกษาความเป็นมา ทำความเข้าใจกับศิลปะ ประเภทนี้ และรู้สึกว่าผมถูกจริตมากๆ
ส่วนตัวผมเข้าใจว่า ผู้กำกับคือ ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว และหนังก็คืองานศิลปะแขนงนึง
ผมหลงไหลการเล่าเรื่องที่เน้นไปทางการแสดงออกมากกว่าคำพูด บางที ตอนดูหนัง การที่ฉากในหนังเล่ามันออกมาได้ดีมากๆ มันก็แทนคำพูดได้มากมายแล้ว นั่นทำให้ผมเข้าใจว่า การเล่าผ่านภาพเคลื่อนไหว สามารถสัมพัสถึงใจคนดูได้มากที่สุด ผมอยากให้มีหนังแบบที่ผมชอบดูนี้ในไทยบ้าง ตอนนั้น(ตอนเด็ก) เลยอยากจะทำหนังที่ตัวเองอยากดูสักเรื่องผมเริ่ม ศึกษาเทคนิค การเล่าเรื่องครูพักลักจำ พยายามสร้างความเข้าใจในการทำหนังจากมุมมองของคนนอก ผมเริ่มทำคลิปสั้นๆ หนังสั้น และก็พยายามพัฒนามาเรื่อยๆ เริ่มหัดเขียนยทหนัง(แบบใช้ word เขียนเลยอ่ะ) ควบคู่กับการเรียน ปวช. สาขา คอมกราฟิกก่อนจบ ผมไปส่งคลิปประกวดแล้วได้ที่ 2 ทำให้ที่บ้านยอมรับสิ่งที่ผมทำอยู่(ก่อนหน้านั้น พอบอกว่าจะเป็น ผกก.แล้วไม่ต่อ ม.4 แม่แทบช็อค แต่ก็ยอมให้ผมได้ลองทำดู) พอจบ ปวช. ผมก็หางานเสริมเลี้ยงชีพเพราะยังโอมไม่ให้ขอตังแม่(หยอกๆ แต่ทำงานจริง) ผมไม่ต้องขอค่าขนมใครในตอนนั้น พอเปิดเทอมปวส. ผมไม่สามารถทำงานได้ต่อก็ต้องกลับมาขอเงินแม่ และก็เริ่มจับกลุ่มเพื่อนทำหนังสั้นกันและให้ ครูที่ วิลัยเป็นที่ปรึกษา พอได้ลองเขียนบทและเข้าระดมความคิดกับทีม ผมก็มองเห็นปัญหาว่า การทำหนังมี 2 แบบ คือตามใจคนดู กับตามใจเรา
การทำตามใจดู = ธุรกิจ, ตามใจลูกค้า = ฟรีแลนซ์
ทำตามใจเรา = ศิลปะ , ตามใจเรา = ศิลปิน
นั่นทำให้ผมรู้สึกดาวน์มากที่งานศิลปะที่ผมเข้าใจ มันไม่สามารถเป็นศิลปะได้เต็มตัว และผมยกมันไว้สูงเกินกว่าจะไปทำตามใจคนที่อยากดู(กลายเป็นพวกอินดี้) แต่พอมามองดูในประวัติศาสตร์หนัง หนังที่เป็นงานที่ผมชอบ แต่ทำเงินก็มีนะ ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ รายได้ก็ไม่ได้แย่ , ฉลาดเกมโกง นี่ก็ประสบความสำเร็จมากๆ, john wick ,interstellar,old boy(เกาหลี),the hateful eight และอื่นๆ ทั้งหมด ล้วยเป็นงานที่ผมชอบมาก มันมีความหมาย การตั้งแย่คิด และรายได้เป็นที่พอใจ แต่เหมือนเพื่อนๆ จะไม่เข้าใจที่ผมคิด ว่าการทำเงินจากศิลปะมันก็มีวิธีของมัน และผมรู้สึกว่าผมทำได้ แต่เพื่อนๆ ไม่มั่นใจในตัวผม การเตรียมการบางครั้งก็มีการที่ผมทำเหมือนเรื่องมากไปบ้าง ผมเริ่มเข้าใจ ผกก. ที่ทำตัวให้มันเหมือนอีโก้สูงๆ เพราะไม่อยากเสียความเป็นตัวเอง ยิ่งหากเห็นหนังที่ผู้กำกับมีภาพในหัวของเขา การทำงานกับผู้อื่นจะยากนิดหน่อย
