
นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ชี้ Libra เป็นอีกหนึ่งระบบสำรอง หากระบบการเงินล้มในอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มส่งสัญญาณ เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกแล้ว
วันที่ 24 มิ.ย. นายทวีสุข ธรรมศักดิ์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ได้สนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "Libra แทนดอลลาร์ สกุลเงินใหม่ของโลก?"
โดยนายทวีสุข กล่าวในช่วงหนึ่งว่า ตอนนี้ในโลกพยายามสร้างระบบหลายระบบ เช่น จีนได้เริ่มทำ โดยเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเป็นดิจิทัลมันนี่ หรือ ดร.มหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็มีการเสนอว่าเอเชียควรมีสกุลเงินของตัวเอง นั่นแสดงว่าทุกคนกำลังวิตกกังวลกับค่าเงินดอลลาร์ที่เสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็ว เพราะน่าจะมีการพิมพ์ดอลลาร์ครั้งใหม่เกิดขึ้น
ทีนี้ค่าเงินเสื่อมจะทำให้เกิดเงินเฟ้อจากการเสื่อมค่าของค่าเงินเหมือนในเวเนซุเอลาและอาร์เจนตินาปัจจุบัน จึงต้องหาทางออก ถ้าดอลลาร์เกิดการเสื่อมค่าในอัตราเร่งเพิ่มขึ้น ซึ่งใน 2 เดือนนี้เราเริ่มเห็นแล้ว จึงเห็นว่าสกุลเงินทั่วโลกเริ่มแข็งค่า ถ้าเกิดการพังของตลาดหุ้นขึ้น ตลาดหุ้นทั่วโลก 60 เปอร์เซ็นต์ถูกแบ็คด้วย Debt Complex ถ้าระบบ Debt Complex เกิดพังทลาย ทำให้ตลาดหุ้นพัง ถ้าตลาดหุ้นลงมาแรงมาก ตัวสินทรัพย์หลักประกัน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นและตัวอ้างอิงของหุ้น อัตราดอกเบี้ย แล้วก็ระบบเงินที่มันเคลื่อนย้าย มันจะมีปัญหาในระบบธนาคาร ที่เรียกว่าการ Mark to Market ฉะนั้นพอหุ้นตก แต่หุ้นไปค้ำหนี้อยู่ พอตัวหุ้นตกลงต่ำกว่าหลักประกันก็เเกิดการ Call Cash เกิดขึ้น ที่นี้เมื่อ Call แต่ Cash ไม่มีให้ Call มันก็ยิ่งถูกกดลงไปสู่การเทขาย มันทำให้สินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันล้มลง
ถ้าล้มลงขนาดนั้น โลกมี 2 ทางเลือก 1.ตลาดที่ Crash หนัก ๆ จะต้องปิดตลาดหุ้น 2.ปล่อยให้ Financial System พังลง เหมือนกรณีปี 2008 ตนพูดเสมอว่าเป็นการทดลองระบบ คือยอมให้ Lehman Brothers ล้ม เค้าก็รู้แล้วว่าปัญหาทั้งหมดคือการ Mark to Market ราคาบอนด์ ฉะนั้นพอล้มก็เกิดโดมิโนอย่างรุนแรงในระบบ Banking System
นายทวีสุข กล่าวต่ออีกว่า Libra เป็นอีกหนึ่งระบบสำรองที่กำลังจะเกิด ถ้าหากตัวระบบ Financial System ล้มในอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า เราจะดูได้เลยว่าหากตลาดหุ้นเกิดการ Crash เมื่อไหร่ เพราะตอนนี้การเติบโตเศรษฐกิจถดถอยทั้งโลกแล้ว สิ่งที่จะลงไม่ได้เลยคือตลาดหุ้น ถ้า Crash เมื่อไหร่ระบบ Financial System ทั้งโลกจะช็อกทันที คิดว่าถึงจุดนึงน่าจะต้องปิดตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อไม่ให้ระบบธนาคารพัง แต่ถ้าปิดไม่ทันอันนี้จะเป็นปัญหา
ข่าวจาก : MGR Online
“นักวิชาการ” ชี้ “Libra” จะเป็นระบบสำรองหากระบบการเงินล้มในอีก 2-3 ปี
วันที่ 24 มิ.ย. นายทวีสุข ธรรมศักดิ์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ได้สนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "Libra แทนดอลลาร์ สกุลเงินใหม่ของโลก?"
