แปลบทความจาก Telegraph สื่ออังกฤษ: The Blackpink Revolution: how the K-Pop girl group became a global obsession

The Blackpink Revolution: how the K-Pop girl group became a global obsession


*โดย : Eleanor Halls / 10 JUNE 2019 • 7:29AM

- Lei Tan อายุ 22 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากประเทศฟิลิปปินส์ และเป็นอีก 1 คนที่ชอบฟังเพลงของ BLACKPINK "ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ฉันกินข้าว, อาบน้ำ, เดินทางไปทำงาน, หรือไปออกกำลังกาย ไม่ว่าฉันจะทำอะไรฉันก็มักจะฟังเพลงของแบล็กพิงค์อยู่เสมอ" เธอไม่เข้าใจเนื้อเพลง - แต่เธอบอกว่าการแร็พแบบเกาหลีจะมีจังหวะที่ซับซ้อนมากกว่าจังหวะ clubhouse และมีท่อนฮุคที่น่าจดจำ - เธอมีรอยสักลิซ่าบนเอวของเธอด้วย (ตรงส่วนนี้ไม่แน่ใจว่าเขาสักรูปหรือข้อความนะคะ เขาไม่ได้ระบุ)
- Jen แฟนคลับของ Blackpink วัย 25 ปี ทำอาชีพเป็นผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นจากแคลิฟอร์เนีย เจนบอกว่าในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาเจนได้จ่ายเงิน $ 500 เพื่อซื้อตั๋ว VIP ไปดูคอนเสิร์ต Blackpink ในการทัวร์อเมริกาเหนือของพวกเขาที่รัฐนิวเจอร์ซีย์พร้อมกับจ่ายอีก 1,000 ดอลลาร์สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรม "มันมีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้น ที่ฉันจะต้องประเมินค่าอีกครั้ง” เธอกล่าว ขณะที่ Brook จากลอนดอนบอกว่า “ตอนกลางคืน ฉันมักจะนอนไม่หลับ” เว้นแต่ว่าเขาจะได้ดูคลิปวิดีโอของ BP และคลิปของ Rosé, Lisa, Jennie และ Jisoo 
- “ Blink” คนอื่นๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นชื่อเรียกแฟนด้อมที่มีอยู่ทั่วโลกของ Blackpink กล่าวว่า "คลิปวีดีโอของ BP ในช่อง Youtube ของพวกเขา มีประมาณ 73 คลิป มีทั้งคลิปการแสดง, เรียลลิตี้ คลิปสัมภาษณ์ เขาดูมันทุกวันและจะต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบ" “ ความพยายามจากแฟนๆ ที่จะสนับสนุนไอดอลของพวกเขานั้นน่าประหลาดใจมาก” เจนกล่าว “ วัฒนธรรม fandom เป็นส่วนสำคัญของ K-Pop มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม fandom จึงมีอิทธิพลและมีขนาดใหญ่มาก”
- ถึงแม้ว่าจะมีคำพูดที่ยิ่งใหญ่ที่พูดถึง BP และเคป๊อป แต่มันก็ยังมีความรู้สึกว่ามันน้อยไปที่จะอธิบายถึงกระแสเคป๊อปในปี 2019 กระแสเคป๊อปมันเริ่มมีมานานแล้ว ย้อนไปในยุค 50 ศิลปินเกาหลี วง The Kim Sister ได้ไปร้องเพลงอเมริกันให้ทหารสหรัฐฯฟังในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งพวกเขาเคยเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถสื่อถึงเอกลักษณ์ประจำชาติของเกาหลีใต้ได้ดีมานานกว่าทศวรรษ และจนถึงตอนนี้ความสำคัญของอิทธิพลของพวกเขาก็ยังคงอยู่
- ในความเป็นจริงศักยภาพทางด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของ K-Pop ได้รับการอธิบายว่าเป็นการผสมผสานระหว่างแนวตะวันตกกับป๊อป ฮิปฮอปและอิเล็คทรอนิกส์ ซึ่งในปี 2546 ประธานาธิบดี Roh Moo-hyun ได้ประกาศว่าประเทศเกาหลีใต้มุ่งหวังที่จะก้าวขึ้นไปเป็น “the world’s top five content powers”
- และในปี 2008 วงเกิร์ลกรุ๊ป Wonder Girls กลายเป็นศิลปิน K-Pop วงแรกที่นำเพลงเข้าสู่ชาร์ต Billboard Hot 100  ได้ในขณะที่ในปี 2012 Psy ศิลปินชาวเกาหลีใต้ทำลายสถิติยอดวิว YouTube ด้วยเพลง Gangnam style จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วความสำเร็จในระดับสากลของ K-Pop ก็ยังคงเดิมโดยมีวงบอยแบนด์ บีทีเอส (ซึ่งเมื่อวันจันทร์กลายเป็นกลุ่ม K-Pop กลุ่มแรกที่ได้ขึ้นพาดหัวข่าว Wembley Stadium และล่าสุด อัลบั้ม Love Yourself กลายเป็นอัลบั้ม K-Pop แรกที่ติดอันดับหนึ่งในชาร์ตอัลบั้มของสหรัฐ) ซึ่งมาคู่กับศิลปินหญิงอย่างวง Blackpink 
