ผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมาได้ ครบ 2 เดือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ขอ Copy จาก status ที่เล่าไว้ใน Facebook นะคะ
ยาวหน่อยนะคะ เพืออรรถรส เปิดเพลงของ Maluma ปรากรอบเป็น soundtrack ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/watch?v=t_jHrUE5IOk
ประเทศอันดอร่าอยู่ไหนหรือ นี่คือคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนได้ยินครั้งแรกเมื่อ 5 เดือนที่แล้วตอนที่เที่ยวอยู่ที่ Barcelona กลับมากรุงเทพก็ได้ยินจากเพื่อนคนไทย ปลายปีมีเพื่อนจากอเมริกามาเยี่ยมก็ได้ยินอีก
เห้ยยย อันดอร่านี่เห็นทีไม่ไปไม่ได้แล้วมั้ง
ด้วยความที่เป็นประเทศเล็กๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน
กับชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยวว่าเป็นแหล่งสกี เป็นเมืองปลอดภาษี “ห๊ะอะไรนะ สายช๊อบของถูกรายได้กลางๆ รสนี้ยมของแพง ฟังแล้วก็ตาลุกวาว ช๊อปช่วยชาติ(อื่น) เราถนัด
แล้วที่ทำให้รู้สึกว่าเห้ย ต้องไป คือ ประเทศนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสุงระดับโลก และเมือง Andorra La Vella ก็เป็นเมืองปลอดภัยตัวท็อปของยุโรป ว่ากันว่า อาชญกรรมคือ 0 เห้ยยจริงงะ ในฐานะผู้หลงไหลในวัฒนะรรมและภาษาสเปนก็อดไม่ได้ที่ต้องใส่ไว้ในwish list ถ้าได้ไป Barcelona ต้องแวะไปเชคอินที่นี่ให้ได้เลย
และครั้งนี้ควรเป็นทริปสุดพิเศษหลังจากได้ตั๋วโปรมาหลายเดือน วันที่ 12 เมษาเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ก็ออจากสุวรรณภูมิ ไปเปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่ง ถึงเอเธนส์วันที่ 13 เมษาเช้า ได้อยู่ช๊อป เที่ยว ชิม เอเธนส์ 1 วัน 1 คืน
วันรุ่งขึ้นก็บินไป Santorini เกาะในฝันซึ่งเป็นจุดหมายหลักของการเดินทางครั้งนี้ พักที่ นี่ 2 คืน
ทั้ง Athens และ Santorini พักกับ Host จาก CouchSurfing นะคะ ซึ่งเป็นโชคดีที่ลองพักได้คนดีๆ เป็นสุภาพบุรุษ ยกห้องนอนให้ กรนได้อย่างสบายใจไทยแลนด์
เช้าวันอังคารที่ 17 ก็บินจากเกาะซานโตรินี่ไปลง Barcelona ถึงก็เที่ยงๆ ลากกระเป๋าไปขึ้นรถ bus ที่ขนส่งสายเหนือ Estacion Nord นะคะไม่ใช่หมอชิต
ซื้อตั๋วจาก Alsa มาไปกลับในราคา 38 ยูโร (ถูกมากขาไป 30 ยู ขากลับ 5 ยูเหมือนได้ตั๋วกลับฟรีค่ะพี่ขา)
รถออกบ่าย 3 ถึง Andorra La Vella ก็ 18.15 น เพลิดเพลินกับวิวฟรี 2 ข้างทางไม่หลับไม่นอน ไปถึงเชคอินโรงแรมเสร็จก็ออกไปสำรวจตลาด Zara เอย Pull and Bear Kiko กระจายรายได้ให้บ้านเมืองเขาเบาๆ สนับสนุนเศรษฐกิจชีวิตดิ๊ดี
