แชร์ประสบการณ์ เที่ยวเมือง Cebu ประเทศ Phillippines 6 วัน

กระทู้สนทนา

Snorkeling เที่ยวทะเล ประเทศฟิลิปปินส์ Backpack เที่ยวต่างประเทศ

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เราอยากแชร์ประสบการณ์ที่เรากับแฟน ได้ไปเที่ยวแล้วเจอมาให้เพื่อน ๆ ฟังกันค่ะ
เริ่มต้นเลยละกันเนอะ
เราเริ่มเดินทาง โดยสายการบิน แอร์เอเชีย ค่ะ
Plan การเดินทางมีดังนี้ค่ะ
วันแรก บินจาก ดอนเมือง ไปมะนิลา
วันที่ 2 มะนิลา -->สนามบินซีบู --->เมืองออสลอบ
วันที่ 3 ดูฉลามวาฬ --> วันเดย์ทริปเกาะซูมิลอน
วันที่ 4 โบสถ์เก่าริมทะเลเมืองออสลอบ --> โดดน้ำตกคาวาซาน --> เมืองMoalboal
วันที่ 5 ดำน้ำดู ฝูงปลาซาดีน +เต่าทะเล+ปะกาลัง
วันที่ 6 เมืองซีบู
วันที่ 7 กลับไทย

ก่อนการรีวิว เรากับแฟนทำ Youtube เที่ยวครั้งนี้ เป็นการเรียกน้ำย่อยมาให้ดูก่อนละกันนะคะ ====>>>>>>>

วันแรก บินจาก ดอนเมือง ไปมะนิลา

เราเลือกสายการบินแอร์เอเชีย เหตุเพราะ ความงกล้วน ๆ ค่ะ แต่เป็นแบบต่อเครื่องนะคะ เราไปจากดอนเมืองรอบ 21.20 น.

ไปถึงสนามบินมะนิลา ประมาณ ตีสองค่ะ แอบเล่าให้ฟังว่า เครื่องที่ขึ้นขาไปมะนิลาทั้งแอร์และผู้โดยสารเป็นชาวฟิลิปปินล้วนค่าาา กะจะถามว่าจะไปสนามบินในประเทศไปยังไง พอเห็นหน้าแอร์เหมือนคนไทยเลยพูดไทยใส่ นางฟังไม่รู้เรื่องจ้าาาาา ลำบากเลยทีนี้ 555

บนเครื่อง ประเทศนี้เค้ายังให้กรอกใบต.ม.อยู่นะ เพื่อยื่นให้ ต.ม.ขาเข้าประเทศ

วันที่ 2 มะนิลา -->สนามบินซีบู --->เมืองออสลอบ
หลังผ่านพี่ต.ม.แล้วก็รับกระเป๋า ออกไป แลกเงิน และออกไปซื้อซิมกัน

ซิมการ์ด มี 2 ค่ะ คือ

1. Globe ราคาถูกสุด แต่สัญญาณง่อย ราคาเริ่มที่ 599 PS มีnet 5 GB ใช้ได้ 7 วัน

2. Smart ราคาโหด ประมาณ 1000 PS ++ เคลมว่าเน็ตเร็วแรงงง (แต่เราไม่ได้เลือกนะแพงเกิ๊น)

เรทเงิน ณ วันที่เราไป (26 May 2019 ) 1 US = 52.20 PS

ได้เงิน ได้ซิม ก็ไปหารถฟรีบัส เพื่อไปสนามบินในประเทศ พอไปถึง ถามเจ้าหน้าที่ว่ารถจะมากี่โมง นางบอกว่ารถเริ่มให้บริการ รอบ 5.30 น.จ้าาาา แล้วคือ จะบินไปซีบูตอน5.25น. สรุปคือ ต้องกลับออกไปหน้าสนามบินไป โบกแท็กซี่เองค่าาาา

แล้วที่พีกคือ โบกแท็กซี่มั่ว ๆ (สีขาว)มีมิเตอร์นะ แต่พอถึง สนามบินในประเทศ นางเรียก 600PS บ้าไปแล้ววววว สนามบินมันห่างกันไม่ถึง 3 กินโลนะ เชื่อแล้วค่ะว่าแท็กซี่สนามบินแม่มBAD ทุกประเทศจริง ๆ ค่ะ จบคือเราให้ ไป 500PS ถึงจะยอมให้เราลง

เข้าสนามบินในประเทศของฟิลิปปิน เค้าแยกแถวชาย-หญิงนะคะ แล้วถ้าไม่มีตั๋ว ไม่ให้เข้าค่ะ แฟนเราต้องไปซื้อตั๋วในเคาเตอร์เช็คอิน เลยต้องเจรจากับเจ้าหน้าที่อยู่นานเลย กว่าจะให้เข้า

