สำหรับผม. ผมคิดว่ามีดารา Hollywood น้อยคนมาก
ที่ Big Break ครั้งแรกในชีวิตการทำงานจะมาถึงเมื่ออายุเข้าวัย 30 ไปแล้ว
และใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี ในการกล่าวสู่ถนนของ A List Actor ได้.
ปัจจุบันปี 2019 นี้ เธออายุ 42 ปี แล้วนะครับ
ครั้งแรกที่ผมรู้จักเธอ. คือจาก Interstella ในปี 2014
As Murph : Interstella (2014)
ตอนนั้น ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าใคร คือ คริสโตเฟอร์ โนแลน หรือ เจสสิก้า เชสเทน
(เผอิญผมไม่ใช่แฟน Inception เท่าไหร่ดูแล้วจะหลับ ล้ำลึกเกิน 555)
ในใจตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า แมทธิว แมคคอนนาเฮย์ กับ แอน แฮทอะเวย์ โดนจับมาเล่นหนัง Space Sci fi ด้วยกัน ยังไงกูก็พลาดไม่ได้
สรุปแล้ว กว่ารู้ตัวอีกทีหนึ่ง
ผมก็ดู Interstella ในโรง แบบ IMAX ไป 6 รอบ แล้ว แบบ งงๆ.
เหตุผลเดียวเลย เพราะอินกับ Murph มาก.
ลืมหน้า แมททิว และ แอน ไปหมดสิ้น.
ทุกฉากที่ Murph น้ำตาไหล.
ผมจะร้องไห้ตามด้วยตลอด
และผมก็ตกหลุกรักกับผู้หญิงคนนี้ทันที ตั้งแต่ตอนนั้น ทั้งๆยังไม่เคยรู้จักชื่อเธอมาก่อนด้วยซ้ำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ฉากที่ Murph พยายามใช้สายตา อ่านแรงโน้มถ่วงที่ พ่อ(แมทธิว) ส่งข้ามเวลามาให้ จากอีกมิติหนึ่ง ยังตราตรึงอยูในใจผมมาถึงทุกวันนี้)
พอได้มาอ่านประวัติของเธอ ถึงเพิ่งรู้ว่า Big Break ของเธอ
คือการได้เข้าชิง Best Supporting Role จากเรื่อง The Help (2011)
(ซึ่งตอนนั้นเธออายุ 34 ปี)
ซึ่งก่อนหน้านั้น เธอก็ล้มลุกคลุกคลานมา 6-7 ปี ตั้งแต่ปี 2004 ถึง ต้นปี 2011 (ซึ่งเอาจริงๆ ก็ถือว่าใช้เวลาไม่นานเลย สำหรับ Actor Struggle Year ในโลกของความเป็นจริง)
งานแสดงของ Jessica ก่อนที่Big Break แรกจะมาถึง
(ส่วนใหญ่จะเป็นงานแสดงทีวี ทั้งนั้นด้วย)
As Celia Foote : The Help (2011)
และแปลกมากๆที่รู้ว่ามี เจสสิก้าเล่นเรื่อง The Help ด้วย
เพราะตอนผมดู The Help ผมแทบไม่รู้สึกถึงการแสดงของใครที่เตะตามากไปกว่า Viola Davis เลย
(ก็แน่ล่ะ แม่เล่นฟาด Best Actress ไปเลยจากเวทีเดียวกัน)
ทิ้งเวลาไม่นาน ปีต่อมา 2012 เธอก็เข้าชิง Oscar ต่อเลย สาขา Best Actress in a Leading Role จาก Zero Dark Thirty
As Maya : Zero Dark Thirty (2012)
เรื่องนี้ผมยังไม่ได้ดู เผอิญเห็นเป็นหนังสงคราม ต้องใช้สมาธิเยอะหน่อย เลยกะว่ารอมีเวลาแล้วจะดูสักที
ถึงช่วงปีหลังๆนี้ เธอมีหนังหลายเรื่องเลย ที่ออกมาพังมากกว่าปัง. (X Men Dark Phoenix,
แต่ผมก็ยังรอวันที่เธอจะได้ออสการ์มาครองสักตัวอยู่
ปี 2018 ที่ผ่านมา ก็มีหนังกล่องน้ำดีอย่าง Molly's Game ที่รับบทนำเต็มตัว 100%
และคะแนนวิจารณ์ และ Audiance ดีมากๆ (แต่ออสการ์เมินซะงั้น)
ดูชีวิตของเธอทีไร คนวัย สามสิบกว่าๆแบบผม ก็มีแรงฮึดตามหาฝันของตัวเองต่อทันที
ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนวัย 30 ที่ยังรอความสำเร็จในชีวิตอยู่นะครับ
Jessica Chastain ไอดอล ของคนวัย 30 ที่ยังตามหาความสำเร็จและตามหาความฝันของตัวเองอยู่.