เมืองสวยงวาม เล็กๆ เดินง่าย คนเลี้ยงหมาเยอะมาก พวก Afghan Hound สวยๆ เดินเชิ่ดๆ คือแบบเมืองนี้คุณภาพชีวิตคนดีอะ
3ทุ่มกว่าเริ่มหิวก็ไปกินอาหารเย็นที่ El Cachirulo หอกทากก็ดี หมึกก็ดี ไวน์ก็ดิ๊ดี (ไม่ได้ได้อย่างไร แก้วละ 80 บาท)
จ่ายตังค์เดินออกจากร้าน ถ่ายรูปคนในร้านโบกมือให้ ได้ใจเข้าไปอิ๊กคนที่นี่ Friendly กับสาวเอเชียตัวเล็กๆ(แต่พุงไม่เล็ก) รู้สึกหลงรักบ้านนี้เมืองนี้จัง 4-5 ทุ่มเดินกลับโรงแรม คือรู้สึกโคตรปลอดภัย คนยังเดินจูงหมาเดินเป็นระยะๆ เราก็เพลิน
หลับฝันดีมากโรงแรมเล็กๆ แต่เครื่องนอนยังกะ โรงแรมแชน 5 ดาว คืนละ 38 ยโร ได้อัพเกรดห้องอีกเป็นdouble bed ชั้นบนสุด (แลกมาด้วยการยกกระเป๋า 23 โลขึ้นบันไดเอง) มีของฝากเจ้าของโรงแรมเป็น Lobo ทำต้มยำกุ้ง เขียนโน๊ตไว้ให้ตอนเชค เอาท์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นอกโรงแรมตอนไปถึงค่ะ ไม่มี reception นะคะมี password ประตูกดเข้าไปได้เลย กุญแจกอยู่ในห้อง
เช้าวันที่ 17 เมษาเดินเล่นรอบๆ โรงแรมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ Casa de la vella , Mobili, de Miquel Barcelo จนไปถึง La Noblesse du Temps ที่เป็น landmark ของเมือง เมื่อวานแวะมาถ่ายรูป 2 ครั้งตอนมาถึงกับหลังกินข้าว
ถ่ายกับป้ายนี้แหละ ชาวโซเชี่ยลทางบ้านจะได้รู้ว่ามาถึง (จริงๆ ก็ถ่ายอัพ ถ่ายอัพทุกคืน เพราะเดินทางคนเดียวอยากให้เพื่อนๆกับที่บ้านรู้ว่าเราอยู่ไหนทำอะไรอยู่)
เช้านี้คนน้อย ไมีมีนักท่องเที่ยวเลย หาใครช่วยถ่ายรูปดี สายตาก็เหลือบไปเห็นหนุ่มน้อยหน้ามนต์อมยิ้มยืนถือจักรยารสีไม่แดงแต่ดูแพงอยู่ ฮั่นแหน่ eye contact แล้วน้องไม่รอดพี่แล้ว รีบพุ่งไปหาน้อง una foto por favor กรุณาถ่ายรูปให้ชั้นสักรูปนะน้องนะ หนุ่มน้อยพยักหน้าแล้วก้รัว espanol ใส่อะไรไม่รู้เรื่อง เราเอากระเป๋าจับฉลากปีใหม่office ที่ได้มาวางไว้ที่พื้นข้างๆจักรยานน้อง
แล้วให้น้องถ่ายรูปให้คนบ้ากล้อง Gracias Gracias กับไปน้องพ่นไรใส่ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องเลยเดินไปถ่ายรูปที่ป้าย Andorra La Vella คือที่เที่ยวเค้าเยอะแหละแต่ไมไ่ด้เช่ารถ
Selfie เสร็จยกกล้องลง อ้าวเห้ยยย น้องตามเรามา เยย ใจดีอะ คือเดินตามมาถ่ายรูปให้อย่างงี้ก็ได้เหรอ คนที่นี้น้ำใจงามกับเฉพาะคนสวยรึเปล่า (ยังคิดเข้าข้างตัวเอง อิ๊กกก)
แล้วน้องก้เปิดฉากคุยสเปน + ภาษามือ น้องชี้ไปทางCaldea ฺBonita Andorra Mire Quiere ประมาณวานตรงนีนนน มีจุดชมวิวสวยมากๆเห็นทั้งเมืองเลยอยากไปดูมั้ยเหมาะกับการถ่ายรูป