สนามบินในประเทศที่เมืองมะนิลาคือเล็กมากกกกก มีแค่ 6 GATE อ่ะ เล็กมากจริง ๆ ขึ้นเครื่องรอบ 5.25 น. ไปถึงที่ซีบู ประมาณ 8 โมง แล้วก็ไปต่อแถวขึ้นรถแท๊กซี่ ไป South Bus Terminal (อันนี้ไม่โดนโกงค่ะ) ราคา 300 PS (มิเตอร์เริ่มต้นเค้าเริ่มที่ 40 PS ค่ะ ) ถ้าให้เข้าไปส่งข้างในค่าเข้า 10 PS

เข้าไปในขนส่ง เจ้าหน้าที่ถามว่าจะไปไหน เราบอกไป Oslob เค้าให้ไปที่ ช่อง 8 มองหาช่องที่เป็นรถสีเหลือง มีทั้งแบบ แอร์และแบบพัดลมนะคะ เหมือนว่ารถจะออกทุก 30 นาที / เต็มก็ออกค่ะ ราคาตั๋วไปออสลอบอยู่ที่ 200 PS ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-5 ชั่วโมงนะ เตรียมน้ำขนมรองท้องเผื่อหิวด้วย รถบัสระหว่างทางจะจอดเกือบทุก 3-5 นาทีอ่ะเลยทำให้ช้า ถ้าจะลงที่ไหนบอกพนักงานเก็บเงินเลยค่ะ แต่อย่าไว้ใจมาก ทางที่ดี ดูพิกัดเอง พอใกล้ถึงก็ไปรอหน้าประตูแล้วบอกให้จอดดีกว่า คือโดนมาละว่าเลยจ้าาาาา เดินย้อนไกลเลย

รูปสถานีขนส่ง ช่องเบอร์ 8 ไป ออสลอบ

ถึงออสลอบเราเลือกพักที่ Ocean View Loding House จองไว้ 2 คืน ราคา 3,040 PS ที่พักติดทะเล ห้องใหม่มากก แล้วเจ้าของใจดีมาก เราไปถึงแล้วคือเงินที่แลกมาหมด เลยยังไม่มีจ่ายค่าที่พัก นางบอกไม่เป็นไร ไปพักก่อน ถ้าจะไปแลกเงินเดี๋ยวไปแลกให้ พอแลกเงินได้นางก็เอามาให้ ไม่คิดค่าแลกหรือโกงเราเลย เลยจองทริปดูฉลามวาฬกับนาง นางบอกคนละ 1000 PS ค่าคนรับ-ส่ง +ซื้อตั๋วให้ อีก 500 PS (ที่พักเราห่างจากจุดดูฉลามวาฬ ประมาณ 10 KM) พอดีกะไปเกาะซูมิลอนต่อหลังดูฉลามวาฬ ก็ไม่ได้คิอเพิ่ม คือดี๊ดี

รูปวิวทะเลที่พักOcean View Loding House

หัวค่ำเริ่มหิว เรากับแฟนก็เดินออกไปหาข้าวกินแถวหน้าตลาด คือเดินไม่ไกลจาก ที่พักนะ ไปกินปิ้งย่างทะเล ราคาไม่แพงเลย กินเสร็จ เดินไป 7-11 แล้วเข้าที่พัก เตรียมตัวดูฉลามวาฬพรุ่งนี้กัน

วันที่ 3 ดูฉลามวาฬ --> วันเดย์ทริปเกาะซูมิลอน

นัดคนขับรถไปส่งดูฉลามวาฬ รอบ 7.00 น. ตื่นมาฝนตกจ้าาาาาาาาาาา นั่งเศร้าเลย แต่โชคเข้าข้าง ฝนตกไม่นานก็หยุด เลยได้ไปต่อ พอไปถึงจุดชมปลาฉลามวาฬ ท้องฟ้าแจ่มใสเลยแหละ

ลุงคนรถเป็นคนจัดการทุกอย่าง พาเราไปนั่งฟังข้อตกลง กฏการดูน้องฉลามวาฬ ที่เรารู้หลัก ๆ คือ

