𝐋𝐀𝐒𝐓 𝐂𝐇𝐑𝐈𝐒𝐓𝐌𝐀𝐒
𝐒𝐰𝐢𝐬𝐬 – 𝐆𝐞𝐫𝐦𝐚𝐧 - 𝐀𝐮𝐬𝐭𝐫𝐢𝐚
รีวิวครั้งแรกในชีวิต อาจจะไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไรนะค่า เพราะว่าทริปนี้ก็ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาแต่พึ่งมีเวลามานั่งเขียนรีวิว คือตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะทำเลย เพราะว่าตัวเราก็ไม่ได้เก่งพอจะมาแนะนำอะไรใครได้ แต่ก็ไหนๆก็ไปละเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ไว้และเป็นถือสะว่าเป็นไดอารี่ชีวิตไปด้วยเลย แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องค่าใช้จ่ายจำไม่ได้ทั้งหมดจริงๆ จะเอามาเท่าที่จำได้ไปก่อน บางอย่างอาจตัดไปเพราะจำไม่ได้จริงๆ TOT เดียวรอบหน้าถ้าได้ไปอีกจะจดทุกอย่างอย่างละเอียดเลยค่า
จุดเริ่มต้น ของทริปนี้ก็คือความอยากไปเที่ยวยุโรปในช่วงเทศกาลคริสต์มาส คือขอบอกไว้เลยว่าเรานั้นเป็นคนที่ชอบเทศกาลคริสต์มาสมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่แบบคือความฝันที่ว่าครั้งหนึ่งจะต้องไปเที่ยวคริสต์มาสที่ยุโรปสักครั้งในชีวิต เอาจริงแล้วก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนจากคุณแม่ ถึงแม้จะมีปัญหาหลายเรื่องก่อนไปทริปนี้ แต่พอไปถึงจุดนั้นคือหายเหนื่อยเพราะว่ามันคุ้มที่จะไปจริงๆ เราสองแม่ลูกสัญญากันว่าจะไม่ shopping เด็ดขาดเราจะเก็บไว้กินและเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น!! และเราก็ทำได้ค่าา คือบอกเลยทุกคนไม่ต้อง shopping หรอกแค่ได้ไปสูดอากาศอย่างที่สวิตนี้ก็คือคุ้มค่าตั๋วแล้วจริงๆ เริ่มแรกเลยเราก็เริ่มวางแพลนต่างๆว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างและจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เดียวเราจะบอกเท่าที่เรารู้และเตรียมตัวไป ส่วนถ้าอยากได้เพิ่มเติมแนะนำหาในเน็ตแม่นกว่าเราเยอะเลย
1. เลือกช่วงเวลาที่จะไปก่อนอันดับแรก ความจริงหน้าหนาวไม่ค่อยน่าไปสักเท่าไรสำหรับยุโรปเพราะว่ามันหนาวมากและจะเที่ยวไม่ได้เยอะสักเท่าไร แต่เราเป็นคนชอบย้อนแย้งค่า ก็เลยเลือกไปฤดูหนาวเลยจ้า แต่ก็อย่างที่บอกไป อยากไปช่วงคริสต์มาส คือใครที่ตั้งใจจะมายุโรปหน้าหนาวแนะนำเลยว่าควรมาช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม เพราะว่ายังไม่หนาวมากสักเท่าไรแล้วที่สำคัญบางประเทศก็มีตลาดคริสต์มาสตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แต่จริงๆแล้วเราคิดว่าแต่ละฤดูมันก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความชอบของคน แต่คือเราชอบอากาศหนาวและบรรยากาศที่หนาวแต่อบอุ่นข้างใน ลึกม้ะ 5555
