สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าอันนี้เป็นการตั้งกระทู้แรก ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ คือว่า.. จริงๆแล้วเราน่าจะไม่ได้ต้องการถามไป เพื่อต้องการคำตอบอะไร แต่น่าจะแค่อยากทราบความคิดเห็นต่างๆจากเพื่อนๆมากกว่า เหมือนเป็นการระบายนิดๆ พูดคุย ฆ่าเวลาระหว่างการรอคอยไปแล้วกันนะคะ
เริ่มเลย.. พอดีเรากับสามีกำลังจะซื้อรถกระบะ FORD ค่ะ เพิ่งทำเรื่องยื่นไฟแนนซ์ไปเมื่อวันอาทิตย์นี้เอง (16 มิ.ย. 62) ก่อนหน้านี้เราก็ศึกษาข้อมูลและทำการเปรียบเทียบราคา ดอกเบี้ย ส่วนลด และรายการของแถมแบบละเอียดยิบกับเซลส์มาทั้งหมดแล้ว มากกว่า 10 ที่ได้ จนได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ ก็วางเงินจองไป 3,000 บาท (จริงๆต้องวาง 5,000 บาท แต่เซลส์บอกเองว่าวางเท่านี้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวเรื่องผ่านแล้วค่อยโอนเพิ่ม เราก็เลยวางเท่านี้ค่ะ) วันรุ่งขึ้นก็นัดให้ไฟแนนซ์มาเซ็นเลย ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผล 3-5 วันทำการ ระหว่างนี้เราก็เลยอดกังวล แอบคิดมากไม่ได้ กลัวจะไม่ผ่านค่ะ T_T
1.ราคารถรวม = 919,000.-
2.ดาวน์ 20% = 183,800.- (ในส่วนนี้มีส่วนลดดาวน์ทำให้จ่ายจริงแค่ 49,000.-)
ไม่รวมค่าจดทะเบียน + ค่ามัดจำป้ายแดง + เพิ่มเติมชุดแต่ง + จอ (2 รายการสุดท้าย เราอยากได้เพิ่มอีก ก็เพิ่มเงินส่วนต่างเอาค่ะ)
3.ผ่อน = 11,313 x 84 งวด
ส่วนที่เป็นกังวล คิดมาก ก็คือว่า..
1.ใช้ชื่อเราเป็นผู้ซื้อ รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 15,000 + 500-700 บาทเอง
2.ใช้ชื่อสามีเป็นคนค้ำ รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 22,000 - 24,000 บาท
3.จดทะเบียนสมรส
4.ทั้งคู่ เป็นพนักงานบริษัท
5.ทั้งคู่ มีรายได้รวม/เดือน = 37,000+
6.ทั้งคู่ ไม่เคยมีประวัติเครดิตไม่ดี ส่งไม่ตรง หรือส่งล่าช้าเลย (รักษาตำแหน่งลูกหนี้ดีเด่นกันมาก ^^)
7.ทั้งคู่ มีผ่อนบัตร FC (แต่ก่อนนัดให้ไฟแนนซ์มาเซ็น ก็ทำการปิดยอดไปทั้งหมดแล้ว ทั้งคู่ค่ะ)
8.มีค่าใช้จ่ายหลักๆ 1 รายการ เป็นค่าเช่าที่พัก 3,350 บาท/เดือน (รวมค่าน้ำ+ค่าไฟด้วยก็ประมาณ 4,000 บาท)
9.สามี เคยซื้อรถเก๋ง ส่งหมดแล้ว (ขายแล้วค่ะ เนื่องจากจะเปลี่ยนเป็น FORD)
แบบนี้จะมีสิทธิ์ผ่านบ้างไหมนะ?