ผมมีโอกาศได้คุยกับเด็กฟิล์ม มันมีอะไรอีกมากมายที่ผมยังไม่รู้ ผมเหมือนปลาตัวน้อยๆ ฐานะที่บ้านของผมไม่ได้ล่ำรวยมากเลยไม่มีโอกาสได้ไปศึกษาที่มหาลัย และในโลกความเป็นจริงผมก็ต้องใช้เงินกินข้าว ผมไม่ชอบขอเงินแม่เพราะน้องๆผมก็ต้องใช้ และผมยังหาเงินกับการทำคลิปไม่ได้ถึงจะมีแต่ก็งานช่วยๆ และน้อยมาก เลยอาศัยวิธีลักจำต่อไป ผมควรจะทำยังไงต่อกับสิ่งที่ผมกำลังเดิน ผมจะหาเงินมาเลี้ยงแม่จากอาชีพผู้กำกับได้มั้ย และผมจะมีมารตราฐานพอในการเป็นผู้กำกับมั้ยหากผมไม่ได้เรียน โดยตรง ผมจะสามารถเป็นอย่างที่ฝันไว้ได้มั้ยครับ อยากให้พี่ๆ แชร์มุมมองของตัวเองให้ได้อ่านกันหน่อยครับ ขอบคุณครับ
วส
เด็กอายุ 18 อยากเป็นผู้กำกับ จะรอดมั้ยครับ??? (คำถามจากคนฝัน)
ผมอายุ 18 ปีตอนนี้ กำลังเรียนปวส. สาขา คอมกราฟิก ที่ไม่ค่อยได้เกี่ยวพันธุ์อะไรกับ ภาพยนต์สักเท่าไหร่
ความฝันของผม คืออยากเป็นผู้กำกับครับ ไม่ว่าจะ MV ,โฆษณา,หนัง เพราะว่าผมชอบ ศาสาตร์ภาพเคลื่อนไหวมาก
ผมศึกษาความเป็นมา ทำความเข้าใจกับศิลปะ ประเภทนี้ และรู้สึกว่าผมถูกจริตมากๆ
ส่วนตัวผมเข้าใจว่า ผู้กำกับคือ ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว และหนังก็คืองานศิลปะแขนงนึง
ผมหลงไหลการเล่าเรื่องที่เน้นไปทางการแสดงออกมากกว่าคำพูด บางที ตอนดูหนัง การที่ฉากในหนังเล่ามันออกมาได้ดีมากๆ มันก็แทนคำพูดได้มากมายแล้ว นั่นทำให้ผมเข้าใจว่า การเล่าผ่านภาพเคลื่อนไหว สามารถสัมพัสถึงใจคนดูได้มากที่สุด ผมอยากให้มีหนังแบบที่ผมชอบดูนี้ในไทยบ้าง ตอนนั้น(ตอนเด็ก) เลยอยากจะทำหนังที่ตัวเองอยากดูสักเรื่องผมเริ่ม ศึกษาเทคนิค การเล่าเรื่องครูพักลักจำ พยายามสร้างความเข้าใจในการทำหนังจากมุมมองของคนนอก ผมเริ่มทำคลิปสั้นๆ หนังสั้น และก็พยายามพัฒนามาเรื่อยๆ เริ่มหัดเขียนยทหนัง(แบบใช้ word เขียนเลยอ่ะ) ควบคู่กับการเรียน ปวช. สาขา คอมกราฟิกก่อนจบ ผมไปส่งคลิปประกวดแล้วได้ที่ 2 ทำให้ที่บ้านยอมรับสิ่งที่ผมทำอยู่(ก่อนหน้านั้น พอบอกว่าจะเป็น ผกก.