[CR] ตะลุย ตะลอนไปเที่ยวจีนแบบงูๆ ปลาๆ หนีฮ่าว!! คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ Backpack ประเทศจีน สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ

เนื่องจากอู๊ดเคยไปจีนเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนได้ และยังไม่เคยคิดอยากจะกลับไปอีกจนมาถึงรอบนี้ที่ได้กลับไป รู้สึกหลงรักประเทศจีนมากขึ้นกว่าเดิมมาก และอยากจะกลับไปอีกแน่นอน รอบนี้ที่ได้กลับไปเที่ยวจีนเป็นเพราะเห็นคนรีวิวไปเที่ยวกันเยอะมากกกกเกี่ยวกับจีนเส้นทางนี้ คุนหมิง – ลี่เจียง – แชงกรีล่า ทำให้รู้สึกอยากไปท่องเที่ยว ไปดูแหล่งธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ ดูความเจริญที่ผิดหู ผิดตาของบ้านเค้า

ขอพูดถึงแต่ละเมืองนิดนึง

คุนหมิง : ประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่มาก มีหลายมณฑล ซึ่งเส้นทางที่อู๊ดไปอยู่ในมณฑลยูนนาน ซึ่งมีคุนหมิงเป็นเมืองหลวงในแถบนี้ คุนหมิงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ อากาศตอนช่วงที่อู๊ดไปตอนกลางวัน บ่ายๆ จะค่อนข้างร้อนแต่ไม่มาก ส่วนตอนมืดๆ จะหนาว มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายที่ จะออกเป็นเมืองๆ หน่อย

ลี่เจียง : ลี่เจียงมีความผสมผสานทั้งเมืองเก่า และเมืองใหม่ ซึ่งอู๊ดประทับใจเมืองเก่าที่นี่มากกก เพราะมีความใหญ่ที่ทำให้เดินรอบแรกแล้ว งงๆ หลงได้ แต่เดินไปซักพักก็จะชิน... มีอาหารให้เลือกกินหลายแบบ ที่สำคัญในเมืองเก่านี้มีผับเยอะมากกก และมีซอยนึงในเมืองเก่าเรียกได้ว่าเป็นถนนโลกีย์ก็ว่าได้ แปลกตาดี

แชงกรีล่า : แชงกรีล่า เป็นดินแดนที่สวยงามเหมือน นวนิยาย ที่ตัวเมืองล้อมไปด้วยธรรมชาติ เทือกเขาที่สวยงาม พร้อมกับอากาศที่บริสุทธิ์ เสมือนว่าเป็นสวิสตะวันออก (แต่งตั้งให้55) และที่สำคัญหนาวมากกกกก อากาศต่ำมากเช่นกัน เดินแปปๆ เหนื่อย ไต่ขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นก็เหนื่อย

ช่วงที่อู๊ดไปเป็นช่วงสงกรานต์พอดี ทำให้มีวันหยุดหลายวัน บวกกับลางานอีกนิดหน่อยก็ได้ไปพักผ่อนแบบสบายๆ แล้ว อู๊ดไปวันที่ 10-18 เมษายน 2563 (บินคืนวันที่ 10) ซึ่งแต่ละเมืองที่ไป อากาศค่อนข้างสวิงพอตัว 3 เมือง 3 อุณภูมิ ระวังเรื่องการเตรียมเสื้อผ้าไปนิดนึง

สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนไป
1.วีซ่าจีน
2.จองโรงแรม
3.จองตั๋วรถไฟ (อู๊ดจองจากที่ https://th.trip.com/)

อู๊ดเดินทางจาก กรุงเทพ – คุนหมิง คืนที่ 10 เมษายน 2562 และได้แพลนไว้ว่าพอไปถึงจะเตร็ดเตร่อยู่ในสนามบิน และเช้าวันที่ 11 เมษายน 2562 อู๊ดเลือกเดินทางด้วยเครื่องบิน บินต่อไปแชงกรีล่าเลย

จริงๆ แล้วการเดินทางจากคุนหมิง – แชงกรีล่าสามารถเดินทางนั่งเครื่องจากคุณหมิง หรือ รถบัสยาวๆ มาที่เมืองนี้ได้ ถ้ามีเวลาไม่มากแนะนำนั่งเครื่องมาดีกว่า ราคาแพงกว่าไม่มาก (เครื่องบินภายในประเทศของจีน ยิ่งจองใกล้วันเดินทางยิ่งถูก แต่เสี่ยงอาจจะเต็มได้)

