อยากแนะนำตัว
มาอยู่พันทิปตั้งแต่หลังเลือกตั้ง ก็นานพอสมควรแล้ว ยังไม่เคยแนะนำตัวเลย ก็ถือโอกาสสวัสดีและทักทายทุกท่านในห้องราชดำเนินอันลือลั่นด้วยนะครับผม หลายๆ ท่านคงพอจะคุ้นเคยกับผมมาบ้างแล้ว ในฐานะเจ้าของล็อกอินดาวดำผู้เลือกข้างลุงตู่เป็นที่มั่น
ถามว่าทำไมใช้นามแฝงว่าดาวดำ ถ้าให้พูดจริงๆ คือ...ผมอยากได้อะไรที่มันให้ความรู้สึกถึงอะไรที่มันออกลบๆ หน่อย เพราะการมาที่นี่ผมมาเพื่อปะทะ ไม่ได้มาหล่อให้ใครรักใครชอบ การที่เราได้เลือกข้างทางการเมืองแล้วนั้น มันเลี่ยงยากที่ต้องทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่ายังไงก็ต้องสร้างความไม่พอใจกับฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย ก็เลยคิดว่า “ดาวดำ” นี่แหละเหมาะจะเป็นตัวแทนของตัวผมเอง
อันที่จริงก็ไม่อยากมาสาธยายอะไรให้ใครฟังหรอก แต่เบื่อตรงที่ชอบมีคนคิดว่าผมเป็นอวตารของคนนั้นคนนี้ ซึ่งผมเองไม่รู้จักด้วยซ้ำ
อย่างแรกที่ทุกท่านควรรู้เกี่ยวกับตัวผมเลยคือ ผมมีประสบการณ์ในการทะเลาะกันบนโซเชียลมาราวๆ สิบปี ความหยาบคายผมมีและมากด้วย ถ้าปล่อยสุดก็น่าจะขึ้นลำดับต้นๆ ของบอร์ดได้อย่างไม่เคอะเขิน คือ...ใครจะวาดฝันว่าผมเป็นคนดีสุภาพอะไร บอกเลยว่าผมไม่ใช่ แต่ถามว่าผมเป็นคนมีเหตุมีผลไหม ก็ต้องตอบว่าประมาณหนึ่ง คือสามารถคุยดีๆ กับผมได้โดยไม่ต้องหยาบคาย แต่หยาบคายก็ไม่เกี่ยง ไม่ได้เลิศเลอเฟอร์เฟ็คอะไรมาจากไหน เรียนก็แค่กลางๆ ไม่ได้เก่งติดหนึ่งในสามของห้อง ก็แค่เอาตัวรอดได้ตลอดเท่านั้น ดีหน่อยตรงได้จบวิศวะจากมหาลัยที่พอเป็นที่รู้จัก บ้านก็ฐานะกลางๆ ไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดมีรถยุโรปขับ อาชีพก็เปิดกิจการออกแบบสร้างบ้าน กู้เขามาลงทุนก็ยังใช้หนี้ไม่หมด ไม่มีอะไรเหนือกว่าใคร นอกจากพี่ชายเป็นนายทหารยศสูง ที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาหน่อย แต่ก็ไม่ค่อยจะพึ่งพาอะไรกัน เพราะเขาก็มีลูกมีเมียแยกครอบครัวไปอีกครอบครัวหนึ่ง ผมก็อาศัยอยู่บ้านกับพ่อที่เป็นข้าราชการเกษียณ และแม่ที่เปิดกิจการเล็กๆ เกี่ยวกับการทำหมอนและที่นอน มีลูกจ้างช่วยสองสามคน
ตัวผมก็แค่คนธรรมดา ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ก็เขียนแบบบ้านในฝันของตัวเองไว้แล้วละ อยู่ในฮาร์ดดิสก์ลูกที่เพิ่งถอดออกไป เพราะอาการมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เดี๋ยวถ้ากู้ข้อมูลได้จะเอามาให้ดูกัน ห้าห้องนอนเจ็ดห้องน้ำ ตีราคาสร้างไว้ราวยี่สิบล้าน แต่ตอนนี้มีอยู่ในกระเป๋าสองร้อยยี่สิบสามบาท ถามว่าทำไมอยากมีบ้านหลังใหญ่ขนาดนั้น หลานเยอะครับ ลูกของพี่ชายกับพี่สาวรวมกันก็สี่คนแล้ว เวลามาเยี่ยมบ้านพร้อมกันมันดูคับแคบไปหน่อย เลยคิดว่าถ้ามีวาสนาก็จะสร้างมันหลังใหญ่ๆ ไปเลย