- BP เดบิวต์ในปี 2559 โดยมีอัลบั้ม EP Square One ซึ่งเพลง Whistle ได้ขึ้นอันดับหนึ่งในเกาหลีใต้ในขณะที่เอ็มวีเพลง Boombayah ก็ได้ทำลายสถิติเป็นมิวสิควิดีโอเดบิวต์ที่มีคนดูมากที่สุดของเกาหลี เมื่อไม่นานมานี้ยังมีเพลง DDDD ที่เป็นเพลงฮิตของพวกเขา ซึ่งพวกเขาได้ไปแสดงเพลงนี้ที่รายการ Stephen Colbert’s Late Show ในดือนกุมภาพันธ์ และไม่ใช่แค่สถิติ K-Pop เท่านั้นที่พวกทำลายได้: ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาพวกเขากลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรก ตั้งแต่ Destiny's Child ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ต iTunes ของสหรัฐอเมริกาและอีกหนึ่งเดือนต่อมาพวกเขากลายเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรก ตั้งแต่ Spice girls ที่มีรายได้จากการเล่นคอนเสิร์ตที่สหรัฐ 1 รอบมากถึง  1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ดูเหมือนว่าคำกล่าวของ Blackpink ที่ว่า "Blackpink is the revolution" มันอาจจะไม่ใช่คำที่เกินความจริง
- แฟนด้อมของ Blackpink นั้นมีตั้งแต่ที่เกาหลี ทอดยาวจากเอเชียไปยังยุโรปผ่านอเมริกา “ ฉันเห็นได้ชัดว่าแฟนๆที่สหรัฐของพวกเขาเพิ่มขึ้นเยอะมากหลังจากที่ Blackpink ได้ไปแสดงที่ Coachella ในเดือนพฤษภาคม” ชารอนพูด ชารอนเป็นคนเกาหลีอายุ 17 ปี เป็น Admin เพจแฟนคลับทวิตเตอร์ของ Blackpink ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนแปลบทความ แปลวิดีโอบทสัมภาษณ์ Instagram และ เพลงจากภาษาเกาหลีเป็นอังกฤษ “บางครั้งวิดีโออาจใช้เวลาทำหลายวัน แต่มันก็สนุก และ Blackpink ได้โปรโมทเกาหลีไปทั่วโลก ในช่วงหนึ่งของการแสดงคอนเสิร์ตในยุโรป Rosé ได้หยิบธงเกาหลีขึ้นมาแล้วสวมและวิ่งไปรอบๆเวที ในฐานะคนเกาหลีสิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิใจ” เธอกล่าว สำหรับเจนผู้ซึงไม่เข้าใจภาษาเกาหลี ไม่ใช่คนเกาหลี บอกว่าการฟังแบล็กพิงค์มันเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเลือกที่จะเปิดรับภาษา “ฉันไม่คิดว่าพวกเราชาวตะวันตกรู้สึกว่ามีคนส่วนน้อยอยู่ในกลุ่มแฟนคลับ คุณสามารถรู้สึกถึงอารมณ์ในเพลงของพวกเขาได้ รวมถึงโครงสร้างภาษาของพวกเขาด้วย - นี่คือสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพูดคุยกันอย่างแพร่หลาย”
- แต่ทำไม???? ฉันถามชารอนว่าทำไมแฟนๆ ของ K-Pop ต่างพากันคลั่งไคล้การ Stanning (คำศัพท์ที่ใช้อธิบายการอุทิศตนของแฟน ๆ อย่างสุดขีด) ในระดับที่แม้กระทั่ง Arianna Grande ก็ไม่สามารถบังคับได้? “อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้บอกว่าแฟนๆจากประเทศอื่นไม่ได้เป็นเหมือนแฟนเคป๊อป แต่แฟนๆในเกาหลีนั้นมีความ Royal สูงมาก พวกเขาใช้เวลาและเงินเป็นจำนวนมากในการทำโปรเจ็กต์สำหรับศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ” เธอกล่าว “เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาปล่อยเพลงแฟนๆ จะทำอย่างอื่นมากกว่านั้นนอกหนือจากการฟังเพลง พวกเขาจะซื้อและสตรีมเพลง” เจนกล่าวเสริม แอดมิน Blink อีกคนที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอายุ 20 ปีจากออสเตรเลียบอกกับฉันว่า Blink มักจะรวบรวมเงินกันไว้ให้กับสาวๆ Blackpink ในโอกาสพิเศษ เช่น การส่งของขวัญวันเกิดให้พวกเขา “ การทำงานอย่างหนักและความทุ่มเทของพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันเป็นฉันในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า” เธอกล่าว 
- จุดขายของ Blackpink คือ ท่าเต้นที่ประณีตของพวกเขา
- คอนเสิร์ตครั้งแรกที่ลอนดอนของพวกเขาเมื่อเดือนที่แล้วมีแฟนๆเข้าชมมากถึง 12,500 คนที่ Wembley ช่วงเวลา ณ. ที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยความเงียบเนื่องจากแฟนๆ ถูกสะกดด้วยการแสดงของพวกเขา ท่อนฮุคที่น่าดึงดูดใจพร้อมกับท่าเต้นที่เป็นจุดเด่น ซึ่งเป็นการเต้นอย่างง่าย เต้นซ้ำหลายๆครั้งตลอดทั้งเพลง แฟนๆ สามารถเรียนรู้และคัดลอกการเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย - เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้แฟนๆมีส่วนร่วมได้ สามารถก้าวข้ามอุปสรรคภาษาของเพลงได้