นี่เลยมองเวลาประมาณ 9.30 น อิ่มมมก็ได้นะ แต่ว่าชั้นต้องไปรร เอากระเป๋าเพราะ 11 โมงต้องขึ้นรถกลับBarcelona
น้องบอกว่าไม่ไกลเลยเดิน 5 นาทีถึง เดี่ยวเอาจักรยานไปจอดก่อน (ตลกนะ ฟังไม่รู้เลยว่าพุดอะไรบ้างแต่เข้าใจที่สื่อสาร)
จริงๆ ไม่ได้อยากไปมาก แต่เห็นชี้ไปทางspa ที่เป็นโดมสูงๆ เออยังไม่ได้ถ่ายรูปตรงนั้นเลยไปก็ได้ เพื่อไม่ให้เจ้าบ้านรู้สึกเสียน้ำใจ ก็ไม่อยากปฎิเสษทั้งๆ ที่ตอนนั้นใจอยุ่ที่ประตูหห้างแล้วกะว่าช๊อปก่อนกลับ(ถึงได้ถือกระเป๋าจับฉลากบริษัทมา เพราะว่าจะเอาไว้ใส่ของ )
น้องพาเดินไปสักลอดใต้สะพานพักสวนทางกับเด็กผู้ชาย 3 คนที่วิ่งสวนมา เหมือนจะมีการทักกัน เรายังคิดสงสัยน้องอาจเป็นนักวิ่ง ไม่นึกเลยจ้าว่าจะเป็น "วิ่งราว"
คือเด้กผู้ชาย ผอมๆ ขายาวๆ จูงจักรยานมา มีเพื่อนทัก เราก็ถามนะว่า hoy hay no trabajar o estudiar? วันนี้น้องไม่ทำงานหรือเรียนอะไรใช่มั้ย น้องบอกว่า Manana พรุ่งนี้อะไรสักอย่างฟังไม่ออก
เดินไปขึ่น lift เรายังถามว่าให้รอตรงนี้ใช่มั้ย เปล่าน้องบอกว่า conmigo ทั้งคนทั้งจักรยานขึ้นlife ไป อ่อข้างบนมีrooftop มีที่จอดจักรยาน เกร๋เข้าไปอิ๊กกกก
จอดเสร็จน้องก็พาเดิน ระหว่างทางก็ชวนน้องกินน้ำ ถามน้องชื่ออะไรน้องบอกว่า Alberto ถามว่ามีพี่น้องมั้ย มัน เอ้ยยน้องบอกว่ามีพี่ชาย 1 คนโตกว่า เราก็บอกว่ามีน้องสาวมาคราวหน้าอยากพาน้องสาวมาจัง พี่น้องพากันช๊อบล้มละลายแน่
เกินขึ้นเินเราก็บอกว่า todos casa bonita บ้านแถวนี้สวยไทั้งนั้นเลยอะ
เห้ยยย ยังไม่ถึงอีกเหรอวะ น้องตอบ 5 minute นี่บอกว่า 5 นาทีหลายรอบและ muy cansada แล้วนะ น้องบอกอีก 2 นาทีอิอ้วน (น้องไม่ได้พูดอันนี้คิดเอง)
เดินไปเห็นผู้หยิง 2 คนกับหมา 3 ตัว ยืนคุยกัน (ในรูปนี้คือตรงที่รถสีดำจอดอยู่ค่ะ) ที่คุยกันคือคนนะคะ ไม่ใช่หมา นี่ไม่รู้นึกไง hola ใส่ คือกลัวว่าเดินไปเกิดโดนหลอกฆ่าจะได้มีพยาน ฝรั่งเดินกับเอเชียอ้วนๆ กระโปรงสีนีออนสีเขียวขนาดนี้คนจำได้แน่นอน
เบรคเอี้ยดเกือบไม่ทัน เพราะจากนั้นเห็นทางเดิน เห้ยย ไม่ใช่ถนน แถมมีป้ายเล้กๆและกากบาทสีแดง มองดูเวลาก้10โมงแล้วควรรีบไปเอากระเป๋าาที่ดรงแรมไม่ต้องชงต้องชีอปกันแระ มองไปตรงกลางรูปนี้จะมีเสาเล็กๆอยู่เสานี้แหละมีป้ากับ X สีแดง
เลยบอกน้องว่า เข้าได้จริงเหรอ น้องบอกมาเลยๆ แต่ขาเราไม่ขยับแล้วมันมีคนแล้วไม่ใช่ถนน เลยบอกว่าhay no tiempo ไม่มีเวลาแล้วเดี่ยวตกรถ กลับแล้วดีกว่า
น้องส่ายหัวแล้วถอนหายใจ คือเรารู้สึกแย่แหละว่ามาถึงนี้แล้วจะหันหลังกลับจริงๆเหรอ แต่มันรู้สึกไม่ปลอดภัยกับกลัวกลับไปรร ขึ้นรถไม่ทันเลยคิดว่ากลับดีกว่า
ความเหี้ยมก็เริ่มเปิดเผย ณ จุดนี้
