ออกตัวก่อนว่ากระทู้เราไม่มีสาระอะไรเกี่ยวกับเลบานอนนะคะ เพราะคิดว่ากระทู้เที่ยวเลบานอนอื่น ๆบอกรายละเอียดเกี่ยวกับที่นี่ไว้เยอะมากแล้ว ของตัวเองจะเป็นแบบลงรูปไปเรื่อย ๆ ไปไหนมาบ้าง อาหารเลบานอนที่กินที่บ้านเพราะมานี่ไปกินร้านอาหารไม่ถึง 3 ครั้ง เรียกได้ว่า กินอยู่แบบโลคอลสุด ๆ ตื่น ทำกับข้าว ออกไปตลาด ไปโบสถ์วันอาทิตย์ตอนเช้า เรียกได้ว่าพักผ่อนที่แท้ทรู
 จริง ๆ อยากรอตั้งกระทู้ตอนไปครบทุกเมืองในเลบานอน แต่ก็กลัวจะเป็นแบบหลาย ๆ ทริปคือรูปหายหมด สุดท้ายลืมหมดเลย อย่างทริปมาชูปิกชู-โบลิเวียคือแทบจำการเดินทางไม่ค่อยแม่นแล้ว คราวนี้เลยขอเน้นลงรูปละกันเพราะอธิบายไม่เก่ง สำหรับคนไทยการขอวีซ่ามาเลบานอนที่รู้คือต้องส่งเอกสารไปสถาณฑูตที่อินเดีย แต่สำหรับเราไม่ได้ทำงานเมืองไทยเลยค่อนข้างง่าย ส่วนพวกสายการบินก็มีหลายสายมาที่นี่อย่างสายตะวันออกกลางก็ต่อเครื่องมาราว 3-4 ชั่วโมง จริง ๆไกล้กว่านี้แต่ต้องบินอ้อมซีเรีย สนามบินที่นี่คือเล็ก ๆ แบบเล็กมาก ตอนมาตม.ก็แค่ถามว่าชาติไหน ครั้งแรกรึเปล่า ไม่ค่อยมีอะไร ชิว ๆ ออกมาด้านนอกจะมีแท็กซี่รออยู่ ซึ่งที่นี่ใช้จ่ายด้วยเงินดอลล่าร์ได้ค่ะ แต่เรามีเพื่อนอยู่ที่นี่ก็จะเดินทางสะดวกหน่อย ที่พักเราก็พักบ้านเพื่อนแถว ๆถ้ำไจต้า  ซึ่งถ้ำนี้ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวของที่นี่ด้วย มีขนาดใหญ่คล้าย ๆขุนน้ำนางนอนที่เชียงรายเลย 
ที่นี่บ้านผู้คนจะสร้างตามไหล่เขา ช่วงไม่ไกลจากเบรุตคือดูแออัดมาก เจอบ้านบางหลังที่เจาะหินเข้าไปนี่แอบกลัวหินจะหล่นทับบ้านเลย เค้าจะมีเหมือนเป็นย่านมุสลิม คริสเตียน ด้วย คนที่นี่จะเป็นมุสลิม คริสเตียนแบบครึ่ง ๆ แต่ส่วนใหญ่คนที่เป็นคริสเตียนจะอาศัยอยู่นอกประเทศ แถบอเมริกาใต้เป็นส่วนมาก
วันแรกที่มาไปเที่ยวแถว Harissa หรือบางคนเรียก Our lady of Lebanon แต่ด้วยความหนาวลืมถ่ายรูปวิวจร้าาา มีแต่รูปตัวเองในเฟรม
  ข้างล่างนี่คือเป็นย่านบ้านเพื่อนที่เราไปอยู่ตลอดทั้งอาทิตย์ คือเค้าจะมีทางขี้นไปแบบถนนปิด มีบ้านแค่  10  หลังเอง สงบและเป็นส่วนตัวมาก ช่วงหน้าร้อนฟ้าเปิดคือมองเห็นทะเลเป็นสีฟ้า สวยมากกกกกกกกกก แต่ !เลบานอนขึ้นชื่อเรื่องหมาป่ากับไฮยีน่ามาก มีอยู่คืนนึงแบบหมาหอนชัดมากจนขนลุกก คือบ้านบนเขานี่ทำใจเลยทุกคนในบ้านบอกเจอจนชิน
