คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ค่อยๆ ฝึกครับ
ให้ข้อคิด ที่ไม่รู้จะช่วยไหม ว่า "ชีวิตคือละคร ละครโรงใหญ่ ละครแห่งชีวิต!!"
ที่เราพบเห็น ส่วนมากก็เป็นการเล่นละครของตัวละครบุคคลต่างๆ ทั้งนั้นแหละครับ
เสียแค่ บางครั้งบางตอน เราเองก็ต้องลงไปเล่นด้วยก็แค่นั้นเอง
ก็เล่นตามบทไปครับ ตามเหมาะสม อย่าไปเอาอะไรมาก อย่าไปคิดอะไรมาก
แค่ว่า อะไรดีทำได้ทำ อะไรชั่วนักหนา ข้ามได้ก็ข้าม
สำหรับเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง มันก็เป็นละครฉากหนึ่งในชีวิตคนเรา ทั้งของเรา และของรุ่นพี่นั่นแหละครับ ปีก่อนเขาก็เป็นน้อง ปีนี้เขาก็เป็นพี่ ปีถัดไปเขาก็ไม่ใช่รุ่นพี่แล้ว (พี่ปีสองรับหน้าที่หลักในการรับน้องปีนี้ หรือก็คือ เราเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในรุ่นพี่ที่จะรับน้องปีหน้านั่นเอง มันก็แค่บทบาทหนึ่ง)
ทนๆเล่นมันไปครับ แล้วก็มองหาความหมายของชีวิตเราไปเรื่อยๆ อายุเราเท่านี้ ได้เข้ามหาลัยได้เรียนหนังสือ ก็คือนับว่าอยู่ในร่องในรอยแล้ว ยุคนี้ มีเนต มีโทสับ ยังไงเหงาก็โทรหาที่บ้านได้ครับ
การคบเพื่อนสำคัญมากครับ ถึงวันนึงน้องจะรู้เองว่า เทียบระหว่างเหงากับ มีเพื่อนชั่วแล้ว อยู่คนเดียวเหงาหน่อยยังดีกว่า แต่ตอนนี้น้องยังเด็กอาจจะเห็นเป็นตรงข้ามครับ คือ มีเพื่อนเลวหาเรื่องให้ก็ยังดีกว่าเหงา ฝึกไปดูชีวิตมันไปครับ ผิดพลาดเล็กน้อยได้เป็นบทเรียน ผิดพลาดหนักเป็นไปได้ก็หลบอย่าไปผิด ฟังเอาจากคนอื่นก็พอไม่ต้องเอาประสบการณ์ตรงครับ
สุดท้าย เตือนไว้ก่อนว่า หลังจากหมดกิจกรรมในปี 1 มันจะเป็นการสอบมิดเทอมทันทีเลยนะครับ พูดง่ายๆ ทำกิจกรรมได้ แต่เรื่องเรียนก็ยิ่งต้องเน้นไว้เลย ไม่งั้น ผลสอบออกมาไม่ดี หลายๆคนก็รีไทร์ล่วงหน้าเลยครับ มัวแต่หลงกิจกรรม
บริหารชีวิตให้ดีครับ
ให้ข้อคิด ที่ไม่รู้จะช่วยไหม ว่า "ชีวิตคือละคร ละครโรงใหญ่ ละครแห่งชีวิต!!"
ที่เราพบเห็น ส่วนมากก็เป็นการเล่นละครของตัวละครบุคคลต่างๆ ทั้งนั้นแหละครับ
เสียแค่ บางครั้งบางตอน เราเองก็ต้องลงไปเล่นด้วยก็แค่นั้นเอง
ก็เล่นตามบทไปครับ ตามเหมาะสม อย่าไปเอาอะไรมาก อย่าไปคิดอะไรมาก
แค่ว่า อะไรดีทำได้ทำ อะไรชั่วนักหนา ข้ามได้ก็ข้าม
สำหรับเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง มันก็เป็นละครฉากหนึ่งในชีวิตคนเรา ทั้งของเรา และของรุ่นพี่นั่นแหละครับ ปีก่อนเขาก็เป็นน้อง ปีนี้เขาก็เป็นพี่ ปีถัดไปเขาก็ไม่ใช่รุ่นพี่แล้ว (พี่ปีสองรับหน้าที่หลักในการรับน้องปีนี้ หรือก็คือ เราเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในรุ่นพี่ที่จะรับน้องปีหน้านั่นเอง มันก็แค่บทบาทหนึ่ง)
ทนๆเล่นมันไปครับ แล้วก็มองหาความหมายของชีวิตเราไปเรื่อยๆ อายุเราเท่านี้ ได้เข้ามหาลัยได้เรียนหนังสือ ก็คือนับว่าอยู่ในร่องในรอยแล้ว ยุคนี้ มีเนต มีโทสับ ยังไงเหงาก็โทรหาที่บ้านได้ครับ
การคบเพื่อนสำคัญมากครับ ถึงวันนึงน้องจะรู้เองว่า เทียบระหว่างเหงากับ มีเพื่อนชั่วแล้ว อยู่คนเดียวเหงาหน่อยยังดีกว่า แต่ตอนนี้น้องยังเด็กอาจจะเห็นเป็นตรงข้ามครับ คือ มีเพื่อนเลวหาเรื่องให้ก็ยังดีกว่าเหงา ฝึกไปดูชีวิตมันไปครับ ผิดพลาดเล็กน้อยได้เป็นบทเรียน ผิดพลาดหนักเป็นไปได้ก็หลบอย่าไปผิด ฟังเอาจากคนอื่นก็พอไม่ต้องเอาประสบการณ์ตรงครับ
สุดท้าย เตือนไว้ก่อนว่า หลังจากหมดกิจกรรมในปี 1 มันจะเป็นการสอบมิดเทอมทันทีเลยนะครับ พูดง่ายๆ ทำกิจกรรมได้ แต่เรื่องเรียนก็ยิ่งต้องเน้นไว้เลย ไม่งั้น ผลสอบออกมาไม่ดี หลายๆคนก็รีไทร์ล่วงหน้าเลยครับ มัวแต่หลงกิจกรรม
บริหารชีวิตให้ดีครับ
แสดงความคิดเห็น
ระบายความในใจชีวิตของผม..ปฐมนิเทศมหาลัยวันแรกก็ท้อ