เดินไปสักพัก น้องบอกว่าไปทางนี้มั้ย จอดรถไว้ บอตงไม่เชื่อว่าจะมีรถแล้วจะมาจอดอะไรบนนี้อะ
สักพักเอามือมาจับกดไม่ได้แตะ แต่เป็นการลุกก้นขึ้นหรือลงจะไมไ่ด้ ตกใจมาก เห้ยยทำอะไรอะบอกไปว่า No เข้าใจว่าจบ
สักพักเดินมาขวางแล้วจับหน้าอกพุดไร un poco ขอนิดเดียวแล้วมือปลาหมึกเลยจับก้นด้วย
นี่ไม่โอเคแล้วบอกว่า No punto หยุดเดี่ยวนี้ ณเดชมาริโอ้ยังไม่เคยทำอะไรบัดสีกับชั้นแบบนี้เป็นใครน้อง
แต่ยังประคองสติไมไ่ด้โวยวาย ไม่วื่งเดี่ยวมันรู้ว่าเรากลัว
มันก็ Vale Vale เหมือนจะเข้าใจ
สักพักเอาอีก" Quiero sexo contigo"
เลยบอกว่า No มันถาม Por Que
นี่เลยตอบว่า Hay no tiempo y soy abuelita estoy 37 anos y tu ? (ขอโทษอาจารย์จำถามอายุไมไ่ดเลยบอกอายุตัวเองแล้วถามว่าเธอละ่ ป้าอะ 37แล้วนะลูก)
น้องบอกว่า 23 แล้วก็ถามต่อ tiene Nuvio ? พี่สาวมีแฟนมั้ยครับ นี่ตอบไม่ ระหว่างนเราก็ถามต่อนะแล้วน้องละมีแฟนมั้ย y tu hay nuvia? น้องบอกว่า ไม่
คือไม่อยากให้เป็น dead air เนอะ มันรู้สึกไม่โอเค แล้วอีเด็กแปรต ยังถามอีกทำไมอะไรบลาบลา นี่ไม่ตอบแล้ว อยากเดินกลับเร็วๆ
แล้วก็มีการบอกว่าให้เลี้ยวทางนี้เร็วกว่า
แต่แบบมันไม่ใช่ทางเดิมและ direction ก็ไปอีกทางจะไปเร็วกว่าได้ไง รร ไปทางนึงจะบอกให้ลงเขาอีกทางได้ไง
นี่เริ่มรู้สึกแล้วว่าแปลก แต่ก็ยังคิด น้องหลอกพี่ไมไ่ด้หรอก
แล้วเสี้ยววินาทีที่เดิน
ก็รู้สึกถึงแรงกระตุกที่แขน shit อิhere เป๋ากรู นี่ตระโกนบอกมัน por favor mi passport ขอพาสปอรต์เถอะ ไม่ทันแล้วมันใส่เกียร์4 วิ่งไปแล้ว
เลยรวบรวมสติ วิ่งไปที่ถนนให้รถหยุด นาทีนั้นยอมโดนรถชนแต่จะไม่ยอมเสีย passport
จนมีรถตู้นันนึงหยุดเลยรีบเปิดประตูด้านหลัง
เห้ยย ขึ้นไม่ได้ เป็นรถบ้านพักคนชราหรือไง คนแก่เต็มรถ เลยไปอธิบายคนขับผู้ชายกับผู้หญิงข้างหน้าว่าโดนกระชากกระเป๋า
ผู้หญิงบอกว่า Tranquila ใจเย็นๆนะโยม
นี่ก็แบบเร้วๆ ทางนั้นๆ เสื้อฟ้าๆ
แล้ว เรา 3 คนก็เห็นมัน เรายืนรอ รูถตู้ที่บรรทุกคุณยายมาเต็มคันเร่งเครื่องตามเด้กเวรไป
ยืนดง่อยุ่นาน รถตู้ขับกลับมาพร้อมข่าวร้าย ว่าตามไม่ทัน มันวิางลงเขาไปหรือไงจะเรียกตำรวจให้ แล้วก็อยุ่เป็นเพื่อนจนตำรวจมา
ตำรวจก็ถามต่อพาดูทาง ไปจบที่การให้ปากคำที่โรงพัก
จากข้อมูลชื่อ Alberto อายุ 23 มีพี่ชายแก่กว่า 1 คน ไปถึงสถานนีตำรวจ ก็เจอprofile รุปปละlink ครอบครัวพร้อมจ้า
ตอนนั้นก้ดีใจมากคิดว่า เสร็จแน่ๆ เดี่ยวแจกัน จะเบิร์ดกระโหลกให้
สรุปตำรวจลงreport แล้วไปส่งโรงแรม
ถึงโรงแรมก็ติดต่อเจ้าของโรงแรม ขอยืมเงิน 50 ยูโร เจ้าของรร มีเลขบัตรเครดิตอยุ่เลย chargeได้