พอแลนด์ถึงประเทศจีน ก่อนที่เราจะเข้าสู่ ตม. ของบ้านเค้า อย่าลืมกรอกเอกสารเข้าเมืองกันนิดนึง จะเป็นใบสีเหลืองแบบนี้ ซึ่งจะใช้ทั้งขาเข้า และขาออก จากจีน (ให้หยิบเผื่อมาไว้ตอนขากลับได้เลย)

ออกจาก ตม. เอากระเป๋าเรียบร้อยก็เดินออกมาด้านนอก ถ้าใครเวลาเหลือเยอะจะไปนั่งๆ นอนๆ รอบริเวณชั้น ล่างสุด ของสนามบินได้นะ มันเป็นโซน Rest Area มีเก้าอี้ให้นอนอยู่เยอะ แต่ก็เต็ม 55555

พอใกล้เวลาแล้วอู๊ดก็ขึ้นไปด้านบนเพื่อจะไปเช็คอิน อันนี้ให้ระวังนิดนึงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมที่จีนเค้าไม่ค่อยเปิดเคาเตอร์เพื่อให้เช็คอิน แบบไม่มีพนักงานมาทำอะ พอถามก็บอกว่าให้ไปรอที่เคาเตอร์นั้น แล้วมันใกล้เวลาแล้ว อู๊ดเลยไป Self Check-in ที่เครื่อง และไปที่เคาเตอร์ Baggage Drop แทน (ต่อแถว Baggage Drop เสร็จแล้ว เคาเตอร์ที่เจ้าหน้าที่ให้ไปต่อรอก็ยังไม่เปิด) พอเช็คทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินเข้าโซนสนามบินอีกครั้งเพื่อตรวจ อันนี้ตรวจละเอียดมากกกกกกก ระวังนิดนึง คือให้ระวังเวลาไว้เลย พอตรวจเสร็จเข้าด้านในก็ไม่เหลือเวลาให้ทำอะไรแล้ว ทั้งๆ ที่คิดว่าเวลาเราเหลือเฟือมากนะ

บินจากคุนหมิง – แชงกรีล่า ใช้ระยะเวลาโดยประมาณ 1 ชั่วโมง พอขาเหยียบถึงสนามบิน Diqing (DIG) แชงกรีล่าเท่านั้นแหละ พีคคคค สวยและหนาวมากกกกจ้า รับกระเป๋าอีกรอบและเดินออกนอกสนามบินเพื่อจะไปโรงแรมกัน ระหว่างนั้นเองเหมือนอยู่ดีๆ ก็ป๊อปปูล่า คนก็รีบเดินมามุงกันสุดๆ อ่ออ เป็นคนขับ Taxi เค้าก็พยายามมาตื้อๆ นะ แต่อู๊ดก็เลือก เลือกด้วยราคาที่น่าสนใจ 5555 คันแรกๆ บอกว่า 30 หยวน อู๊ดก็ไม่ไป สุดท้ายอู๊ดเลือกที่คนบอก 20 หยวน โรงแรมอู๊ดอยู่ในโซนเมืองเก่าแชงกรีล่าเลยค่ะ เก็บกระเป๋า อาบน้ำเรียบร้อย เตรียมออกไปเดินเล่นกัน

แชงกรีล่า เดิมชื่อ เมือง จงเตี๊ยน โดยรัฐบาลจีนได้ทำการเปลี่ยนชื่อเมือง เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ในลักษณะแบบ ลี่เจียง หรือ ต้าหลี่

ในส่วนของที่พัก - โรงแรม หรือ เกสเฮาท์ ที่เมืองนี้ ราคาค่อนข้างไม่แพง และคุณภาพใกล้เคียงกัน สามารถเลือกทำเลได้ตามชอบเลยจ้า

วันแรกเบาๆ ชิวๆ ไปเริ่มกันที่เมืองเก่าแชงกรีล่าก่อน ในโซนเมืองเก่านี้ รถต่างๆ เค้าจะใช้รถไฟฟ้านะ ไม่ใช้น้ำมัน ทำให้อากาศดีสุดๆ เดินเที่ยวไม่มีกลิ่นควันรถมากวนใจ เดินไปเรื่อยๆ