โดยนายทวีสุข กล่าวในช่วงหนึ่งว่า ตอนนี้ในโลกพยายามสร้างระบบหลายระบบ เช่น จีนได้เริ่มทำ โดยเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเป็นดิจิทัลมันนี่ หรือ ดร.มหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็มีการเสนอว่าเอเชียควรมีสกุลเงินของตัวเอง นั่นแสดงว่าทุกคนกำลังวิตกกังวลกับค่าเงินดอลลาร์ที่เสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็ว เพราะน่าจะมีการพิมพ์ดอลลาร์ครั้งใหม่เกิดขึ้น
ทีนี้ค่าเงินเสื่อมจะทำให้เกิดเงินเฟ้อจากการเสื่อมค่าของค่าเงินเหมือนในเวเนซุเอลาและอาร์เจนตินาปัจจุบัน จึงต้องหาทางออก ถ้าดอลลาร์เกิดการเสื่อมค่าในอัตราเร่งเพิ่มขึ้น ซึ่งใน 2 เดือนนี้เราเริ่มเห็นแล้ว จึงเห็นว่าสกุลเงินทั่วโลกเริ่มแข็งค่า ถ้าเกิดการพังของตลาดหุ้นขึ้น ตลาดหุ้นทั่วโลก 60 เปอร์เซ็นต์ถูกแบ็คด้วย Debt Complex ถ้าระบบ Debt Complex เกิดพังทลาย ทำให้ตลาดหุ้นพัง ถ้าตลาดหุ้นลงมาแรงมาก ตัวสินทรัพย์หลักประกัน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นและตัวอ้างอิงของหุ้น อัตราดอกเบี้ย แล้วก็ระบบเงินที่มันเคลื่อนย้าย มันจะมีปัญหาในระบบธนาคาร ที่เรียกว่าการ Mark to Market ฉะนั้นพอหุ้นตก แต่หุ้นไปค้ำหนี้อยู่ พอตัวหุ้นตกลงต่ำกว่าหลักประกันก็เเกิดการ Call Cash เกิดขึ้น ที่นี้เมื่อ Call แต่ Cash ไม่มีให้ Call มันก็ยิ่งถูกกดลงไปสู่การเทขาย มันทำให้สินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันล้มลง
ถ้าล้มลงขนาดนั้น โลกมี 2 ทางเลือก 1.ตลาดที่ Crash หนัก ๆ จะต้องปิดตลาดหุ้น 2.ปล่อยให้ Financial System พังลง เหมือนกรณีปี 2008 ตนพูดเสมอว่าเป็นการทดลองระบบ คือยอมให้ Lehman Brothers ล้ม เค้าก็รู้แล้วว่าปัญหาทั้งหมดคือการ Mark to Market ราคาบอนด์ ฉะนั้นพอล้มก็เกิดโดมิโนอย่างรุนแรงในระบบ Banking System
นายทวีสุข กล่าวต่ออีกว่า Libra เป็นอีกหนึ่งระบบสำรองที่กำลังจะเกิด ถ้าหากตัวระบบ Financial System ล้มในอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า เราจะดูได้เลยว่าหากตลาดหุ้นเกิดการ Crash เมื่อไหร่ เพราะตอนนี้การเติบโตเศรษฐกิจถดถอยทั้งโลกแล้ว สิ่งที่จะลงไม่ได้เลยคือตลาดหุ้น ถ้า Crash เมื่อไหร่ระบบ Financial System ทั้งโลกจะช็อกทันที คิดว่าถึงจุดนึงน่าจะต้องปิดตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อไม่ให้ระบบธนาคารพัง แต่ถ้าปิดไม่ทันอันนี้จะเป็นปัญหา