2. ควรเช็คราคาตั๋วว่าวันที่เราจะไปเท่าไรอะไรยังไง คือถ้าอยากไปสบายๆก็บินตรงเลย แต่ถ้าเน้นถูกก็บินแบบต่อเครื่องซึ่งเราจะมาเล่าเรื่องราวให้ฟัง ระทึกมาก เราเลือกบินไปกับสายการบินของรัสเซีย สายการบิน Aeroflot พอใช้ได้ เป็นแบบฟูเซอร์วิสแต่ต้องต่อเครื่อง ก็คือต่อเครื่องที่มอสโควอีกที
ประสบการณ์ต่อเครื่อง ไปยุโรป
Bkk – Moscow - zurich ก็จะประมาณนี้ซึ่งระยะเวลาต่อเครื่องไม่นานสักเท่าไรแต่มันมีจุดพีคที่ทำให้เราเกือบตกเครื่องและเกือบไม่ได้ต่อเครื่องไปสวิซค่า T-T คือเราเห็นในรายละเอียดที่เราจองไว้มันมีสองเวลา คือบินออกตอนเก้าโมงกับตอนสิบโมงครึ่ง คือแบบงงทำไมมันมีสองเวลา เลยโทรไปถามกับสายการบิน นางก็บอกว่าบินได้ตอนสิบโมงครึ่ง เราก็ไม่เอะใจอะไร ก็มารอบสิบโมงครึ่ง นั่งไปถึงมอสโควประมาณกี่โมงก็ไม่รู้จำไม่ได้ แล้วแบบแอร์บอกว่าเรามีเวลาแค่ยี่สิบนาทีในการเดินไปต่อเครื่อง เราก็เออไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะคิดว่าเดินไปก็คงไม่ถึงยี่สิบนาทีแน่นอน พอไปถึงเห็นหางแถวยาวๆเราก็แบบคงไม่ต้องต่อแถวหรอกคงมีทางรัดให้เราไปต่อเครื่อง ปรากฏว่าไปถึงตรงนั้น มันไม่มีจ้าา แล้วแบบเหลือเวลาแค่สิบกว่านาทีคือแบบมันจะทันมั้ยเนี่ย ก็เลยเดินไปถามพนักงานอธิบายถึงเวลาต่อเครื่องของเรา นางก็รับทราบแล้วพาเรากับแม่สองคนฝ่าดงคนรัสเซียเข้าไป ซึ่งแบบเค้าไม่ได้ต่อแถวกันเลย แย่งกันตรวจกระเป๋าเพื่อที่จะเข้าไปข้างในกัน เราแบบใจเต้นแรงมากตอนนั้นกลัวว่าจะไปไม่ถึงสวิตละ แต่พี่พนักงานสตรองมากพาเราเบียดดงรัสเซียเข้าไปเลยจ้า คนรัสเซียมองแรงมากแล้วก็ตะโกนใส่พนักงานกันใหญ่เลย แบบรู้เลยว่าด่าพวกเราแน่นอน ก็ยิ่งเพิ่มความกดดันไปอีก ก็คือนอกจากตกเครื่องแล้ว ฉันยังจะต้องตายอยู่ในดงคนรัสเซียตรงนี้กับแม่สองคนหรอ.. พอเบียดๆไปเจอแก๊งชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษได้ เราก็ลุยเลยจ้า แบบขอให้เค้าช่วยทันที [ประเด็นคือนางหน้านางนี้แบบน่าแทะ] นางกางแขนกั้นคนอื่นให้เรากับแม่เดินเข้าไป แมนมากอะแกจุดนี้ แต่มันไม่ได้จบแค่นั้นนะ คือเรากับแม่ต้องวิ่งกันไปที่ gate อย่างรวดเร็วเพราะมีเวลาไม่ถึงสิบนาที คิดดูแบบคนอ้วนๆอย่างเราสองแม่ลูกจะวิ่งไปทันหรออ TOT แล้วพอเราไปถึงเครื่องบินก็อธิบายว่ามาเวลานี้ตอนสิบโมงครึ่งเลยมาถึงช้า แล้วแอร์ก็ตอบว่า ความจริงมารอบเก้าโมงได้นะค่ะ จะเหลือเวลาต่อเครื่องมากกว่าค่า เรานี้แบบโกรธอีคนที่คุยกับเราตอนนั้นมากทั้งๆที่เราย้ำแล้วนะว่าไปรอบเก้าโมงได้มั้ย- o – และด้วยเหตุนี้ก็เลยสืบเนื่องมาเป็นปัญหาถึงสวิตค่ะ พอถึงสนามบินซูริกก็เดินไปตามทางเพื่อไปเอากระเป๋าเดินทาง ความพีคไม่ได้หยุดแค่ที่รัสเซีย เมื่อไปถึงไม่มีกระเป๋าเดินทางของทั้งแม่และเราเลย เราเลยเดินตรงไปที่หนุ่มหล่อที่ดูแลเรื่องกระเป๋า นางก็ถาม flight ช่วงเวลานู้นนี้นั้น ชื่อ บลาๆ เบอร์ติดต่อ แล้วก็หายไปสักพักแล้วออกมาบอกว่า กระเป๋าเดินทางจะมาถึงพรุ่งนี้เย็นๆเพราะว่าเป็นการต่อเครื่องระยะเวลาสั้นๆ เลยเปลี่ยนกระเป๋ามาอีกเครื่องไม่ทัน แล้วคือเราเที่ยวพรุ่งนี้ทั้งวันเลยอ่ะ แบบเสื้อผ้ายาสีฟันแบบทุกอย่างที่ต้องใช้อยู่ในกระเป๋า ทีนี้หน้าเราก็เริ่มตึงละ และนางก็ดูเหมือนจะรู้แหละว่าเราตึง หน้าบอกไม่ต้องเครียดเราบริการส่งกระเป๋าถึงที่พัก เราก็แบบโล่งอกไปหนึ่งอย่าง ก็พยายามคิดบวกว่าเราก็ไม่ต้องแบกกระเป๋านั่งรถไฟไป Interlaken โชคดีตรงที่ว่าพอมีเสื้อผ้ามาอยู่บ้างในกระเป๋าลากใบเล็กที่เอาขึ้นเครื่องมาด้วย ทีนี้นางก็ให้พวกผ้าขนหนูแปรงสีฟันยาสีฟันมาให้เรา
หลังจากเคลียปัญหาเรื่องกระเป๋าเสร็จ เราก็เดินมายังป้ายรถเมย์ซึ่งป้ายรถเมล์มีความคริสต์มาสมากคือแบบเห็นแล้วดีต่อใจมาก ก็อย่างน้อยได้รับความรู้สึกที่ดีมากตอนเหยียบออกมาข้างนอกสนามบินเป็นความรู้สึกที่ชอบมากเวลาไปต่างประเทศ หลังจากชื่นชมบรรยากาศสวิตกับต้นคริสต์มาสสุดอลังการเสร็จ ก็เดินทางไปนอนโรงแรมใกล้ๆสนามบินด้วยรถเมล์ แต่เรื่องพีคอ่ะไม่ได้จบแค่นี้ มันมีอีกน้า พอขึ้นรถเมล์มาเราก็นึกว่าเออ มันคงจ่ายค่ารถเมล์ตอนลงรถนั้นแหละน่าจะเหมือนญี่ปุ่นละมั้ง เพราะไม่เห็นมีที่ซื้อตั๋วหรือตู้ซื้อตั๋วเลยตอนเดินมา ก็นั่งมาจนถึงหน้าโรงแรมก็เตรียมตัวเดินไปจ่ายเงินนาง นางโว้ยวายภาษาเยอรมันใส่เรา เราก็เอ๋อ-เลยจ้า