แค่นี้ก็น่าจะพอรู้จักผมประมาณหนึ่งแล้วมั้ง อ้อ...มีเรื่องความรักที่น่าจะเป็นที่อยากรู้ของคนทั่วไป เลิกกับแฟนมาได้สองปีแล้วครับ คำถามต่อมาคือทำไมถึงเลิก ผมว่ามีคนอยากรู้แน่ๆ จะว่าไงดีละ เขาคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดาครับ เขาทำงานเป็นลูกจ้างในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งผมมองว่ารายได้มันไม่คุ้มค่าเหนื่อย ผมอยากให้เขาออกมาทำกิจการเป็นของตัวเอง ขายเพชรขายพลอยอะไรก็ว่าไป (ฮ่าๆ) คืออยากให้ออกมาทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เขาบอกเขาไม่ชอบ เขาอยากเป็นข้าราชการเหมือนเพื่อนๆ เขา คนธรรมดาก็ต้องอยากมีงานมั่นคงอะไรแบบนั้น เขาไปสอบนั่นสอบนี่เรื่อยเปื่อยแต่ก็สอบไม่ได้สักที อยากจะพูดหล่อๆ ว่า ผมไม่เคยว่าอะไรเขาเลย แต่ผมก็พูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะผมว่าเขาครับ ผมบอกเขาประมาณว่า คนเราทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นราชการ มันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ พยายามไปมันมีแต่เสียเวลาเปล่า ออกมาทำอย่างอื่นเถอะ คิดว่าเขาคงไม่พอใจกระมังครับ จากนั้นก็ค่อยๆ ห่างกัน ช่วงนั้นผมก็ออกหน้างานบ่อย บางทีก็ต้องไปนอนอยู่ไซต์กับคนงานด้วย สุดท้ายเขาก็บอกเลิก ก็มีเท่านั้นครับไม่มีอะไรซับซ้อน
ป.ล. สุดท้ายนี้ใครไม่พอใจก็เข้ามาด่าได้นะครับ แต่อย่าด่าแรงเดี๋ยวผมด่าคืน 555+
เห็นคนอื่นตั้งก็อยากตั้งบ้าง : ดาวดำผู้อหังการ
ถามว่าทำไมใช้นามแฝงว่าดาวดำ ถ้าให้พูดจริงๆ คือ...ผมอยากได้อะไรที่มันให้ความรู้สึกถึงอะไรที่มันออกลบๆ หน่อย เพราะการมาที่นี่ผมมาเพื่อปะทะ ไม่ได้มาหล่อให้ใครรักใครชอบ การที่เราได้เลือกข้างทางการเมืองแล้วนั้น มันเลี่ยงยากที่ต้องทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่ายังไงก็ต้องสร้างความไม่พอใจกับฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย ก็เลยคิดว่า “ดาวดำ” นี่แหละเหมาะจะเป็นตัวแทนของตัวผมเอง
อันที่จริงก็ไม่อยากมาสาธยายอะไรให้ใครฟังหรอก แต่เบื่อตรงที่ชอบมีคนคิดว่าผมเป็นอวตารของคนนั้นคนนี้ ซึ่งผมเองไม่รู้จักด้วยซ้ำ
อย่างแรกที่ทุกท่านควรรู้เกี่ยวกับตัวผมเลยคือ ผมมีประสบการณ์ในการทะเลาะกันบนโซเชียลมาราวๆ สิบปี ความหยาบคายผมมีและมากด้วย ถ้าปล่อยสุดก็น่าจะขึ้นลำดับต้นๆ ของบอร์ดได้อย่างไม่เคอะเขิน คือ...