เม็ดเงินโฆษณาละคร 2 หมื่นล้าน “ทีวีดิจิทัล” เปิดศึกชิงเค้กไพรม์ไทม์ครึ่งปีหลัง
ปัจจุบันอุตสาหกรรมโฆษณาสื่อ “ทีวี” ยังครองสัดส่วนสูงสุดกว่า 50% มีเดียเอเยนซี MI ประเมินมูลค่าอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้อยู่ที่ 90,422 ล้านบาท เติบโตราว 1.49% เปรียบเทียบปี 2561 และทีวี มีส่วนแบ่งสูงสุด แม้จะอยู่ในภาวะ “ถดถอย” มาตั้งแต่ยุคทีวีดิจิทัลก็ตาม
ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ สายงานการวางแผนและกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI กล่าวว่าข้อมูลที่ประเมินโดย MI ปี 2562 เม็ดโฆษณาสื่อทีวี มีสัดส่วน 51% หรือมูลค่าเกือบ 50,000 ล้านบาท
หากวิเคราะห์เฉพาะเม็ดเงินโฆษณาทีวี คอนเทนต์ที่ครองงบสูงสุดคือ
“ละคร” สัดส่วน 40% นั่นหมายถึงมูลค่าราว
20,000 ล้านบาท รองลงมาคือ ข่าว 30% วาไรตี้และอื่นๆ อีก 30%
โฟกัสเฉพาะ “ละคร” ก็ต้องบอกว่า
ทีวีดิจิทัล กลุ่มผู้นำเรตติ้งละคร อย่าง ช่อง 3 ช่อง 7 ช่องวัน รายได้จากละครคิดเป็นสัดส่วนราว
50% ละครที่อยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ 20.00 น. ของทุกช่อง จะมีราคาโฆษณา Rate Card (ราคาเสนอขายยังไม่หักส่วนลด) สูงสุดของสถานี
ราคาโฆษณา Rate Card ละครไพรม์ไทม์ของแต่ละสถานีทีวี ช่อง 7 ราคา 500,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-อาทิตย์
ช่อง 3 ราคา 480,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-อาทิตย์
ช่องวัน ราคา 450,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-ศุกร์
ช่อง 8 ราคา 200,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-ศุกร์
พีพีทีวี ราคา 350,000 บาทต่อนาที ละคร พุธ-ศุกร์ (เริ่ม 19 มิ.ย.2562)
จีเอ็มเอ็ม 25 ราคา 350,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-พฤหัสบดี
อมรินทร์ทีวี ราคา 300,000 บาทต่อนาที ละคร เสาร์-อาทิตย์ (เวลา 22.00-23.00 น. เริ่ม 13 ก.ค.2562)
ทรูโฟร์ยู ราคา 250,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-อังคาร
“ช่อง7-ช่อง3-วัน”กลุ่มท็อปละคร ช่องใหม่“เหนื่อย”
ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของสถานีทีวี ที่เริ่มตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวไทย หรือผู้ชมที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ใช้เวลาดูทีวีมากที่สุด โดยเฉพาะ
ละคร ทำให้ราคาโฆษณาในช่วงนี้มีอัตราสูงสุดของสถานี
ภวัต บอกว่าสถานการณ์ของทีวีดิจิทัล 15 ช่องที่ตัดสินใจไปต่อ โดยไม่คืนใบอนุญาต หลายช่องเริ่มใส่เม็ดเงินลงทุนคอนเทนต์ โดยมุ่งไปที่
“ละคร” มากขึ้น เพราะเป็นรายการที่คนได้นิยมดูมากที่สุด แต่ละครก็มี
“เจ้าตลาด” อยู่แล้ว คือ ช่อง 7 ช่อง 3 ตั้งแต่ยุคฟรีทีวี แอนะล็อก มาในยุคทีวีดิจิทัล
“ช่องวัน” ที่มีผู้ผลิตละคร ในนาม เอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ ตั้งแต่ยุคผลิตละครให้ช่อง 5 ก็ก้าวขึ้นมาอยู่ในกลุ่มผู้นำละครเช่นกัน
วันนี้ในกลุ่มผู้นำเรตติ้งละคร ช่อง 7 ช่อง 3 เอง ก็เหนื่อย แม้จะมีฐานผู้ชมอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องจะมีเรตติ้งดี ก็ต้องลุ้นกันแบบเรื่องต่อเรื่อง บางเรื่องนักแสดงดัง ก็ไม่ได้การันตีว่าละครจะดัง
แต่ทั้งช่อง 3 และ ช่อง 7 ที่ทำละครมากว่า 30 ปี สะสมฐานคนดูประจำ และนักแสดงในสังกัดที่มีจำนวนมากก็ยังเป็น 2 ช่อง ที่มีแต้มต่อละครดีกว่าช่องใหม่ๆ หากละครมีนักแสดงนำที่คนไทยชื่นชอบ อย่าง
ช่อง 7 หากมี
เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ หรือ
อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ส่วน ช่อง 3 มี
ณเดชน์ คูกิมิยะ หรือ
ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ หากมีชื่อนักแสดงชื่อดังเหล่านี้ “ละคร” ก็จะเรียกความสนใจจากลูกค้าและเอเยนซีได้ก่อน หลังจากออนแอร์แล้วก็ต้องมาลุ้นกระแสจากผู้ชมอีกครั้งว่าจะได้รับความสนใจหรือไม่
“คอนเทนต์ละครวันนี้ ต้องบอกว่าแข่งขันกันเหนื่อย ทั้งช่องผู้นำเดิมและช่องใหม่ยิ่งเหนื่อยมากขึ้นไปอีก”
https://positioningmag.com/1234800