- ตอนนี้อิทธิพลของ Blackpink เริ่มก่อตัวขึ้นที่สถานบันเทิงยามค่ำคืนของของประเทศแถบตะวันตก ด้วยการเปิดคลับ K-POP ที่มากขึ้น กลุ่มนักเต้นในลอนดอน Louise Quan ผู้ก่อตั้งชมรม Love K-Pop Dance กล่าวว่าเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาคลาสเรียนเต้นของเธอได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในปีนี้และคลาสเรียนเต้นเเพลงของ Blackpink และ BTS ของเธอมักจะขายหมดด้วย (ถูกจองจนเต็มหมดทุกที่)“ ผู้ร่วมคลาสส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 13 ถึง 30 ปีที่มีความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ มีทั้งอังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, จีน, อิตาลี ......” เธอกล่าว “ มันบ่งบอกถึงความเป็นสากลของดนตรี K-Pop และวัฒนธรรมการเต้นโคฟเวอร์ K-Pop ”
- “ ฉันชอบอารมณ์และความพยายามที่พวกเขาใส่ลงไปในเพลง และคุณภาพในบทเพลง รวมถึงภาพลักษณ์ของพวกเขานั้นช่างน่าอัศจรรย์” ชารอนกล่าวสะท้อนถึงความรู้สึกของ Blink ทุกคน โดยส่วนใหญ่ศิลปินตะวันตกนั้นจะให้ความสำคัญกับ ฉาก, รูปแบบและการพูดคุยที่ดีต่อผู้ชมมากกว่าการแสดงที่มีการวางแผนและซ้อมมาอย่างดี มันเป็นการปฏิบัติต่อแฟนๆ ที่จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าไอดอลของพวกเขาต้องการสร้างความประทับใจให้พวกเขาจริงๆ
- ในความเป็นจริงแล้วความปรารถนาอย่างแรงกล้าของ Blackpink คือการตอบแทนผู้ชมของพวกเขา คอนเสิร์ตที่ Wembley stadium แฟนๆหลายหมื่นได้ชูแท่งไฟรูปหัวใจขึ้น และร้องเพลงฮิตของวงก่อนที่การแสดงจะเริ่มครึ่งชั่วโมง พวกเขาเปิดคลิปเพลงบน YouTube เพื่อที่จะให้แฟนๆได้ร้องเพลงและเต้นไปกับเพลงของพวกเขาบนหน้าจอขนาดใหญ่ แม้แต่ผู้คนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะร่วมสนุกได้ (อย่างนักข่าววัยกลางคนที่ดูเหมือนจะถือตนที่นั่งอยู่ด้านหลัง) ก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อนและหลงละลายไปกับเพลงของพวกเขา เจนนี่พูดกับผู้ที่มาร่วมคอนเสิร์ตอย่างไพเราะว่า ‘คุณดูดีจริงๆ! ฉันจะกลับไปศึกษาสไตล์การแต่งตัวของพวกคุณในคืนนี้" ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนจำนวนมากจะต้องมีความ royalty ต่อเพลงป๊อปมากขึ้นอย่างแน่นอน “ พวกเขาใจดีมาก” แฟนอายุ 23 ปีจากอินโดนีเซียบอกฉัน “พวกเขามักจะให้ลายเซ็นและพวกเขายังมอบมาการองและผลิตภัณฑ์แต่งหน้าของเฮร่าให้พวกเราอีกด้วย” แน่นอนผู้ที่ชอบดูถูกอาจจะกล่าวว่าเสน่ห์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนมาดีแล้วทั้งหมด ท้ายที่สุดการกำเนิดของ Blackpink อาจเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่มีการวางแผนมาอย่างดีมากที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป๊อปก็เป็นได้
- Jisoo, Lisa, Rosé และ Jennie ทุกคนต่างเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน ก่อนที่พวกเขาจะพบเจอกันที่กรุงโซลในปี 2010 เพื่อเข้าร่วมเป็นเด็กฝึกหัดของหนึ่งในสามค่ายชื่อดังของเกาหลีใต้ อย่าง YG Entertainment ท่ามกลางผู้คนอื่นๆในช่วงอายุ 20 ปีที่ต้องการจะเป็นนักร้อง ผู้หญิงสี่คนที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 20 ปีได้พักหอพักร่วมกัน ตื่นนอนในตอนเช้าในช่วงตี 5-6 โมงทุกวัน และใช้เวลา 12 ชั่วโมงต่อวันตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อฝึกฝนทักษะในด้านต่างๆ สำหรับกิจกรรมแต่ละกิจกรรมที่พวกเขาจะต้องทำนั้น มีตั้งแต่การร้องเพลงและแร็พไปจนถึงการเต้น การประเมินแต่ละครั้งจะถูกให้คะแนน A, B หรือ C เป็นรายเดือนโดยเจ้าของค่าย YG อย่าง Yang Hyun-Suk ผู้ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกบอยแบนด์ K-Pop และ Producer  “จะมีใครบางคนเข้ามาพร้อมกระดาษแผ่นหนึ่งและติดมันไว้บนกำแพงและจะบอกว่าใครทำดีที่สุด ใครทำแย่ที่สุด และใครจะได้กลับบ้าน” เจนนี่บอกกับบิลบอร์ดเมื่อต้นเดือนนี้ จะมีตารางการไดเอทเข้มงวดในแต่ละวัน รวมถึงห้ามออกเดท และห้ามดื่มของมึนเมาอีกด้วย ฮันนา ผู้ที่ทำงานในวงการ K-Pop กล่าว