ใครจะวาดฝันว่าผมเป็นคนดีสุภาพอะไร บอกเลยว่าผมไม่ใช่ แต่ถามว่าผมเป็นคนมีเหตุมีผลไหม ก็ต้องตอบว่าประมาณหนึ่ง คือสามารถคุยดีๆ กับผมได้โดยไม่ต้องหยาบคาย แต่หยาบคายก็ไม่เกี่ยง ไม่ได้เลิศเลอเฟอร์เฟ็คอะไรมาจากไหน เรียนก็แค่กลางๆ ไม่ได้เก่งติดหนึ่งในสามของห้อง ก็แค่เอาตัวรอดได้ตลอดเท่านั้น ดีหน่อยตรงได้จบวิศวะจากมหาลัยที่พอเป็นที่รู้จัก บ้านก็ฐานะกลางๆ ไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดมีรถยุโรปขับ อาชีพก็เปิดกิจการออกแบบสร้างบ้าน กู้เขามาลงทุนก็ยังใช้หนี้ไม่หมด ไม่มีอะไรเหนือกว่าใคร นอกจากพี่ชายเป็นนายทหารยศสูง ที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาหน่อย แต่ก็ไม่ค่อยจะพึ่งพาอะไรกัน เพราะเขาก็มีลูกมีเมียแยกครอบครัวไปอีกครอบครัวหนึ่ง ผมก็อาศัยอยู่บ้านกับพ่อที่เป็นข้าราชการเกษียณ และแม่ที่เปิดกิจการเล็กๆ เกี่ยวกับการทำหมอนและที่นอน มีลูกจ้างช่วยสองสามคน
ตัวผมก็แค่คนธรรมดา ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ก็เขียนแบบบ้านในฝันของตัวเองไว้แล้วละ อยู่ในฮาร์ดดิสก์ลูกที่เพิ่งถอดออกไป เพราะอาการมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เดี๋ยวถ้ากู้ข้อมูลได้จะเอามาให้ดูกัน ห้าห้องนอนเจ็ดห้องน้ำ ตีราคาสร้างไว้ราวยี่สิบล้าน แต่ตอนนี้มีอยู่ในกระเป๋าสองร้อยยี่สิบสามบาท ถามว่าทำไมอยากมีบ้านหลังใหญ่ขนาดนั้น หลานเยอะครับ ลูกของพี่ชายกับพี่สาวรวมกันก็สี่คนแล้ว เวลามาเยี่ยมบ้านพร้อมกันมันดูคับแคบไปหน่อย เลยคิดว่าถ้ามีวาสนาก็จะสร้างมันหลังใหญ่ๆ ไปเลย
แค่นี้ก็น่าจะพอรู้จักผมประมาณหนึ่งแล้วมั้ง อ้อ...มีเรื่องความรักที่น่าจะเป็นที่อยากรู้ของคนทั่วไป เลิกกับแฟนมาได้สองปีแล้วครับ คำถามต่อมาคือทำไมถึงเลิก ผมว่ามีคนอยากรู้แน่ๆ จะว่าไงดีละ เขาคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดาครับ เขาทำงานเป็นลูกจ้างในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งผมมองว่ารายได้มันไม่คุ้มค่าเหนื่อย ผมอยากให้เขาออกมาทำกิจการเป็นของตัวเอง ขายเพชรขายพลอยอะไรก็ว่าไป (ฮ่าๆ) คืออยากให้ออกมาทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เขาบอกเขาไม่ชอบ เขาอยากเป็นข้าราชการเหมือนเพื่อนๆ เขา คนธรรมดาก็ต้องอยากมีงานมั่นคงอะไรแบบนั้น เขาไปสอบนั่นสอบนี่เรื่อยเปื่อยแต่ก็สอบไม่ได้สักที อยากจะพูดหล่อๆ ว่า ผมไม่เคยว่าอะไรเขาเลย แต่ผมก็พูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะผมว่าเขาครับ ผมบอกเขาประมาณว่า คนเราทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นราชการ มันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ พยายามไปมันมีแต่เสียเวลาเปล่า ออกมาทำอย่างอื่นเถอะ คิดว่าเขาคงไม่พอใจกระมังครับ จากนั้นก็ค่อยๆ ห่างกัน ช่วงนั้นผมก็ออกหน้างานบ่อย บางทีก็ต้องไปนอนอยู่ไซต์กับคนงานด้วย สุดท้ายเขาก็บอกเลิก ก็มีเท่านั้นครับไม่มีอะไรซับซ้อน
ป.ล. สุดท้ายนี้ใครไม่พอใจก็เข้ามาด่าได้นะครับ แต่อย่าด่าแรงเดี๋ยวผมด่าคืน 555+