ลมปราณเมฆม่วง (紫霞神功) เป็นวิชากำลังภายในระดับสูงสุดของฮั้วซัวครับ  ในหนังสือบรรยายไว้ว่า "วิชากำลังภายในนี้ตอนแรกที่ใช้ออกอ่อนนุ่มดุจปุยเมฆ แต่แฝงพลังหยุ่นเหนียว เมื่อถึงตอนท้ายถึงกับทะลักมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน ดังนั้นขนานนามเมฆม่วง"  และเวลาใช้ใบหน้าก็ปกคลุมด้วยพลังสีม่วง

ในยุคกระบี่เย้ยยุทธจักรมีคำกล่าวว่า "เก้ายอดยุทธฮั้วซัว เมฆม่วงอยู่อันดับหนึ่ง"


แนวทางวิทยายุทธ์ของสำนักฮั้วซัวฝ่ายลมปราณ ใช้ลมปราณเป็นฐาน เพลงกระบี่เป็นรอง เมื่อฝึกลมปราณสำเร็จ ไม่ว่าใช้หมัดเท้า ร่ายรำดาบกระบี่ล้วนประสบผล พูดง่ายๆ คือใช้ลมปราณเสริมความแข็งแกร่งให้วิชากระบี่ครับ    

มีคำอธิบายว่า วิชากระบี่ฝึกได้ง่ายเห็นผลทันตา สิบปีแรกฝ่ายกระบี่ชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ เมื่อถึงปีที่ยี่สิบค่อยคู่คี่ก้ำกึ่งกัน หลังปีที่ยี่สิบฝ่ายลมปราณยิ่งมายิ่งกล้าแข็ง เมื่อถึงปีที่สามสิบ ฝ่ายกระบี่ก็ไม่อาจเห็นหลังฝ่ายลมปราณได้



งักฮูหยินเล่าไว้ว่า "กระบวนท่าของเจ้าแม้พิสดาร แต่เมื่อเผชิญกับลมปราณขั้นสูงของซือแป๋เจ้า ต่อให้เป็นกระบวนท่าพิสดารกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ ครั้งกระโน้นการประลองกระบี่ครั้งใหญ่บนยอดเขาเทพธิดา ยอดฝีมือฝ่ายกระบี่ใช้ท่ากระบี่ร้อยเปลี่ยนแปลง แต่ซือโจ้ว (อาจารย์ของอาจารย์) เจ้าอาศัยลมปราณเมฆม่วง ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไว้ โค่นยอดฝีมือฝ่ายกระบี่สิบกว่าคนพ่ายแพ้ ปรับรากฐานอันมั่นคงให้กับฝ่ายลมปราณสำนักเรา"

มีครั้งหนึ่งต้องเหล็งฮู้ชงประลองกระบี่กับงักฮูหยิน ใช้กระบวนท่าในผนังถ้ำใช้ฝักกระบี่สอดรับกระบี่งักฮูหยิน แล้วเ.สือกฝักกระบี่จี้คอหอย "งักปุกคุ้งทั้งแตกตื่นทั้งเดือดดาลสะบัดกระบี่กระแทกใส่ฝักกระบี่ของเหล็งฮู้ชง กระบี่นี้แฝงพลังลมปราณเมฆม่วง เหล็งฮู้ชงรู้สึกตลอดทั้งร่างร้อนผ่าวเซตึงตึงถอยไปสามก้าว กระแทกนั่งลงกันพื้น ฝักกระบี่อันนั้นพร้อมกระบี่ในฝักหักสะบั้นเป็นสามสี่ท่อน ร่วงหล่นลงกับพื้น"

นอกจากนี้ผลจากการฝึกกำลังภายในขั้นสูง งักปุกคุ้งอายุเกือบหกสิบปีแล้วกลับมีหน้าตาเหมือนคนอายุสี่สิบเศษเท่านั้น


ลมปราณเมฆม่วงเป็นวิชาที่ถ่ายทอดให้ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักเท่านั้น แต่ตัวคัมภีร์ถูกเล้าเต็กนับขโมยไป แม้ได้คืนมาภายหลัง แต่ก็ไม่ได้ปรากฏว่าถ่ายทอดให้ใครอีกครับ