[CR] Minoo Waterfall สัมผัสธรรมชาติใจกลางเมืองใหญ่ "โอซาก้า" #UnseenOsaka

กระทู้รีวิว

เที่ยวน้ำตก เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวเชิงอนุรักษ์ เดินป่า เที่ยวญี่ปุ่น

หลังจากที่เราได้ฝากกระทู้เที่ยวชิวๆ ในบรรยากาศสงบนอกเมืองเกียวโตกันมาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้นี้ผมขอพาเพื่อนๆ มาสัมผัสความสงบท่ามกลางมหาครที่วุ่นวายอย่างเมืองโอซาก้ากันบ้าง ฟังดูมันย้อนแย้งยังไงชอบกล แต่ก็ไม่ผิดครับ เพราะสถานที่ที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยววันนี้เป็นวนอุทยานแห่งชาติใจกลางมหานครใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากโอซาก้าเลย แต่พอไปเยือนแล้ว เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึงเลยล่ะครับ เพราะมันทั้งเงียบ สงบ เป็นแหล่งศึกษาธรรมชั้นดี นักท่องเที่ยวชาวต่างค่อนข้างน้อย ไม่จอแจ จะมีก็แค่ชาวญี่ปุ่นที่เขาปิ๊กนิกกัน ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ วนอุทยานแห่งชาติมิโนโอะ (Minoo Park) และ น้ําตกมิโนโอะ (Minoo Waterfall) นั่นเอง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวนแห่งนี้เป็นวนอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่บนภูเขามิโนะ (Mt. Minō) กินพื้นที่ประมาณ 9.6 ตารางกิโลเมตร การเดินทางมาก็ไม่ยากเลยครับ ผมพักแถว Namba ก็ตีตั๋วรถไฟ
1. Osaka Metro Midosuji Line จาก Namba Station (M20) มาลงที่ Umeda Station (M16) ค่ารถไฟ อยู่ที่ 230 เยนครับ
2. หลังจากนั้นต้องต่อรถไฟ Hankyu Railway Takarazaku Line มาเปลี่ยนสถานีที่ Ishibashi เพื่อไปลง Mino-O Station ค่ารถไฟ อยู่ที่ 270 เยนครับ

การเดินทางด้วย Osaka Metro ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่เชื่อว่าเดินทางไม่ยากเกินความสามารถเพื่อนๆ แน่นอน

ส่วนนี่เป็นตั๋วรถไฟ Hankyu Railway ครับ ซื้อครั้งเดียวที่สถานี Hankyu-Umeda แล้วนั่งยาวไป 4 สถานี พอถึงสถานี Ishibashi ก็เปลี่ยนไปรถไฟ Hankyu Railway Minō Line นั่งไปอีก 3 สถานีลงที่ Minō Station ครับ

หน้าตารถไฟเป็นแบบนี้ เป็น Local Train นะครับ จะวิ่งช้าหน่อย ผมใช้เวลาจาก Namba ไปถึงที่หมายประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ก็อย่าลืมเผื่อเวลาทั้งขาไปและขากลับไว้หน่อยนะครับ

พอออกจากสถานีมา ภาพความเป็นเมืองยังมีให้เราเห็นอยู่ครับ แต่มองไปไกลๆ จะเห็นภูเขามิโนโอะ (Mt. Minō) อยู่ข้างหลัง นั่นแหละครับ ที่หมายของเรา เดินลัดเลาะกว่าจะไปถึงน้ำตก ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตรครับ เป็นทางลาดขึ้นเขา ใครจะไปฟิตร่างกายไว้หน่อยก็ดีครับ เพราะผมก็แอบบ่นในใจว่าเมื่อไหร่จะถึงน้า แต่ตลอดสองข้างทางก็มีวิวธรรมชาติสวยๆ ให้แวะถ่ายรูปและเก็บบรรยายกาศกัน เอาเป็นว่าผมเดินขึ้นก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว ส่วน 2 ข้างทางจะเป็นอย่างไร ผมมีภาพมาให้ชมกันครับ

ก่อนขึ้นไป เจอศาลเจ้าใครไม่รีบแวะถ่ายรูป แวะไหว้กันสักหน่อยก็ได้ครับ

สวนแห่งนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องใบเมเปิ้ลครับ ที่เห็นเขียวๆ อยู่นี่พอถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะกลายเป็นสีส้มหมดเลย ใครมีโอกาสมาโอซาก้าช่วงนั้นอย่าลืมไปเก็บภาพสวยๆ มาแชร์กันด้วยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ก่อนที่เราจะเดินขึ้นไป ก็จะมีร้านค้าขายของประปรายครับ ซึ่งขายทั้งของที่ระลึกและที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งเลยคือใบเมเปิ้ลทอด ใครไปอย่าลืมลองลิ้ม ชิมรสกันนะครับ เค้าจะขายกันเป็นถุง ประมาณขีดนึง ราคาอยู่ที่ 100 เยนครับ หรือใครชอบก็สามารถซื้อเป็นกล่องมาเลยได้เลย