ตอนแรกที่มาคือมีแพลนอยากไปเล่นสกีที่ Faraiya แล้วก็ขึ้นไปถ่ายรูปตรงที่เค้าเอารูปปั้นไปตั้งบนยอดเขา แต่ปรากฏพอขับรถไปถึงที่เล่นสกีคนเยอะมาก ส่วนเขาที่จะขึ้นก็ปิดเพราะหิมะถล่ม ทางคือปิดหมด นี่เลยได้แต่เดิน ๆเตะหิมะเล่นระหว่างทางไป คือเลบานอนเนี่ยะ ประเทศเค้าเล็กมาก ถ้ารถไม่ติดขับเหนือจรดใต้ไม่ถึง 4 ชั่วโมงอ่ะ
     ยิ่งไกล้ถึง ยิ่งเห็นหิมะตามไหล่เขามากขึ้น   ถึงแล้ววววววว ขับมาจากแถวถ้ำไจ้ต้าแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เอง รวม ๆจากเบรุตก็ไม่ถึง 2 ชั่วโมง
 สังเกตหลาย ๆบ้านบนนี่คือเหมือนบ้านตากอากาศซะส่วนมาก เพราะถ้าอยู่กันจริง ๆนี่หน้าหนาวคงลำบากกับการกำจัดหิมะทุกเช้าแน่ ๆ บางหลังนี่ถมมิดไปครึ่งบ้านจนสงสัยว่าเออ แล่วจะออกจากบ้านกันยังไงนั่น
 เนี่ยะอยากเช่าขับมาก แต่พอเจอราคาไป เออไม่ขับก็ได้!! 
 เล่นสกีที่เลบานอนเด้ออออ ใครจะคิดว่าจะมีภูเขาหิมะ ส่วนตัวชอบความสวยงามของประเทศนี้มาก คือมาที่นี่ได้ทั้งหิมะทั้งบีชในประเทศเดียว เป็นประเทศที่จัดอยู่ในตะวันออกกลาง แต่สไตล์ยุโรป
  เอาจริง ๆมันไม่ได้หนาวอะไรมากนะวันนี้ ออกจะอุ่น ๆมากกว่า แต่ด้วยความที่หิมะมันขาวโพลนแล้วแดดจร้ามาก พอมันกระทบกันคือแสบตามาก แบบที่ไม่สามารถถอดแว่นได้เลย 
 นี่บอกกับตัวเองไว้ เออมารอบหน้าค่อยเล่นละกัน รอบนี้บรัยยยยย
ลงมาข้างล่างเพื่อจะขึ้นไปถ่ายรูปตรงวิวของป้ายฟารายา แต่ก็ปิดเด้ออออ อด!! พยายามหาทางลัดแล้วก้ไม่เจอ สุดท้ายล้มเลิก
 นี่ขนาดมาปลายฤดูหนาวแล้วหิมะยังหนาอยู่เลย นี่ว่าวิวของที่นี่คือสวยมากเพียงแค่ประเ้ทศเค้าไม่ได้ร่ำรวยแบบบางประเทศยุโรป การก่อสร้างบ้านมันเลยดูครึ่ง ๆกลาง ๆ ทำให้วิวโดยรวมสวยไม่เท่าบางที่ แต่ก็คือสวยในแบบเลบานอนอ่ะเน๊อะ 
 พอไม่ได้เล่นสกีก็เริ่มขับหาที่เที่ยวแถว ๆนั้น จนมาตรงนี้ ซึ่งก็ไม่ได้รู้อะไรมากหรอก รู้แค่หูยยยย สวยจังงงงง
 มันมีหลาย ๆรูปที่อยากลง แต่ภาพมันเป็นแนวตั้ง ด้วยความที่ไม่เล่นพันทิพมาหลายปีมากลืมไปหมดแล้วต้องแก้ยังไง