ไปไม่ถูกพยายามจะพูดภาษาอังกฤษให้เค้าเข้าใจที่ละคำนางก็ไม่เข้าใจ แล้วในที่สุดนางฟ้าคนนึงในรถบัสเค้าก็เดินเข้ามาช่วยและช่วยพูดให้เป็นภาษาเยอรมันให้ และโชคดีมากนางฟ้าของเราเป็นคนไทยค่า สปีคราวกับเป็นภาษาแม่อ่ะ เค้าบอกว่าไม่เปนไรลงได้เลย เรานี้แบบยกมือไหว้ขอบคุณสองสามรอบก่อนลงจากรถบัส ความพีคนี้มาจนถึงที่พักเลยจริงๆ และหลังจากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราควรนั่งร้องไห้อยู่โรงแรมละ ซึ่งคือความจริงเราควรร้องไห้ตั้งแต่ตอนต่อเครื่องที่รัสเซียแล้ว TT แต่คือแบบฮึบบ มาเที่ยวห้ามดราม่า ซึ่งวันแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดี เอ๊ะ ยังใช้คำว่าด้วยดีได้อยู่มั้ยสำหรับทั้งหมดที่เกิดขึ้น 55555
ข้อคิดที่ได้ก็คือ ถ้ามาแบบต่อเครื่องโปรดเลือกเวลาที่ไม่กระชันชิดมาก เพราะเสี่ยงตายในดงรัสเซียจริงๆ
แล้วก็ควรเอาเบอร์ติดต่อหนุ่มคนที่ดูเรื่องกระเป๋าให้เราไว้เพราะว่าหน้าตาหน้ากินมาก
3. ต่อมาก็ดูเรื่องสถานที่เที่ยวแพลนต่างๆ ใส่wordไว้เพื่อไว้ยื่นขอวีซ่า ในส่วนของการยื่นขอวีซ่าช่วงนั้นเราติดเรียนจึงไม่มีเวลาขอเอง จึงจ้างเอเจนซี่ไปง่ายๆ เพราะฉะนั้นขอแนะนำอย่างเดียวเลย ก็คือ statement มันต้องดีในระดับหนึ่งแล้วก็ควรมีเงินในบัญชีอย่าต่ำกว่าแสน อารมณ์เหมือนเค้าอยากให้เรามีเงินสำรองในบัญชีไว้ แต่ก็ไม่ขอลงดีเทลเยอะเพราะเราก็ไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไรว สวิตมันจะเรื่องเยอะหน่อยเรื่อง statement ลองหาในเน็ตดูแบบเยอะมากเรื่องยื่นขอวีซ่าเชงเก้นของแต่ละประเทศค่า
4. ทีนี้ก็จัดหาคอสตูมกันเลยจ้า เสื้อผ้าเป็นสิ่งสำคัญมาก เราควรห่วงสุขภาพใส่เสื้อกั้นหนาวอย่างเดียวไม่ได้จะต้องกั้นลมด้วยเดียวจะไม่สบายเอา แต่เราเป็นคนเน้นสวยไว้ก่อนเพื่อรูปภาพ 55555 ก็เลยเลือกที่จะไปตายในดงหิมะเอา ใส่เสื้อแค่ชั้นเดียวงี้ บางวันก็ใส่สองชั้นบางแล้วแต่อารมณ์ แนะนำอย่าทำตามนะค่ะ ถ้าไขมันไม่เยอะเหมือนเราอย่าทำค่ะ เพราะนอกจากเราจะไขมันเยอะแล้วยังหนังหนาด้วยค่า แต่เอาจริงก็เอาเราไข้ขึ้นไปหนึ่งวันเต็ม แล้วก็ที่สำคัญควรใส่หมวกและถุงมือนะค่าา เป็นของจำเป็นที่ขาดไม่ได้จริงๆ มือนี้ถ้าไม่ใส่ถุงมือคือจะแดงจนแสบเลย ส่วนหมวกคือถ้าไม่ใส่ก็จะปวดหัวมากอารมณ์เหมือนเอาหัวอยู่ใต้แอร์ตลอดเวลา ลองทำดูกันก่อนก็ได้ จะนึกภาพออก 55555