เมื่อเดินขึ้นมาเรื่อยๆ บรรยากาศก็จะค่อยๆ เงียบสงบลงครับ เสียงพูดคุยจอแจก็กลับถูกแทนที่ด้วยเสียงแมลงและน้ำที่ไหลเลาะลำธาร บอกได้เลยว่าโรแมนติกสุดๆ ใครเคยอ่านนิยายเรื่องข้างหลังภาพที่เขาบรรยายถึงความงามของน้ำตกมิตาเกะ ผมว่าภาพที่เห็นก็ราวกับในนิยายยังไงยังงั้น ยิ่งพอเราเดินไปจนถึงบริเวณมิโนโอะ (Minoo Waterfall) แล้วความรู้สึกเหมือนเราหลุดเข้าไปอีกโลกนึงเลยครับ ลืมไปแล้วจริงๆ ว่านี่คือ "โอซาก้า" ... บรรยายมาอาจเห็นภาพไม่ชัดเท่าไหร่ เอาเป็นว่าไปดูเองเลยละกันครับ

ฝากไว้เป็นข้อมูลสักเล็กน้อยครับ สำหรับน้ำตกมิโนโอะ (Minoo Waterfall) นั้น มีความสูงราว 33 เมตร กว้าง 5 เมตร บริเวณหน้าน้ำตกมีที่ให้นักทองเที่ยวชมวิวอย่างใกล้ชิด แต่บอกก่อนเลยว่าจะมีบางจุดที่ไม่มีที่กั้น ใครไปกับเด็กเล็กต้องดูแลกันให้ดีหน่อยนะครับ เพราะอาจผลัดตกลงไปได้ง่ายๆ เลย ส่วนบริเวณใกล้ๆ กันก็จะมีที่ให้ลงไปเล่นน้ำ ซึ่งก็ต้องใช้ความระมัดระวังขณะเดินลงไปเช่นกัน เพราะโขดหินค่อนข้างเยอะ และช่วงที่ผมไปก็ตรงกับ Golden Week ของญี่ปุ่นพอดี นักท่องเที่ยวก็เลยดูหนาตาขึ้นมาเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวญี่ปุ่นทั้งนั้นครับ ... อ่อลืมบอกไปว่าระหว่างทางเดินขึ้นมาจะมีหลุมฝังศพของ Kaijyo ซึ่งเป็นพระผู้ก่อตั้งของวัด Katsuō-ji สร้างขึ้นในปี 765 ตั้งอยู่ภายในสวนด้วย และก็มี Mino Park Insect Museum พิพิธภัณฑ์แมลง ที่มีตัวอย่างแมลงจัดแสดงเกือบ 10,000 ตัวซึ่งเราไม่ได้แวะ ฮาๆๆๆ เพราะมีเวลาค่อนข้างจำกัด เอาเป็นว่าใครมีเวลาก็อย่าลืมแวะชมกันได้ แหล่งความรู้ดีๆ แบบนี้ ผมสนับสนุนให้เข้าไปชมกันนะครับ

ส่วนใครที่ไม่ได้เตรียมอาหารมาปิ๊กนิกแบบคนท้องถิ่น ข้างบนเขาก็มีพอมีร้านรวงอยู่บ้าง ผมเลยจัดซะหน่อย ของอร่อยอย่างดังโงะ มาถึงญี่ปุ่นทั้งทีต้องจัด บอกได้เลยว่ามันนุ่ม เนื้อหนึบ รสชาติอร่อยสไตล์ Original อย่างแท้จริง กินกับโค้กรสมะนาวก็ได้รสชาติไปอีกแบบ กินไป ชมวิวไปก็ฟินไปฟินสุดๆ เลยครับ แต่ราคาอาหารและของที่ระลึกบนนี้ก็จะแพงกว่าข้างล่างนิดหน่อย ใครพออกพอใจก็ลองซื้อ ลองชิมกันดูนะครับ

มาสรุปกันสักหน่อย
สำหรับสวนมิโนโอะ และ น้ำตกมิโนโอะ (Minoo Waterfall) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสงบๆ ใจกลางเมืองใหญ่ เที่ยวได้ทุกฤดู แต่เด็ดสุดผมว่าน่าจะฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ก.ย. - พ.ย.) การเดินทางก็มาไม่ยากแต่อาจต้องคำนวนเวลาดีๆ เพราะกว่าจะเดินขึ้น ถ่ายรูป แวะกิน ผมก็ใช้เวลาไปแล้วเกินครึ่งวันแล้ว ยิ่งถ้าใครอยากมาเยี่ยมชม Mino Park Insect Museum ยิ่งต้องจัดสรรเวลาเลยแหละครับ พิพิธภัณฑ์เขาเปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร ให้เข้าตั้งแต่ชมตั้งแต่ 10:00 - 17:00 (ขายบัตรถึง 16:30 น.) ส่วนของสวนนั้น ไม่มีเวลาเปิด - ปิดครับ แต่ก็ไม่ควรกลับค่ำ เพราะจะว่าไปมันก็ยังเป็นป่า มืดค่ำมาก็น่ากลัวเหมือนกัน

และใครอยากติดตามคอนเท็นท์ท่องเที่ยว ไปตามต่อกันได้ที่เพจ Facebook พิมพ์ในช่องค้นหาว่า "เที่ยวได้เที่ยวดี" หรือ "Goodtimetrip" ได้เลยจร้า สำหรับใครอยากแลกเปลี่ยนหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทิ้ง Comment ไว้ได้เลยจร้า แล้วก็ช่วยแชร์ด้วยก็ได้น้าาาาา ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

https://www.facebook.com/goodtimetrip/

แก้ไขข้อความเมื่อ