เขียนเมล์หาน้องสาวให้ติดต่อสถานฑูต และอายัดบัตร 3 ใบ
เจาของรร ช่วยซื้อตั๋วรถbus กลับ Barcelona ให้ แล้วจัดแจงพาไปส่งทันขึ้นรถรอบบ่าย 3
ที่โรงแรมก็ร้องไห้ เพราะไม่รู้จะทำอะไรยังไงต่อ
อ ย่ า ไ ป A N D O R R A จากความประมาทสู่บทเรียนราคาแพง
ขอ Copy จาก status ที่เล่าไว้ใน Facebook นะคะ
ยาวหน่อยนะคะ เพืออรรถรส เปิดเพลงของ Maluma ปรากรอบเป็น soundtrack ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประเทศอันดอร่าอยู่ไหนหรือ นี่คือคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนได้ยินครั้งแรกเมื่อ 5 เดือนที่แล้วตอนที่เที่ยวอยู่ที่ Barcelona กลับมากรุงเทพก็ได้ยินจากเพื่อนคนไทย ปลายปีมีเพื่อนจากอเมริกามาเยี่ยมก็ได้ยินอีก
เห้ยยย อันดอร่านี่เห็นทีไม่ไปไม่ได้แล้วมั้ง
ด้วยความที่เป็นประเทศเล็กๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน
กับชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยวว่าเป็นแหล่งสกี เป็นเมืองปลอดภาษี “ห๊ะอะไรนะ สายช๊อบของถูกรายได้กลางๆ รสนี้ยมของแพง ฟังแล้วก็ตาลุกวาว ช๊อปช่วยชาติ(อื่น) เราถนัด
แล้วที่ทำให้รู้สึกว่าเห้ย ต้องไป คือ ประเทศนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสุงระดับโลก และเมือง Andorra La Vella ก็เป็นเมืองปลอดภัยตัวท็อปของยุโรป ว่ากันว่า อาชญกรรมคือ 0 เห้ยยจริงงะ ในฐานะผู้หลงไหลในวัฒนะรรมและภาษาสเปนก็อดไม่ได้ที่ต้องใส่ไว้ในwish list ถ้าได้ไป Barcelona ต้องแวะไปเชคอินที่นี่ให้ได้เลย
และครั้งนี้ควรเป็นทริปสุดพิเศษหลังจากได้ตั๋วโปรมาหลายเดือน วันที่ 12 เมษาเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ก็ออจากสุวรรณภูมิ ไปเปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่ง ถึงเอเธนส์วันที่ 13 เมษาเช้า ได้อยู่ช๊อป เที่ยว ชิม เอเธนส์ 1 วัน 1 คืน
วันรุ่งขึ้นก็บินไป Santorini เกาะในฝันซึ่งเป็นจุดหมายหลักของการเดินทางครั้งนี้ พักที่ นี่ 2 คืน
ทั้ง Athens และ Santorini พักกับ Host จาก CouchSurfing นะคะ ซึ่งเป็นโชคดีที่ลองพักได้คนดีๆ เป็นสุภาพบุรุษ ยกห้องนอนให้ กรนได้อย่างสบายใจไทยแลนด์
เช้าวันอังคารที่ 17 ก็บินจากเกาะซานโตรินี่ไปลง Barcelona ถึงก็เที่ยงๆ ลากกระเป๋าไปขึ้นรถ bus ที่ขนส่งสายเหนือ Estacion Nord นะคะไม่ใช่หมอชิต
ซื้อตั๋วจาก Alsa มาไปกลับในราคา 38 ยูโร (ถูกมากขาไป 30 ยู ขากลับ 5 ยูเหมือนได้ตั๋วกลับฟรีค่ะพี่ขา)
รถออกบ่าย 3 ถึง Andorra La Vella ก็ 18.15 น เพลิดเพลินกับวิวฟรี 2 ข้างทางไม่หลับไม่นอน ไปถึงเชคอินโรงแรมเสร็จก็ออกไปสำรวจตลาด Zara เอย Pull and Bear Kiko กระจายรายได้ให้บ้านเมืองเขาเบาๆ สนับสนุนเศรษฐกิจชีวิตดิ๊ดี