ที่ Big Break ครั้งแรกในชีวิตการทำงานจะมาถึงเมื่ออายุเข้าวัย 30 ไปแล้ว
และใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี ในการกล่าวสู่ถนนของ A List Actor ได้.
ปัจจุบันปี 2019 นี้ เธออายุ 42 ปี แล้วนะครับ
ครั้งแรกที่ผมรู้จักเธอ. คือจาก Interstella ในปี 2014
As Murph : Interstella (2014)
ตอนนั้น ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าใคร คือ คริสโตเฟอร์ โนแลน หรือ เจสสิก้า เชสเทน
(เผอิญผมไม่ใช่แฟน Inception เท่าไหร่ดูแล้วจะหลับ ล้ำลึกเกิน 555)
ในใจตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า แมทธิว แมคคอนนาเฮย์ กับ แอน แฮทอะเวย์ โดนจับมาเล่นหนัง Space Sci fi ด้วยกัน ยังไงกูก็พลาดไม่ได้
สรุปแล้ว กว่ารู้ตัวอีกทีหนึ่ง
ผมก็ดู Interstella ในโรง แบบ IMAX ไป 6 รอบ แล้ว แบบ งงๆ.
เหตุผลเดียวเลย เพราะอินกับ Murph มาก.
ลืมหน้า แมททิว และ แอน ไปหมดสิ้น.
ทุกฉากที่ Murph น้ำตาไหล.
ผมจะร้องไห้ตามด้วยตลอด
และผมก็ตกหลุกรักกับผู้หญิงคนนี้ทันที ตั้งแต่ตอนนั้น ทั้งๆยังไม่เคยรู้จักชื่อเธอมาก่อนด้วยซ้ำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอได้มาอ่านประวัติของเธอ ถึงเพิ่งรู้ว่า Big Break ของเธอ
คือการได้เข้าชิง Best Supporting Role จากเรื่อง The Help (2011)
(ซึ่งตอนนั้นเธออายุ 34 ปี)
ซึ่งก่อนหน้านั้น เธอก็ล้มลุกคลุกคลานมา 6-7 ปี ตั้งแต่ปี 2004 ถึง ต้นปี 2011 (ซึ่งเอาจริงๆ ก็ถือว่าใช้เวลาไม่นานเลย สำหรับ Actor Struggle Year ในโลกของความเป็นจริง)
งานแสดงของ Jessica ก่อนที่Big Break แรกจะมาถึง
(ส่วนใหญ่จะเป็นงานแสดงทีวี ทั้งนั้นด้วย)
As Celia Foote : The Help (2011)
และแปลกมากๆที่รู้ว่ามี เจสสิก้าเล่นเรื่อง The Help ด้วย
เพราะตอนผมดู The Help ผมแทบไม่รู้สึกถึงการแสดงของใครที่เตะตามากไปกว่า Viola Davis เลย
(ก็แน่ล่ะ แม่เล่นฟาด Best Actress ไปเลยจากเวทีเดียวกัน)
ทิ้งเวลาไม่นาน ปีต่อมา 2012 เธอก็เข้าชิง Oscar ต่อเลย สาขา Best Actress in a Leading Role จาก Zero Dark Thirty
As Maya : Zero Dark Thirty (2012)
เรื่องนี้ผมยังไม่ได้ดู เผอิญเห็นเป็นหนังสงคราม ต้องใช้สมาธิเยอะหน่อย เลยกะว่ารอมีเวลาแล้วจะดูสักที
ถึงช่วงปีหลังๆนี้ เธอมีหนังหลายเรื่องเลย ที่ออกมาพังมากกว่าปัง. (X Men Dark Phoenix,
แต่ผมก็ยังรอวันที่เธอจะได้ออสการ์มาครองสักตัวอยู่
ปี 2018 ที่ผ่านมา ก็มีหนังกล่องน้ำดีอย่าง Molly's Game ที่รับบทนำเต็มตัว 100%
และคะแนนวิจารณ์ และ Audiance ดีมากๆ (แต่ออสการ์เมินซะงั้น)
ดูชีวิตของเธอทีไร คนวัย สามสิบกว่าๆแบบผม ก็มีแรงฮึดตามหาฝันของตัวเองต่อทันที
ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนวัย 30 ที่ยังรอความสำเร็จในชีวิตอยู่นะครับ