
ปรกติเป็นคนไม่ดูหนังไทย ยอมรับตรงๆไปดูเพราะ BNK48 + กะแสนักวิจารณ์ที่ให้+++++
เห็นหลายคนทำรีวิว Where We Belong ออกมาเทียบเคียงการเมือง ตัวละครคนนี้เปรียบเหมือนคนนั้นคนนี้ แต่ในมุมมองของผมที่เข้าไปดูหนังนี่ มันทับซ้อนกับชีวิตจริงของตัวเองยิ่งนัก
เริ่มจาก zu ( ถ้ากดแป้นไทย คือ ผี ) เป็นคนไทยเชื้อจีนเหมือนกัน พ่อค้าขายห้องแถวเหมือนกัน เกิดมาก็ต้องทำงานรับใช้พ่อเหมือนกัน ถูกบังคับกลายๆให้ทำกิจการที่บ้านเหมือนกัน (ถ้าสอบไม่ติด) ดังนั้น พอหนังเกริ่นเรื่องของ zu ผมก็เลยดิ่งไปกับตัวละครนี้ทันที
น้ำตาซึมครั้งแรก) มาจากคำพูดของ เจ๊ปุก ปอยเปต ที่บอกว่า สอบติดคหกรรมแล้ว เพื่อนถามทำนองว่าไม่ได้ชอบสายนี้ทำไมเลือก เจ๊ปุก ตอบว่า ชั้นมีทางเลือกซะที่ไหนต้องเลือกคณะที่มันชัว ไว้ก่อนคะแนนสูงๆเกิดสอบไม่ติดชีวิตเปลี่ยน ที่น้ำตาซึมเพราะตอนผมสอบเอนฯ มันเป็นเดิมพันของชีวิตเลย ถ้าสอบไม่ติดได้ทำกิจการที่บ้านแน่ๆซึ่ง เข้าใจในตัว zu เลยทำไมเกลียดเนื้อหมู ผมจึงต้องเลือกคณะที่คะแนนต่ำที่สุดเพื่อ เป็นใบผ่าน ทั้งๆที่ไม่ได้ชอบอาชีพในสายนั้นเลย มันคือความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย ในช่วงวัยสอบเข้ามหาลัยของผมที่วัดคนจากตัวเลขคะแนนอย่างเดียว ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดว่าระบอบการศึกษาไทยยังล้มเหลวอยู่ เพราะลูกน้องในสายงานที่รับเด็กจบมหาลัยดังๆมาก็หลายคน ทำงานแบบ เฮ้อ ขอถอนหายใจแป๊บ
น้ำตาซึมครั้งที่สอง) คือผมรับรู้ ความแตกต่างของ BELL และ ZU
ในสายตาผม ZU คือคนมีพรสวรรค์ด้านภาษา เป็นเด็กที่รักความก้าวหน้าพอสมควร เด็ก ตจว จะมีสักกี่คนที่สามารถพูดภาษาอังกฤตกับฝรั่งได้ แต่เธอกับถูกจองจำกับสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อนฝูง วัฒนธรรม อดีตที่ปวดร้าว ความคิดต่างๆ ล้วนล้อมกรอบจนเด็กสาวคนหนึ่ง อยากไปเสียจากที่นี่ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ทุกๆอย่าง รอบตัวเธอล้วนคือทางตันของอนาคต แต่อย่างน้อยใต้สำนึกของ ZU ยังคงอยากมีชีวิต เธอถึงเลือกไป Findland ที่เธอเชื่อว่าสามารถให้คำตอบความฝันของเธอได้ ถ้าผมได้ยินไม่ผิดคือประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุด
ในสายตาผม BELL คือสาวน้อยบ้านแตก ที่แม่ทิ้งเธอไปหาความศิวิไลซ์ ดูจากรถที่ใช้ก็คงไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดจะรับเลี้ยง BELL ได้แต่พยายามสร้างภาพให้ลูกดูว่าตนเองมีความสุข และรักลูก BELL จึงเป็นเด็กที่ไม่กล้าแม้ที่จะฝันถึงอะไรเลย ชีวิตของเธอมีแค่ยาย กับ ZU เท่านั้น ที่ตรงนี้จึงมี BELL อยู่เสมอ