เมืองสวยงวาม เล็กๆ เดินง่าย คนเลี้ยงหมาเยอะมาก พวก Afghan Hound สวยๆ เดินเชิ่ดๆ คือแบบเมืองนี้คุณภาพชีวิตคนดีอะ
3ทุ่มกว่าเริ่มหิวก็ไปกินอาหารเย็นที่ El Cachirulo หอกทากก็ดี หมึกก็ดี ไวน์ก็ดิ๊ดี (ไม่ได้ได้อย่างไร แก้วละ 80 บาท)
จ่ายตังค์เดินออกจากร้าน ถ่ายรูปคนในร้านโบกมือให้ ได้ใจเข้าไปอิ๊กคนที่นี่ Friendly กับสาวเอเชียตัวเล็กๆ(แต่พุงไม่เล็ก) รู้สึกหลงรักบ้านนี้เมืองนี้จัง 4-5 ทุ่มเดินกลับโรงแรม คือรู้สึกโคตรปลอดภัย คนยังเดินจูงหมาเดินเป็นระยะๆ เราก็เพลิน
หลับฝันดีมากโรงแรมเล็กๆ แต่เครื่องนอนยังกะ โรงแรมแชน 5 ดาว คืนละ 38 ยโร ได้อัพเกรดห้องอีกเป็นdouble bed ชั้นบนสุด (แลกมาด้วยการยกกระเป๋า 23 โลขึ้นบันไดเอง) มีของฝากเจ้าของโรงแรมเป็น Lobo ทำต้มยำกุ้ง เขียนโน๊ตไว้ให้ตอนเชค เอาท์
เช้าวันที่ 17 เมษาเดินเล่นรอบๆ โรงแรมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ Casa de la vella , Mobili, de Miquel Barcelo จนไปถึง La Noblesse du Temps ที่เป็น landmark ของเมือง เมื่อวานแวะมาถ่ายรูป 2 ครั้งตอนมาถึงกับหลังกินข้าว
เช้านี้คนน้อย ไมีมีนักท่องเที่ยวเลย หาใครช่วยถ่ายรูปดี สายตาก็เหลือบไปเห็นหนุ่มน้อยหน้ามนต์อมยิ้มยืนถือจักรยารสีไม่แดงแต่ดูแพงอยู่ ฮั่นแหน่ eye contact แล้วน้องไม่รอดพี่แล้ว รีบพุ่งไปหาน้อง una foto por favor กรุณาถ่ายรูปให้ชั้นสักรูปนะน้องนะ หนุ่มน้อยพยักหน้าแล้วก้รัว espanol ใส่อะไรไม่รู้เรื่อง เราเอากระเป๋าจับฉลากปีใหม่office ที่ได้มาวางไว้ที่พื้นข้างๆจักรยานน้อง
แล้วให้น้องถ่ายรูปให้คนบ้ากล้อง Gracias Gracias กับไปน้องพ่นไรใส่ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องเลยเดินไปถ่ายรูปที่ป้าย Andorra La Vella คือที่เที่ยวเค้าเยอะแหละแต่ไมไ่ด้เช่ารถ
Selfie เสร็จยกกล้องลง อ้าวเห้ยยย น้องตามเรามา เยย ใจดีอะ คือเดินตามมาถ่ายรูปให้อย่างงี้ก็ได้เหรอ คนที่นี้น้ำใจงามกับเฉพาะคนสวยรึเปล่า (ยังคิดเข้าข้างตัวเอง อิ๊กกก)
แล้วน้องก้เปิดฉากคุยสเปน + ภาษามือ น้องชี้ไปทางCaldea ฺBonita Andorra Mire Quiere ประมาณวานตรงนีนนน มีจุดชมวิวสวยมากๆเห็นทั้งเมืองเลยอยากไปดูมั้ยเหมาะกับการถ่ายรูป
นี่เลยมองเวลาประมาณ 9.30 น อิ่มมมก็ได้นะ แต่ว่าชั้นต้องไปรร เอากระเป๋าเพราะ 11 โมงต้องขึ้นรถกลับBarcelona
น้องบอกว่าไม่ไกลเลยเดิน 5 นาทีถึง เดี่ยวเอาจักรยานไปจอดก่อน (ตลกนะ ฟังไม่รู้เลยว่าพุดอะไรบ้างแต่เข้าใจที่สื่อสาร)