ประเด็นคือ เราแอบคิดแทนสินเชื่อว่าต้องประเมินเทียบรายได้ของเราคนเดียว (เพราะเราเป็นผู้ซื้อหลัก) ซึ่งมีรายได้เพียง 15,000 บาท/เดือน และต้องผ่อนรถ 11,313 บาท/เดือน แบบนี้เท่ากับว่าโอกาสผ่านคงไม่มีแน่ๆเลยใช่ไหม? T_T เพราะรายได้ - ภาระผ่อนรถที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้วจะเหลือเงินแค่ 3,687 บาท/เดือน ไม่รวมค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ถ้าสินเชื่อเอารายได้ - ภาระค่าใช้จ่ายของทั้งคู่มาคิดรวมกันทั้งหมด เพราะจดทะเบียนสมรส = เหลือๆเกือบ 3 เท่า/เดือน ของค่างวดเลย ก็คงรู้สึกว่าน่าจะมีโอกาสผ่านง่ายมากกว่านี้หรือเปล่านะ ^^
ปล.ในเรื่องของสินเชื่อ หรือขั้นตอนการประเมินตรงนี้เราไม่มีความรู้เลยค่ะ ว่าเขาจะประเมิน วิเคราะห์จากอะไร ตรงไหนบ้าง ก็ได้แต่แอบคิดแค่ในมุมของตัวเองระหว่างการรอคอยไปค่ะ
แอบรอเธออยู่นะจ๊ะ (ไฟแนนซ์)
เริ่มเลย.. พอดีเรากับสามีกำลังจะซื้อรถกระบะ FORD ค่ะ เพิ่งทำเรื่องยื่นไฟแนนซ์ไปเมื่อวันอาทิตย์นี้เอง (16 มิ.ย. 62) ก่อนหน้านี้เราก็ศึกษาข้อมูลและทำการเปรียบเทียบราคา ดอกเบี้ย ส่วนลด และรายการของแถมแบบละเอียดยิบกับเซลส์มาทั้งหมดแล้ว มากกว่า 10 ที่ได้ จนได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ ก็วางเงินจองไป 3,000 บาท (จริงๆต้องวาง 5,000 บาท แต่เซลส์บอกเองว่าวางเท่านี้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวเรื่องผ่านแล้วค่อยโอนเพิ่ม เราก็เลยวางเท่านี้ค่ะ) วันรุ่งขึ้นก็นัดให้ไฟแนนซ์มาเซ็นเลย ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผล 3-5 วันทำการ ระหว่างนี้เราก็เลยอดกังวล แอบคิดมากไม่ได้ กลัวจะไม่ผ่านค่ะ T_T
1.ราคารถรวม = 919,000.-
2.ดาวน์ 20% = 183,800.- (ในส่วนนี้มีส่วนลดดาวน์ทำให้จ่ายจริงแค่ 49,000.-)
ไม่รวมค่าจดทะเบียน + ค่ามัดจำป้ายแดง + เพิ่มเติมชุดแต่ง + จอ (2 รายการสุดท้าย เราอยากได้เพิ่มอีก ก็เพิ่มเงินส่วนต่างเอาค่ะ)
3.ผ่อน = 11,313 x 84 งวด
ส่วนที่เป็นกังวล คิดมาก ก็คือว่า..
1.ใช้ชื่อเราเป็นผู้ซื้อ รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 15,000 + 500-700 บาทเอง
2.ใช้ชื่อสามีเป็นคนค้ำ รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 22,000 - 24,000 บาท
3.จดทะเบียนสมรส
4.ทั้งคู่ เป็นพนักงานบริษัท
5.ทั้งคู่ มีรายได้รวม/เดือน = 37,000+
6.ทั้งคู่ ไม่เคยมีประวัติเครดิตไม่ดี ส่งไม่ตรง หรือส่งล่าช้าเลย (รักษาตำแหน่งลูกหนี้ดีเด่นกันมาก ^^)
7.ทั้งคู่ มีผ่อนบัตร FC (แต่ก่อนนัดให้ไฟแนนซ์มาเซ็น ก็ทำการปิดยอดไปทั้งหมดแล้ว ทั้งคู่ค่ะ)
8.มีค่าใช้จ่ายหลักๆ 1 รายการ เป็นค่าเช่าที่พัก 3,350 บาท/เดือน (รวมค่าน้ำ+ค่าไฟด้วยก็ประมาณ 4,000 บาท)
9.สามี เคยซื้อรถเก๋ง ส่งหมดแล้ว (ขายแล้วค่ะ เนื่องจากจะเปลี่ยนเป็น FORD)
แบบนี้จะมีสิทธิ์ผ่านบ้างไหมนะ?
ประเด็นคือ เราแอบคิดแทนสินเชื่อว่าต้องประเมินเทียบรายได้ของเราคนเดียว (เพราะเราเป็นผู้ซื้อหลัก) ซึ่งมีรายได้เพียง 15,000 บาท/เดือน และต้องผ่อนรถ 11,313 บาท/เดือน แบบนี้เท่ากับว่าโอกาสผ่านคงไม่มีแน่ๆเลยใช่ไหม? T_T เพราะรายได้ - ภาระผ่อนรถที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้วจะเหลือเงินแค่ 3,687 บาท/เดือน ไม่รวมค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ถ้าสินเชื่อเอารายได้ - ภาระค่าใช้จ่ายของทั้งคู่มาคิดรวมกันทั้งหมด เพราะจดทะเบียนสมรส = เหลือๆเกือบ 3 เท่า/เดือน ของค่างวดเลย ก็คงรู้สึกว่าน่าจะมีโอกาสผ่านง่ายมากกว่านี้หรือเปล่านะ ^^
ปล.ในเรื่องของสินเชื่อ หรือขั้นตอนการประเมินตรงนี้เราไม่มีความรู้เลยค่ะ ว่าเขาจะประเมิน วิเคราะห์จากอะไร ตรงไหนบ้าง ก็ได้แต่แอบคิดแค่ในมุมของตัวเองระหว่างการรอคอยไปค่ะ