ที่ผมน้ำตาซึม เพราะไม่ว่าจะ ZU ที่อยากหนีไปใช้ชีวิตที่ดีขึ้น หรือ BELL ที่อยู่ที่นี่ดูแลยาย ล้วนแล้วไม่มีอนาคตเลย เหมือน ผกก บอกเป็นนัยๆว่า อนาคตของเด็ก ตจว ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง คำที่บอกว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังมันเป็นเพียงคำพูดสวยหรู ที่นักการเมืองหยิบมาสร้างความฝันให้เราทุกครั้งแค่นั้นเอง
ซึ่ง ZU พยายามจะหนีไปจากประเทศนี้ เพราะไม่อยากเป็นเหมือน " ปลาโลมา "
น้ำตาซึมครั้งที่สาม) คือช่วง peak ของ ZU ที่นั่งอยู่ในสวนสนุกของจังหวัดคนเดียว มันเป็นที่ๆควรจะสนุก แต่กลับรู้สึก " อ้างว้าง " ไร้ซึ่งทางออกใดๆทั้งการถูกพ่อ ตัวเองสร้างเรื่องหลอกให้อยู่ต่อ , ทั้งเรื่องเพื่อนสนิทอรอุ๋ง ที่ไม่ยอม อภัยให้ , ทั้งไม่สามารถรับความรักของ BELL ได้ โดยดูจาก ที่ ZU พูดและกอด BELL บนชายหาดว่า ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ ซึ่ง BELL เองก็เหมือนรับรู้ และยอมไปกินข้าวกับฝรั่งเพื่อให้ SU สบายใจ ฉากนี้น้องเล่นได้ดีมากๆไม่ต้องมีคำพูดใดๆออกมา มีแค่สีหน้า และดนตรี แต่ในฐานะคนดูในสมองผมมันเต็มไปด้วย คำถาม? ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่ามันไม่มีทางออกให้ ZU เลยหรือ ซึ่งคำตอบคือบทสุดท้าย ปลายเปิดที่ ผกก ให้คนดูตัดสินใจเอง ในความคิดผมๆคงคิดว่า ZU นั้นได้ตัดสินใจจบทุกอย่าง ซึ่งที่ผมน้ำตาซึมเพราะครั้งนึงในชีวิตก็ไร้ทางออกแบบ ZU เหมือนกัน
น้ำตาซึม 3 ครั้งกับการดู Where we belong ( สปอย )
เห็นหลายคนทำรีวิว Where We Belong ออกมาเทียบเคียงการเมือง ตัวละครคนนี้เปรียบเหมือนคนนั้นคนนี้ แต่ในมุมมองของผมที่เข้าไปดูหนังนี่ มันทับซ้อนกับชีวิตจริงของตัวเองยิ่งนัก
เริ่มจาก zu ( ถ้ากดแป้นไทย คือ ผี ) เป็นคนไทยเชื้อจีนเหมือนกัน พ่อค้าขายห้องแถวเหมือนกัน เกิดมาก็ต้องทำงานรับใช้พ่อเหมือนกัน ถูกบังคับกลายๆให้ทำกิจการที่บ้านเหมือนกัน (ถ้าสอบไม่ติด) ดังนั้น พอหนังเกริ่นเรื่องของ zu ผมก็เลยดิ่งไปกับตัวละครนี้ทันที
น้ำตาซึมครั้งแรก) มาจากคำพูดของ เจ๊ปุก ปอยเปต ที่บอกว่า สอบติดคหกรรมแล้ว เพื่อนถามทำนองว่าไม่ได้ชอบสายนี้ทำไมเลือก เจ๊ปุก ตอบว่า ชั้นมีทางเลือกซะที่ไหนต้องเลือกคณะที่มันชัว ไว้ก่อนคะแนนสูงๆเกิดสอบไม่ติดชีวิตเปลี่ยน ที่น้ำตาซึมเพราะตอนผมสอบเอนฯ มันเป็นเดิมพันของชีวิตเลย ถ้าสอบไม่ติดได้ทำกิจการที่บ้านแน่ๆซึ่ง เข้าใจในตัว zu เลยทำไมเกลียดเนื้อหมู ผมจึงต้องเลือกคณะที่คะแนนต่ำที่สุดเพื่อ เป็นใบผ่าน ทั้งๆที่ไม่ได้ชอบอาชีพในสายนั้นเลย มันคือความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย ในช่วงวัยสอบเข้ามหาลัยของผมที่วัดคนจากตัวเลขคะแนนอย่างเดียว ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดว่าระบอบการศึกษาไทยยังล้มเหลวอยู่ เพราะลูกน้องในสายงานที่รับเด็กจบมหาลัยดังๆมาก็หลายคน ทำงานแบบ เฮ้อ ขอถอนหายใจแป๊บ