จริงๆ ไม่ได้อยากไปมาก แต่เห็นชี้ไปทางspa ที่เป็นโดมสูงๆ เออยังไม่ได้ถ่ายรูปตรงนั้นเลยไปก็ได้ เพื่อไม่ให้เจ้าบ้านรู้สึกเสียน้ำใจ ก็ไม่อยากปฎิเสษทั้งๆ ที่ตอนนั้นใจอยุ่ที่ประตูหห้างแล้วกะว่าช๊อปก่อนกลับ(ถึงได้ถือกระเป๋าจับฉลากบริษัทมา เพราะว่าจะเอาไว้ใส่ของ )
น้องพาเดินไปสักลอดใต้สะพานพักสวนทางกับเด็กผู้ชาย 3 คนที่วิ่งสวนมา เหมือนจะมีการทักกัน เรายังคิดสงสัยน้องอาจเป็นนักวิ่ง ไม่นึกเลยจ้าว่าจะเป็น "วิ่งราว"
คือเด้กผู้ชาย ผอมๆ ขายาวๆ จูงจักรยานมา มีเพื่อนทัก เราก็ถามนะว่า hoy hay no trabajar o estudiar? วันนี้น้องไม่ทำงานหรือเรียนอะไรใช่มั้ย น้องบอกว่า Manana พรุ่งนี้อะไรสักอย่างฟังไม่ออก
เดินไปขึ่น lift เรายังถามว่าให้รอตรงนี้ใช่มั้ย เปล่าน้องบอกว่า conmigo ทั้งคนทั้งจักรยานขึ้นlife ไป อ่อข้างบนมีrooftop มีที่จอดจักรยาน เกร๋เข้าไปอิ๊กกกก
จอดเสร็จน้องก็พาเดิน ระหว่างทางก็ชวนน้องกินน้ำ ถามน้องชื่ออะไรน้องบอกว่า Alberto ถามว่ามีพี่น้องมั้ย มัน เอ้ยยน้องบอกว่ามีพี่ชาย 1 คนโตกว่า เราก็บอกว่ามีน้องสาวมาคราวหน้าอยากพาน้องสาวมาจัง พี่น้องพากันช๊อบล้มละลายแน่
เกินขึ้นเินเราก็บอกว่า todos casa bonita บ้านแถวนี้สวยไทั้งนั้นเลยอะ
เห้ยยย ยังไม่ถึงอีกเหรอวะ น้องตอบ 5 minute นี่บอกว่า 5 นาทีหลายรอบและ muy cansada แล้วนะ น้องบอกอีก 2 นาทีอิอ้วน (น้องไม่ได้พูดอันนี้คิดเอง)
เดินไปเห็นผู้หยิง 2 คนกับหมา 3 ตัว ยืนคุยกัน (ในรูปนี้คือตรงที่รถสีดำจอดอยู่ค่ะ) ที่คุยกันคือคนนะคะ ไม่ใช่หมา นี่ไม่รู้นึกไง hola ใส่ คือกลัวว่าเดินไปเกิดโดนหลอกฆ่าจะได้มีพยาน ฝรั่งเดินกับเอเชียอ้วนๆ กระโปรงสีนีออนสีเขียวขนาดนี้คนจำได้แน่นอน
เบรคเอี้ยดเกือบไม่ทัน เพราะจากนั้นเห็นทางเดิน เห้ยย ไม่ใช่ถนน แถมมีป้ายเล้กๆและกากบาทสีแดง มองดูเวลาก้10โมงแล้วควรรีบไปเอากระเป๋าาที่ดรงแรมไม่ต้องชงต้องชีอปกันแระ มองไปตรงกลางรูปนี้จะมีเสาเล็กๆอยู่เสานี้แหละมีป้ากับ X สีแดง
เลยบอกน้องว่า เข้าได้จริงเหรอ น้องบอกมาเลยๆ แต่ขาเราไม่ขยับแล้วมันมีคนแล้วไม่ใช่ถนน เลยบอกว่าhay no tiempo ไม่มีเวลาแล้วเดี่ยวตกรถ กลับแล้วดีกว่า
น้องส่ายหัวแล้วถอนหายใจ คือเรารู้สึกแย่แหละว่ามาถึงนี้แล้วจะหันหลังกลับจริงๆเหรอ แต่มันรู้สึกไม่ปลอดภัยกับกลัวกลับไปรร ขึ้นรถไม่ทันเลยคิดว่ากลับดีกว่า
ความเหี้ยมก็เริ่มเปิดเผย ณ จุดนี้
เดินไปสักพัก น้องบอกว่าไปทางนี้มั้ย จอดรถไว้ บอตงไม่เชื่อว่าจะมีรถแล้วจะมาจอดอะไรบนนี้อะ
สักพักเอามือมาจับกดไม่ได้แตะ แต่เป็นการลุกก้นขึ้นหรือลงจะไมไ่ด้ ตกใจมาก เห้ยยทำอะไรอะบอกไปว่า No เข้าใจว่าจบ