แล้วไม่ต่อ ม.4 แม่แทบช็อค แต่ก็ยอมให้ผมได้ลองทำดู) พอจบ ปวช. ผมก็หางานเสริมเลี้ยงชีพเพราะยังโอมไม่ให้ขอตังแม่(หยอกๆ แต่ทำงานจริง) ผมไม่ต้องขอค่าขนมใครในตอนนั้น พอเปิดเทอมปวส. ผมไม่สามารถทำงานได้ต่อก็ต้องกลับมาขอเงินแม่ และก็เริ่มจับกลุ่มเพื่อนทำหนังสั้นกันและให้ ครูที่ วิลัยเป็นที่ปรึกษา พอได้ลองเขียนบทและเข้าระดมความคิดกับทีม ผมก็มองเห็นปัญหาว่า การทำหนังมี 2 แบบ คือตามใจคนดู กับตามใจเรา
การทำตามใจดู = ธุรกิจ, ตามใจลูกค้า = ฟรีแลนซ์
ทำตามใจเรา = ศิลปะ , ตามใจเรา = ศิลปิน
นั่นทำให้ผมรู้สึกดาวน์มากที่งานศิลปะที่ผมเข้าใจ มันไม่สามารถเป็นศิลปะได้เต็มตัว และผมยกมันไว้สูงเกินกว่าจะไปทำตามใจคนที่อยากดู(กลายเป็นพวกอินดี้) แต่พอมามองดูในประวัติศาสตร์หนัง หนังที่เป็นงานที่ผมชอบ แต่ทำเงินก็มีนะ ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ รายได้ก็ไม่ได้แย่ , ฉลาดเกมโกง นี่ก็ประสบความสำเร็จมากๆ, john wick ,interstellar,old boy(เกาหลี),the hateful eight และอื่นๆ ทั้งหมด ล้วยเป็นงานที่ผมชอบมาก มันมีความหมาย การตั้งแย่คิด และรายได้เป็นที่พอใจ แต่เหมือนเพื่อนๆ จะไม่เข้าใจที่ผมคิด ว่าการทำเงินจากศิลปะมันก็มีวิธีของมัน และผมรู้สึกว่าผมทำได้ แต่เพื่อนๆ ไม่มั่นใจในตัวผม การเตรียมการบางครั้งก็มีการที่ผมทำเหมือนเรื่องมากไปบ้าง ผมเริ่มเข้าใจ ผกก. ที่ทำตัวให้มันเหมือนอีโก้สูงๆ เพราะไม่อยากเสียความเป็นตัวเอง ยิ่งหากเห็นหนังที่ผู้กำกับมีภาพในหัวของเขา การทำงานกับผู้อื่นจะยากนิดหน่อย
ผมมีโอกาศได้คุยกับเด็กฟิล์ม มันมีอะไรอีกมากมายที่ผมยังไม่รู้ ผมเหมือนปลาตัวน้อยๆ ฐานะที่บ้านของผมไม่ได้ล่ำรวยมากเลยไม่มีโอกาสได้ไปศึกษาที่มหาลัย และในโลกความเป็นจริงผมก็ต้องใช้เงินกินข้าว ผมไม่ชอบขอเงินแม่เพราะน้องๆผมก็ต้องใช้ และผมยังหาเงินกับการทำคลิปไม่ได้ถึงจะมีแต่ก็งานช่วยๆ และน้อยมาก เลยอาศัยวิธีลักจำต่อไป ผมควรจะทำยังไงต่อกับสิ่งที่ผมกำลังเดิน ผมจะหาเงินมาเลี้ยงแม่จากอาชีพผู้กำกับได้มั้ย และผมจะมีมารตราฐานพอในการเป็นผู้กำกับมั้ยหากผมไม่ได้เรียน โดยตรง ผมจะสามารถเป็นอย่างที่ฝันไว้ได้มั้ยครับ อยากให้พี่ๆ แชร์มุมมองของตัวเองให้ได้อ่านกันหน่อยครับ ขอบคุณครับ
วส