จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเปลี่ยน
“ ยากูซ่า “ ให้เป็น “ ไอดอล “
เผยโฉมโปสเตอร์ไทย
" Back Street Girls ไอดอลสุดซ่าป๊ะป๋าสั่งลุย "
จากมังงะดังสู่ภาพยนตร์ LIVE ACTION สุดฮา
"ขนหมxยหนูขึ้น1เส้นแล้วค่า!"
นี่คือประโยคที่ซึ้งกินใจมากจากหนังเรื่องนี้
ถ้าหากจะกล่าวถึงหนังที่ฮาและกาวที่สุดในปี2019นี้ ณเวลานี้ก็ต้องขอยกให้ Back street girlจริงๆ
หนังเต็มไปด้วยความฮาและกาวๆที่ค่อนช้างต่ำทรามพอสมควร และก็ไม่ต้องคิดอะไรตามหนังมาก เรียกว่าเป็นหนังเบาสมองอีกเรื่องนึงเลย
สิ่งที่อยากจะชื่นชมคือ ตัวบทก็ว่าฮาพอแล้ว แต่จังหวะการตัดต่อภาพและการใส่เอฟเฟคและเพลงต่างๆมัน มันช่วยบูสจังหวะและความฮาของหนังได้ดีมากๆ
แม้หนังมันจะเป็นแนวจิกกัดวงการไอดอล แต่มันก็ยังเสนอให้เห็นอีกว่าการเป็นไอดอลมันไม่ได้ง่ายแบบที่คิดกันจริงๆนะ คือมันมีความเป็นdocumentaryของวงไอดอลอยู่ด้วยนะผมค่อนข้างชอบในจุดนี้ เพราะถ้ามองในมุมมองของโอตะ ผมไม่ชอบอะไรที่ทำออกมาเพื่อแซะวงการไอดอลญี่ปุ่นทั้งๆที่ยังไม่รู้อะไรดีด้วยซ้ำ บางอย่างก็รู้แค่ผิวๆก็เอามาล้อหรือมาแซะกันแล้ว แต่Back street girlก็ยังเสนอให้เห็นว่า ไอดอลที่พวกเอ็งคิดว่าง่ายหนะมันไม่ง่ายนะเว้ยมันต้องผ่านอะไรมาหลายอย่าง งานมันยาก ไม่ใช่อยู่ๆอยากจะเป็นแล้วก็ได้เป็น
(จริงๆก็ให้อารมณ์แบบตบหัวแล้วลูบหลังอ่ะนะ แหะๆ)
คนที่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้มาแล้ว บอกเลยว่าความฮะจะทวีคูณขึ้นไปมากๆและคนนอกที่ไม่ได้อินกับวงการไอดอล คุณจะได้มาเห็นเบื้องหลังวงการแบบจำลองและก็ทำความเข้าใจกับมันไปได้ในระดับนึง
ส่วนโอตะ คุณจะรู้สึกเหมือนโดนตบหัวตลอดเวลา และจะรู้สึกแสบๆคันๆเพราะมันจะแซะจะเหน็บแฟนคลับบ่อยมาก!! และผมก็อยากให้โอตะไม่ว่าจะของวงไหน จะวงม่วง วงเหงื่อ วงเด็กเหนือ หรืออื่นๆควรจะไปดู!!! เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้กลายเป็นไอดอลซะเอง!
ในส่วนข้อด้อยมันก็มีอยู่หลายจุด
อย่างแรกคือหนังยังขยี้อารมณ์ไปไม่ค่อยสุด และก็มีการใส่มุกตลกที่ผิดเวลาไปในบางช่วง อีกทั้งตัวละครบางตัวใช้ยังไม่คุ้มเลยตัดบทไปซะและ ทั้งๆที่ค่อนข้างน่าสนใจมากๆเลย
สรุป
เป็นหนังญี่ปุ่นที่โครตฮาและกาวมาก ดูเบาสมอง แต่ดูไม่ได้ทุกวัยนะ ถ้าเอาเด็กๆไปดูด้วยควรจะมีผู้ปกครองให้คำแนะนำหน่อยเพราะบางอย่างค่อนข้างทรามเลยหละ มีการนำเสนอให้เห็นถึงวงการไอดอลและการทำงานของไอดอลได้ดี แต่ก็มีข้อด้อยที่ขยี้อารมณ์ไม่ค่อยสุดและก็มีการใส่มุกตลกที่ค่อนข้างผิดจังหวะในบางฉากทำให้เสียอารมร์บ้าง
คะแนน 7.5/10
[SR][REVIEW] Back street girl : หนังตลกญี่ปุ่นสุดกาว คนทั่วไปดูได้ ยิ่งเป็นโอตะคุณยิ่งควรจะดู 7.5/10
“ ยากูซ่า “ ให้เป็น “ ไอดอล “
เผยโฉมโปสเตอร์ไทย
" Back Street Girls ไอดอลสุดซ่าป๊ะป๋าสั่งลุย "
จากมังงะดังสู่ภาพยนตร์ LIVE ACTION สุดฮา
"ขนหมxยหนูขึ้น1เส้นแล้วค่า!"