น้ำตาซึมครั้งที่สอง) คือผมรับรู้ ความแตกต่างของ BELL และ ZU
ในสายตาผม ZU คือคนมีพรสวรรค์ด้านภาษา เป็นเด็กที่รักความก้าวหน้าพอสมควร เด็ก ตจว จะมีสักกี่คนที่สามารถพูดภาษาอังกฤตกับฝรั่งได้ แต่เธอกับถูกจองจำกับสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อนฝูง วัฒนธรรม อดีตที่ปวดร้าว ความคิดต่างๆ ล้วนล้อมกรอบจนเด็กสาวคนหนึ่ง อยากไปเสียจากที่นี่ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ทุกๆอย่าง รอบตัวเธอล้วนคือทางตันของอนาคต แต่อย่างน้อยใต้สำนึกของ ZU ยังคงอยากมีชีวิต เธอถึงเลือกไป Findland ที่เธอเชื่อว่าสามารถให้คำตอบความฝันของเธอได้ ถ้าผมได้ยินไม่ผิดคือประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุด
ในสายตาผม BELL คือสาวน้อยบ้านแตก ที่แม่ทิ้งเธอไปหาความศิวิไลซ์ ดูจากรถที่ใช้ก็คงไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดจะรับเลี้ยง BELL ได้แต่พยายามสร้างภาพให้ลูกดูว่าตนเองมีความสุข และรักลูก BELL จึงเป็นเด็กที่ไม่กล้าแม้ที่จะฝันถึงอะไรเลย ชีวิตของเธอมีแค่ยาย กับ ZU เท่านั้น ที่ตรงนี้จึงมี BELL อยู่เสมอ
ที่ผมน้ำตาซึม เพราะไม่ว่าจะ ZU ที่อยากหนีไปใช้ชีวิตที่ดีขึ้น หรือ BELL ที่อยู่ที่นี่ดูแลยาย ล้วนแล้วไม่มีอนาคตเลย เหมือน ผกก บอกเป็นนัยๆว่า อนาคตของเด็ก ตจว ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง คำที่บอกว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังมันเป็นเพียงคำพูดสวยหรู ที่นักการเมืองหยิบมาสร้างความฝันให้เราทุกครั้งแค่นั้นเอง
ซึ่ง ZU พยายามจะหนีไปจากประเทศนี้ เพราะไม่อยากเป็นเหมือน " ปลาโลมา "
น้ำตาซึมครั้งที่สาม) คือช่วง peak ของ ZU ที่นั่งอยู่ในสวนสนุกของจังหวัดคนเดียว มันเป็นที่ๆควรจะสนุก แต่กลับรู้สึก " อ้างว้าง " ไร้ซึ่งทางออกใดๆทั้งการถูกพ่อ ตัวเองสร้างเรื่องหลอกให้อยู่ต่อ , ทั้งเรื่องเพื่อนสนิทอรอุ๋ง ที่ไม่ยอม อภัยให้ , ทั้งไม่สามารถรับความรักของ BELL ได้ โดยดูจาก ที่ ZU พูดและกอด BELL บนชายหาดว่า ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ ซึ่ง BELL เองก็เหมือนรับรู้ และยอมไปกินข้าวกับฝรั่งเพื่อให้ SU สบายใจ ฉากนี้น้องเล่นได้ดีมากๆไม่ต้องมีคำพูดใดๆออกมา มีแค่สีหน้า และดนตรี แต่ในฐานะคนดูในสมองผมมันเต็มไปด้วย คำถาม? ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่ามันไม่มีทางออกให้ ZU เลยหรือ ซึ่งคำตอบคือบทสุดท้าย ปลายเปิดที่ ผกก ให้คนดูตัดสินใจเอง ในความคิดผมๆคงคิดว่า ZU นั้นได้ตัดสินใจจบทุกอย่าง ซึ่งที่ผมน้ำตาซึมเพราะครั้งนึงในชีวิตก็ไร้ทางออกแบบ ZU เหมือนกัน