จุดหมายของอุ๊ดวันนี้คือ วัดต้าฝอ (Da Fo Su) หรือวัดกงล้อยักษ์ ตั้งอยู่ในเมืองเก่า ไม่เสียค่าเข้า ในวัดจะมีกงล้อธิเบตยักษ์ให้หมุน

ระแวกวัดจะมีเจ๊ๆ และมีถังอะไรบางอย่างอยู่กับเค้าด้วยก็คือเจ๊เค้ามาขายโยเกิร์ตจามรีนั่นเอง (โดยส่วนตัวไม่ชอบเลยมันออกเปรี้ยวๆ คาวๆ แต่บางคนก็ว่าดีนะ ไม่รู้ว่าอู๊ดไปเจอร้านที่ไม่อร่อยรึเปล่า)

และนี่น้องจามรีของเรา น่ารักไม่เบา แต่ถ้าใครอยากถ่ายรูปด้วยต้องเสียเงินนะจ๊ะ

อีกอย่างถ้ามาเมืองนี้ห้ามพลาดที่จะกินหม้อไฟเนื้อจามรี แต่ไม่รู้หรอกว่าร้านไหนอร่อย อู๊ดก็เดินหาตามร้านที่มีกระดาษแปะเขียนรีวิวในร้านเยอะๆ ร้านนั้นแหละเข้าไปโลด 555 ในส่วนของอาหารที่นี่ อู๊ดอ่านภาษาจีนไม่ออกเลย ใบ้ๆ มั่วๆ ชี้ๆ ไป เลยไม่เจอเมนูเด็ดเท่าไหร่ รสชาติอาหารแต่ละร้านที่ทานไม่ต่างกันมาก จะออกมันๆ เค็มๆ ซะส่วนใหญ่

พอค่ำๆ หน่อยแถวๆ จตุรัสจะมีเต้นออกกำลังกายกัน คนแชงกรีล่าจะออกมาเต้นกันเยอะมากก ก็ไปร่วมเต้นกับเค้าได้น๊า

พรุ่งนี้จะไปขึ้นเขา Shika Mountain อู๊ดเลยเดินไปตามร้านขายของชำเพื่อหา ออกซิเจนกระป๋อง อู๊ดซื้อกระป๋องละ 30 หยวนค่ะ ถ้าใครที่ทนต่อความกดอากาศต่ำๆ ไม่ได้ควรซื้ออย่างยิ่ง เพราะอากาศที่เมืองนี้หนาว และค่อนข้างต่ำมาก ทำให้เหนื่อย และเวียนหัวได้ง่ายค่ะ

วันต่อมาตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินทางไป Shika Mountain กัน อู๊ดเดินทางโดยรถที่โรงแรมดีลไว้ให้ค่าโดยสารจะอยู่ที่คนละ 20 หยวนค่ะโดยการเดินทางจะเดินทางจาก

โรงแรม (Shangri-La Old Town) – Shika Mountain

Shika Mountain – Songjanlhin Temple

Songjanlhin Temple - โรงแรม (Shangri-La Old Town)

พอไปถึงที่สถานีเพื่อขึ้นไป Shika Mountain เจ๊คนขับรถก็ลงไปด้วยเพื่อไปซื้อตั๋วให้ เราได้ตั๋วที่ราคาคนละ 140 หยวนค่ะ ซึงถือว่าถูกเพราะว่าอ่านข้อมูลมาแพงกว่านี้ ระหว่างทางจะขึ้นไปที่ Shika Mountain ก็ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ระยะทางยาววว และไกลมากก พอถึงเท่านั้นแหละสั่นค่ะ หนาววมาก เตรียมเสื้อกันหนาวไปให้พร้อมเลย ถุงมือ หมวก จัดไปให้เต็มที่ค่ะ

ไปต่อกันที่วัดโปตาลาน้อย (Songjanlhin Temple) ก็เรียกเจ้มารับให้ไปส่งค่ะ พอไปถึงเจ๊ก็ลงจากรถไปด้วยเหมือนเดิม และไปซื้อตั๋วให้ อู๊ดได้ตั๋วมาในราคาคนละ 90 หยวนค่ะ

พอซื้อตั๋วเสร็จ ก็เดินไปรอเพื่อขึ้นรถบัสเข้าไปในโซนของวัดโปตาลาน้อยกันต่อค่ะ