นี่คือประโยคที่ซึ้งกินใจมากจากหนังเรื่องนี้
ถ้าหากจะกล่าวถึงหนังที่ฮาและกาวที่สุดในปี2019นี้ ณเวลานี้ก็ต้องขอยกให้ Back street girlจริงๆ
หนังเต็มไปด้วยความฮาและกาวๆที่ค่อนช้างต่ำทรามพอสมควร และก็ไม่ต้องคิดอะไรตามหนังมาก เรียกว่าเป็นหนังเบาสมองอีกเรื่องนึงเลย
สิ่งที่อยากจะชื่นชมคือ ตัวบทก็ว่าฮาพอแล้ว แต่จังหวะการตัดต่อภาพและการใส่เอฟเฟคและเพลงต่างๆมัน มันช่วยบูสจังหวะและความฮาของหนังได้ดีมากๆ
แม้หนังมันจะเป็นแนวจิกกัดวงการไอดอล แต่มันก็ยังเสนอให้เห็นอีกว่าการเป็นไอดอลมันไม่ได้ง่ายแบบที่คิดกันจริงๆนะ คือมันมีความเป็นdocumentaryของวงไอดอลอยู่ด้วยนะผมค่อนข้างชอบในจุดนี้ เพราะถ้ามองในมุมมองของโอตะ ผมไม่ชอบอะไรที่ทำออกมาเพื่อแซะวงการไอดอลญี่ปุ่นทั้งๆที่ยังไม่รู้อะไรดีด้วยซ้ำ บางอย่างก็รู้แค่ผิวๆก็เอามาล้อหรือมาแซะกันแล้ว แต่Back street girlก็ยังเสนอให้เห็นว่า ไอดอลที่พวกเอ็งคิดว่าง่ายหนะมันไม่ง่ายนะเว้ยมันต้องผ่านอะไรมาหลายอย่าง งานมันยาก ไม่ใช่อยู่ๆอยากจะเป็นแล้วก็ได้เป็น
(จริงๆก็ให้อารมณ์แบบตบหัวแล้วลูบหลังอ่ะนะ แหะๆ)
คนที่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้มาแล้ว บอกเลยว่าความฮะจะทวีคูณขึ้นไปมากๆและคนนอกที่ไม่ได้อินกับวงการไอดอล คุณจะได้มาเห็นเบื้องหลังวงการแบบจำลองและก็ทำความเข้าใจกับมันไปได้ในระดับนึง
ส่วนโอตะ คุณจะรู้สึกเหมือนโดนตบหัวตลอดเวลา และจะรู้สึกแสบๆคันๆเพราะมันจะแซะจะเหน็บแฟนคลับบ่อยมาก!! และผมก็อยากให้โอตะไม่ว่าจะของวงไหน จะวงม่วง วงเหงื่อ วงเด็กเหนือ หรืออื่นๆควรจะไปดู!!! เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้กลายเป็นไอดอลซะเอง!
ในส่วนข้อด้อยมันก็มีอยู่หลายจุด
อย่างแรกคือหนังยังขยี้อารมณ์ไปไม่ค่อยสุด และก็มีการใส่มุกตลกที่ผิดเวลาไปในบางช่วง อีกทั้งตัวละครบางตัวใช้ยังไม่คุ้มเลยตัดบทไปซะและ ทั้งๆที่ค่อนข้างน่าสนใจมากๆเลย
สรุป
เป็นหนังญี่ปุ่นที่โครตฮาและกาวมาก ดูเบาสมอง แต่ดูไม่ได้ทุกวัยนะ ถ้าเอาเด็กๆไปดูด้วยควรจะมีผู้ปกครองให้คำแนะนำหน่อยเพราะบางอย่างค่อนข้างทรามเลยหละ มีการนำเสนอให้เห็นถึงวงการไอดอลและการทำงานของไอดอลได้ดี แต่ก็มีข้อด้อยที่ขยี้อารมณ์ไม่ค่อยสุดและก็มีการใส่มุกตลกที่ค่อนข้างผิดจังหวะในบางฉากทำให้เสียอารมร์บ้าง
คะแนน 7.5/10