จากที่ดู กลิ่นมาสะลอง มาเลยทำให้นึกขึ้นได้ถึงธรรมเนียมที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนักเมื่อคิดถึงความเป็นจริงที่คนเราจะทำกันถ้าอยู่ในสถานการณ์ต่างๆซึ่งละครไทยแนวผีข้ามภพข้ามชาติหลายเรื่องมักมีลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน ตามนี้
1. ผีไม่มีสิทธิ์ไปโกรธแค้นคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับตัวเองในอดีตแล้วมาเกิดใหม่ ถึงจะหน้าตาเหมือนกันเป๊ะแต่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เวลาเห็นผีไปตามฆ่าตามหลอกหลอนคนในยุคปัจจุบันเพื่อแก้แค้นเรื่องในอดีตแล้วอดที่จะรำคาญไม่ได้ ยิ่งผีพยายามพูดพยายามถามคนในยุคปัจจุบันแล้วเขาทำหน้ามึนงง ยิ่งรู้สึกว่าทำไมผีมันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ว่านี่มันคนละคนกัน คนละยุคสมัยกัน (แต่ถ้าใช้ตรรกะของการเวียนว่ายตายเกิด ชาตินี้ชาติหน้า ก็ถือว่าได้)
2. ถ้าเจอคนที่หน้าตาเหมือนกับคนรู้จักเป๊ะๆแต่ใส่ชุดแปลกถึงขั้นผิดปกติมากๆ อย่าทึกทักว่าเป็นคนรู้จัก ยิ่งถ้าคุยด้วยแล้วมึนๆงงๆ ยิ่งต้องรู้ได้แล้วว่าไม่ใช่คนรู้จัก
3. ถ้าจู่ๆคนที่คุยด้วยหายไปแบบปุบปับ แค่เพียงเราหันหน้าไปมาแล้วเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ควรต้องรู้ได้ในทันทีว่าเป็นผี ไม่ใช่ทำมึนงง คิดว่าตัวเองเบลอ นั่นมันผี ช่วยตกใจแรงๆด้วย
ดูกลิ่นกาสะลองแล้วก็คิดได้ว่าละครไทยแนวผีข้ามภพข้ามชาติมักจะมีธรรมเนียมที่ไม่สมเหตุสมผลเหล่านี้เสมอ
1. ผีไม่มีสิทธิ์ไปโกรธแค้นคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับตัวเองในอดีตแล้วมาเกิดใหม่ ถึงจะหน้าตาเหมือนกันเป๊ะแต่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เวลาเห็นผีไปตามฆ่าตามหลอกหลอนคนในยุคปัจจุบันเพื่อแก้แค้นเรื่องในอดีตแล้วอดที่จะรำคาญไม่ได้ ยิ่งผีพยายามพูดพยายามถามคนในยุคปัจจุบันแล้วเขาทำหน้ามึนงง ยิ่งรู้สึกว่าทำไมผีมันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ว่านี่มันคนละคนกัน คนละยุคสมัยกัน (แต่ถ้าใช้ตรรกะของการเวียนว่ายตายเกิด ชาตินี้ชาติหน้า ก็ถือว่าได้)
2. ถ้าเจอคนที่หน้าตาเหมือนกับคนรู้จักเป๊ะๆแต่ใส่ชุดแปลกถึงขั้นผิดปกติมากๆ อย่าทึกทักว่าเป็นคนรู้จัก ยิ่งถ้าคุยด้วยแล้วมึนๆงงๆ ยิ่งต้องรู้ได้แล้วว่าไม่ใช่คนรู้จัก
3. ถ้าจู่ๆคนที่คุยด้วยหายไปแบบปุบปับ แค่เพียงเราหันหน้าไปมาแล้วเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ควรต้องรู้ได้ในทันทีว่าเป็นผี ไม่ใช่ทำมึนงง คิดว่าตัวเองเบลอ นั่นมันผี ช่วยตกใจแรงๆด้วย