5. ส่วนพวกซิมนะ เราซื้อซิม instasim ใช้ซึ่งมันก็ดีอยู่นะแต่แบบบางทีมันก็เข้าไม่ถึง แต่เอาจริงมันก็มีwifi ตามรถไฟไม่ก็ที่เที่ยวตลอดเลย แต่ซื้อไปก็ดีนะทุกคน กั้นเอาดีกว่าเนาะ ที่สำคัญใช้ได้แค่ในยุโรปน้าอันนี้ มอสโควใช้ไม่ได้ๆ
6. ต่อมาทุกคน เสบียง!! สำคัญมาก แบบมากๆๆ คือของกินที่ยุโรปแพงมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสวิตค่า ซึ่งเราขอแนะนำเลยว่าถ้าอยากกินร้านอาหารให้กินแค่หนึ่งมื้อต่อวันพอ ที่เหลือพึ่งอาหารเช้าของโรงแรมแล้วก็เสบียงเราในตอนเย็นค่า อิอิ เสบียงที่เตรียมเราเตรียมไป ก็จะมี มาม่า ข้าวสาร หม้อหุงข้าวขนาดเล็ก (ถามจริง?) เล็กจริงเล็กแบบหุงรอบเดียวไม่อิ่ม อาหารสำเร็จรูปต่างๆ แล้วก็อันนี้ขอเพิ่มเติม ก็คือหมูและเนื้อตากแห้งหรือแดดเดียวของยาย แพ็คมาเยอะมากและอร่อยมากด้วย
9. ต่อมาสำคัญมากเป็นตัวที่ช่วยให้การเดินทางในยุโรปสะดวกมากเว่อร์ ก็คือแอพพลิเคชั่น แอพที่ควรมีก็คือ rail planner , sbb mobile , klook , QBB และที่เก๋ก็คือมันซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้เลย แบบยื่นบาร์โค้ดให้แสกนสะดวกมากๆ และก็วางแพลนการเดินทางได้ด้วยน้าทุกคน
10. ส่วนพวก railpass คิดว่าสำคัญนะแบบค่ารถไฟพอลองบวกๆดูมันแพงมากเพราะเมืองในยุโรปมันเที่ยวเป็นจังหวัดๆแล้วมันค่อนข้างไกลกัน เลยคิดว่าrailpass ก็คุ้มอยู่ ซึ่งเราก็ซื้อ swiss pass มาใช้เช่นกัน แต่ความจริงมันก็ต้องดูแพลนของเราเองด้วยว่ามันคุ้มที่จะซื้อมั้ย แต่อย่างสวิตนี้แนะนำให้ซื้อเพราะเดินทางไกลกันมาก
จบไปกับการแนะนำการเตรียมตัวต่างๆบลาๆ ก็คงแนะนำได้เท่าที่พอจำได้และรู้มาคร่าวๆเนาะ เดียวจะมาลงเนื้อหาส่วนที่เหลือและรูปภาพๆต่อ ถ้าใครอยากอ่านและอยากดูรูปแล้ว ก็ไปดูในเพจเราก่อนได้เลย เราลงครบหมดแล้วสำหรับสวิต แต่เยอรมันและออสเตรียยังอยู่ช่วงดำเนินการ 5555 คือยุ่งมากช่วงนี้ เพราะว่าต้องปั่นเงินไปคอนแบล็คพิ้ง TT
𝙤𝙪𝙧 𝙥𝙖𝙜𝙚 𝙤𝙣 𝙛𝙖𝙘𝙚𝙗𝙤𝙤𝙠
𝗼𝘂𝗿 𝗽𝗮𝗴𝗲 𝗼𝗻 𝗳𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸 ' 𝗱𝗶𝗮𝗿𝘆 𝗼𝗳 𝗼𝘂𝗿 𝗷𝗼𝘂𝗿𝗻𝗲𝘆 '
^
our teaser
[CR] " LAST CHRISTMAS " Swiss – German - Austria คริสต์มาสที่ยุโรป
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้