*(ก่อนจะขึ้นย่อหน้าถัดไปจะพูดถึงบุคคลิกที่น่ารักของไอดอลเกาหลี ซึ่งย่อหน้าก่อนหน้านี้เหมือนจะยกเอาคำวิจารณ์ BP ในรายการ Blackpink House ว่าเฟคทำเสียงน่ารักๆหมือนเด็กรวมถึงการเปรียบเทียบกับศิลปินอื่นๆมาด้วยคะ ขออนุญาตไม่แปลนะคะ)

- จากการศึกษาของ Ae Jin Han เธอบอกว่า ความน่ารักในเพลงป๊อปเกาหลีนั้น รวมถึงความน่ารักที่ Blackpink แสดงออกมานั้นเรียกว่า 'aegyo' ซึ่งเป็นคำภาษาเกาหลีที่อ้างถึง "การแสดงความน่ารัก" ซึ่งแสดงออกมาจากท่าทางและภาษา สไตล์ 'aegyo' เป็นคำเฉพาะที่กำหนดให้กับสมาชิกวงแต่ละคนตามบุคคลิกของสมาชิกภายในกลุ่ม “ ยกตัวอย่างเช่น” Lei บอกว่า “ จิซูเป็นพี่สาวที่มีความรับผิดชอบที่คอยดูแลน้องภายในวงเสมอ ... เจนนี่ดูเย็นชาและดูร้ายๆ แต่ในความเป็นจริงเธอนุ่มนวลและอ่อนหวาน, Rosé เป็นเหมือนความสุขและความร่าเริงของวง ผู้ที่รักอาหารและการกิน และ Lisa น้องคนสุดท้องของพวกเขาที่เธอเหมือนจะมีลุคที่ดุดันบนเวที แต่หลังเวทีเธอยังเป็นเด็ก” คำชื่นชมของแฟนๆ บนคลิปในช่อง YouTube ของพวกเขา ความคิดเห็นส่วนใหญ่บอกว่า "น่ารัก (how cute)” อีกหนึ่งคำที่ถูกพูดถึงกันมากคือ“เด็กน้อย (baby)” 

*หมายเหตุ : แปลทั้งหมด 98% ของบทความนี้ค่ะ ในส่วนที่ไม่ได้แปลมาเพราะมีการเปรียบเทียบกับศิลปินอื่นๆและการยกเอาคำวิจารณ์ในสังคมออนไลน์มาคะ โดยรวมของบทความเป็นไปในเชิง+  ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ

เครดิต : https://www.telegraph.co.uk/music/artists/blackpink-revolution-k-pop-girl-group-became-global-obsession/?f
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่