สักพักเดินมาขวางแล้วจับหน้าอกพุดไร un poco ขอนิดเดียวแล้วมือปลาหมึกเลยจับก้นด้วย
นี่ไม่โอเคแล้วบอกว่า No punto หยุดเดี่ยวนี้ ณเดชมาริโอ้ยังไม่เคยทำอะไรบัดสีกับชั้นแบบนี้เป็นใครน้อง
แต่ยังประคองสติไมไ่ด้โวยวาย ไม่วื่งเดี่ยวมันรู้ว่าเรากลัว
มันก็ Vale Vale เหมือนจะเข้าใจ
สักพักเอาอีก" Quiero sexo contigo"
เลยบอกว่า No มันถาม Por Que
นี่เลยตอบว่า Hay no tiempo y soy abuelita estoy 37 anos y tu ? (ขอโทษอาจารย์จำถามอายุไมไ่ดเลยบอกอายุตัวเองแล้วถามว่าเธอละ่ ป้าอะ 37แล้วนะลูก)
น้องบอกว่า 23 แล้วก็ถามต่อ tiene Nuvio ? พี่สาวมีแฟนมั้ยครับ นี่ตอบไม่ ระหว่างนเราก็ถามต่อนะแล้วน้องละมีแฟนมั้ย y tu hay nuvia? น้องบอกว่า ไม่
คือไม่อยากให้เป็น dead air เนอะ มันรู้สึกไม่โอเค แล้วอีเด็กแปรต ยังถามอีกทำไมอะไรบลาบลา นี่ไม่ตอบแล้ว อยากเดินกลับเร็วๆ
แล้วก็มีการบอกว่าให้เลี้ยวทางนี้เร็วกว่า
แต่แบบมันไม่ใช่ทางเดิมและ direction ก็ไปอีกทางจะไปเร็วกว่าได้ไง รร ไปทางนึงจะบอกให้ลงเขาอีกทางได้ไง
นี่เริ่มรู้สึกแล้วว่าแปลก แต่ก็ยังคิด น้องหลอกพี่ไมไ่ด้หรอก
แล้วเสี้ยววินาทีที่เดิน
ก็รู้สึกถึงแรงกระตุกที่แขน shit อิhere เป๋ากรู นี่ตระโกนบอกมัน por favor mi passport ขอพาสปอรต์เถอะ ไม่ทันแล้วมันใส่เกียร์4 วิ่งไปแล้ว
เลยรวบรวมสติ วิ่งไปที่ถนนให้รถหยุด นาทีนั้นยอมโดนรถชนแต่จะไม่ยอมเสีย passport
จนมีรถตู้นันนึงหยุดเลยรีบเปิดประตูด้านหลัง
เห้ยย ขึ้นไม่ได้ เป็นรถบ้านพักคนชราหรือไง คนแก่เต็มรถ เลยไปอธิบายคนขับผู้ชายกับผู้หญิงข้างหน้าว่าโดนกระชากกระเป๋า
ผู้หญิงบอกว่า Tranquila ใจเย็นๆนะโยม
นี่ก็แบบเร้วๆ ทางนั้นๆ เสื้อฟ้าๆ
แล้ว เรา 3 คนก็เห็นมัน เรายืนรอ รูถตู้ที่บรรทุกคุณยายมาเต็มคันเร่งเครื่องตามเด้กเวรไป
ยืนดง่อยุ่นาน รถตู้ขับกลับมาพร้อมข่าวร้าย ว่าตามไม่ทัน มันวิางลงเขาไปหรือไงจะเรียกตำรวจให้ แล้วก็อยุ่เป็นเพื่อนจนตำรวจมา
ตำรวจก็ถามต่อพาดูทาง ไปจบที่การให้ปากคำที่โรงพัก
จากข้อมูลชื่อ Alberto อายุ 23 มีพี่ชายแก่กว่า 1 คน ไปถึงสถานนีตำรวจ ก็เจอprofile รุปปละlink ครอบครัวพร้อมจ้า
ตอนนั้นก้ดีใจมากคิดว่า เสร็จแน่ๆ เดี่ยวแจกัน จะเบิร์ดกระโหลกให้
สรุปตำรวจลงreport แล้วไปส่งโรงแรม
ถึงโรงแรมก็ติดต่อเจ้าของโรงแรม ขอยืมเงิน 50 ยูโร เจ้าของรร มีเลขบัตรเครดิตอยุ่เลย chargeได้
เขียนเมล์หาน้องสาวให้ติดต่อสถานฑูต และอายัดบัตร 3 ใบ
เจาของรร ช่วยซื้อตั๋วรถbus กลับ Barcelona ให้ แล้วจัดแจงพาไปส่งทันขึ้นรถรอบบ่าย 3
ที่โรงแรมก็ร้องไห้ เพราะไม่รู้จะทำอะไรยังไงต่อ