เม็ดเงินโฆษณาละคร 2 หมื่นล้าน “ทีวีดิจิทัล” เปิดศึกชิงเค้กไพรม์ไทม์ครึ่งปีหลัง
ปัจจุบันอุตสาหกรรมโฆษณาสื่อ “ทีวี” ยังครองสัดส่วนสูงสุดกว่า 50% มีเดียเอเยนซี MI ประเมินมูลค่าอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้อยู่ที่ 90,422 ล้านบาท เติบโตราว 1.49% เปรียบเทียบปี 2561 และทีวี มีส่วนแบ่งสูงสุด แม้จะอยู่ในภาวะ “ถดถอย” มาตั้งแต่ยุคทีวีดิจิทัลก็ตาม
ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ สายงานการวางแผนและกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI กล่าวว่าข้อมูลที่ประเมินโดย MI ปี 2562 เม็ดโฆษณาสื่อทีวี มีสัดส่วน 51% หรือมูลค่าเกือบ 50,000 ล้านบาท
หากวิเคราะห์เฉพาะเม็ดเงินโฆษณาทีวี คอนเทนต์ที่ครองงบสูงสุดคือ “ละคร” สัดส่วน 40% นั่นหมายถึงมูลค่าราว 20,000 ล้านบาท รองลงมาคือ ข่าว 30% วาไรตี้และอื่นๆ อีก 30%
โฟกัสเฉพาะ “ละคร” ก็ต้องบอกว่า ทีวีดิจิทัล กลุ่มผู้นำเรตติ้งละคร อย่าง ช่อง 3 ช่อง 7 ช่องวัน รายได้จากละครคิดเป็นสัดส่วนราว 50% ละครที่อยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ 20.00 น. ของทุกช่อง จะมีราคาโฆษณา Rate Card (ราคาเสนอขายยังไม่หักส่วนลด) สูงสุดของสถานี
ราคาโฆษณา Rate Card ละครไพรม์ไทม์ของแต่ละสถานีทีวี ช่อง 7 ราคา 500,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-อาทิตย์
ช่อง 3 ราคา 480,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-อาทิตย์
ช่องวัน ราคา 450,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-ศุกร์
ช่อง 8 ราคา 200,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-ศุกร์
พีพีทีวี ราคา 350,000 บาทต่อนาที ละคร พุธ-ศุกร์ (เริ่ม 19 มิ.ย.2562)
จีเอ็มเอ็ม 25 ราคา 350,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-พฤหัสบดี
อมรินทร์ทีวี ราคา 300,000 บาทต่อนาที ละคร เสาร์-อาทิตย์ (เวลา 22.00-23.00 น. เริ่ม 13 ก.ค.2562)
ทรูโฟร์ยู ราคา 250,000 บาทต่อนาที ละคร จันทร์-อังคาร
“ช่อง7-ช่อง3-วัน”กลุ่มท็อปละคร ช่องใหม่“เหนื่อย”
ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของสถานีทีวี ที่เริ่มตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวไทย หรือผู้ชมที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ใช้เวลาดูทีวีมากที่สุด โดยเฉพาะละคร ทำให้ราคาโฆษณาในช่วงนี้มีอัตราสูงสุดของสถานี
ภวัต บอกว่าสถานการณ์ของทีวีดิจิทัล 15 ช่องที่ตัดสินใจไปต่อ โดยไม่คืนใบอนุญาต หลายช่องเริ่มใส่เม็ดเงินลงทุนคอนเทนต์ โดยมุ่งไปที่ “ละคร” มากขึ้น เพราะเป็นรายการที่คนได้นิยมดูมากที่สุด แต่ละครก็มี “เจ้าตลาด” อยู่แล้ว คือ ช่อง 7 ช่อง 3 ตั้งแต่ยุคฟรีทีวี แอนะล็อก มาในยุคทีวีดิจิทัล “ช่องวัน” ที่มีผู้ผลิตละคร ในนาม เอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ ตั้งแต่ยุคผลิตละครให้ช่อง 5 ก็ก้าวขึ้นมาอยู่ในกลุ่มผู้นำละครเช่นกัน
วันนี้ในกลุ่มผู้นำเรตติ้งละคร ช่อง 7 ช่อง 3 เอง ก็เหนื่อย แม้จะมีฐานผู้ชมอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องจะมีเรตติ้งดี ก็ต้องลุ้นกันแบบเรื่องต่อเรื่อง บางเรื่องนักแสดงดัง ก็ไม่ได้การันตีว่าละครจะดัง
แต่ทั้งช่อง 3 และ ช่อง 7 ที่ทำละครมากว่า 30 ปี สะสมฐานคนดูประจำ และนักแสดงในสังกัดที่มีจำนวนมากก็ยังเป็น 2 ช่อง ที่มีแต้มต่อละครดีกว่าช่องใหม่ๆ หากละครมีนักแสดงนำที่คนไทยชื่นชอบ อย่าง ช่อง 7 หากมี เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ หรือ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ส่วน ช่อง 3 มี ณเดชน์ คูกิมิยะ หรือ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ หากมีชื่อนักแสดงชื่อดังเหล่านี้ “ละคร” ก็จะเรียกความสนใจจากลูกค้าและเอเยนซีได้ก่อน หลังจากออนแอร์แล้วก็ต้องมาลุ้นกระแสจากผู้ชมอีกครั้งว่าจะได้รับความสนใจหรือไม่
“คอนเทนต์ละครวันนี้ ต้องบอกว่าแข่งขันกันเหนื่อย ทั้งช่องผู้นำเดิมและช่องใหม่ยิ่งเหนื่อยมากขึ้นไปอีก”
https://positioningmag.com/1234800