- ห้ามแตะ /สัมผัส โดนปรับนะคะ

- ห้ามทาครีมกันแดด

- ห้ามเข้าใกล้เกิน 5 เมตร

- ห้ามใช้แฟลช ถ่ายรูปน้อง

ฟังจบ ก็ ฝากของทุกอย่างที่ลุงคนขับ ลุงก็พาไปใส่เสื้อชูชีพ ให้ สน็อกเกิ้น แล้วพาข้ึนเรือพาย เรือพายออกจากฝั่งประมาณ 20 เมตร ก็จอด แล้วให้ลงดำน้ำดูน้องฉลามวาฬ ประมาณ 30 นาที บอกเลยค่ะว่ามันเป็นการยากที่จะกดถ่ายภาพเป็นช็อต ๆ ในน้ำ เพราะคนที่ไปดูก็เยอะจะขวางเรา แนะนำให้ถ่ายเป็นวิดีโอ แล้วมาเก็บรูปเป็นช็อตเอา เอาเข้าจริง ๆนะคะว่าที่ห้ามใกล้น้องเกิน 5 เมตร ทำได้ยาก เพราะเรือที่โปรยอาหารใกล้มาก และน้องก็ตัวใหญ่มากกกก มากินอาหารทีคืออยู่ห่างเราแบบไปถึง 1 เมตรด้วยซ้ำ สิ่งที่ทำได้คือ ต้องว่ายหนีวิถีการว่ายของน้อง กลัวโดนตัวน้อง เดี๋ยวน้องติดเชื้อ ส่วนเราน้ันได้ภาพแบบติดตลกมาก (ดูในคลิปได้ ตลกมาก)

ไปต่อกันที่ เกาะซูมิลอน กันเลย เกาะนี้อยู่ไม่ห่างที่ดูฉลามวาฬ เราเลยให้ลุงไปส่งที่ เคาเตอร์ของโรงแรม เพื่อซื้อวันเดย์ทริป

ราคา One Day Trip อยู่ที่ 2500 PS ต่อคน เป็นราคานี้ทุกวัน ราคานี้คือรวมค่าเรือ ไป-กลับ, อาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ ,ผ้าขนหนู, อุปกรณืดำน้ำตื้น ,พายเรือคายัก, สระว่ายน้ำเฉพาะโซนวันเดย์ทริป ถ้าจะเอาล็อกเกอร์เก็บของต้องติดต่อ เคาเตอร์แรกที่มาถึงเกาะ ไม่ฟรีนะคะ ราคา 100 PS ค่า ค่าประกันอีก 100 PS แล้วให้ กุญแจมา 1 ชุด ติดหมายเลขไว้ให้ไปล็อกเอง

รอบเรือ ไปจาก ฝั่ง ไปเกาะ Sumilon

8.00 9.30 11.00 12.00 14.00 16.30

รอบเรือ กลับ Sumilon กลับ ฝั่ง

9.00 10.30 12.00 13.30 15.30 17.00

เราไปรอบ 9.30 น. และกลับรอบ 17.00 น. เอาให้คุ้มจ่ายมาแพงอ่ะ ไปถึงเราก็ไปเอาสน็อกเกิ้นกับชูชีพมาจองเก้าอี้ที่ริมหาดแล้วนั้งถ่ายรูปวนไปค่ะ แดดร้อนกลัวไหม้ กว่าจะลงดำน้ำต้องเปลี่ยนชุดแขนยาวขายาวเลยได้ดำนิดเดียว ส่วนคุณแฟนนางไม่แคร์ค่ะ นางชอบดำน้ำมากกก ถ่ายรูปให้เราเสร็จก็ดำผุดดำว่ายสนุกนางล่ะ พอกินข้าวเสร็จก็ เดินไปหลังหาด ไปดูหาดทรายขาว แนะนำว่าควรไปช่วงเช้า เดินไปประมาณ 400 เมตร จะเป็นบริเวณหาดทรายขาวและสวยมากกกก ถ่ายรูปได้สวย ๆ เลย แต่เราไปช่วงบ่ายน้ำขึ้นเลยไม่ได้ถ่ายภาพสวย ๆ

หลังจากนั้นก็ดำน้ำจนถึงเย็น อาบน้ำแล้วขึ้นเรือรอบสุดท้าย ถึงฝั่ง ลุงคนขับก็มารับกลับที่พัก

หาดทรายหลังเกาะซูมิลอน

วันที่ 4 โบสถ์เก่าริมทะเลเมืองออสลอบ --> โดดน้ำตกคาวาซาน --> เมืองMoalboal

เราเริ่มต้นวันที่สี่ โดยการซื้อทริปกับทางที่พักให้พาไป Canyonearing ที่น้ำตกคาวาซาน ซึ่งแพลนว่าจะให้ไปส่งที่เมือง Moalboal ด้วยเลย นางก็ติดต่อลุงคนเดิมให้ไปส่งเราค่ะ วันนี้นัดให้จัดอาหารเช้าตอน 8 โมงเช้า เพื่อเดินไปโบสถ์เก่าริมทะเลไม่ไกลจากที่พัก เดินไปประมาณ 8-10 นาที

เดินย่อยอาหารเช้าไปในตัว ก็ได้ภาพเก๋ๆ มานิดหน่อยกร็บๆ แล้วรีบเดินกลับมาเปลี่ยนชุดเก็บของเดินทางไปต่อกับลุงคนขับตุ๊ก ๆคนเดิม ตอน 10โมง

ถึงที่ที่จะพาเราไปโดดน้ำตกประมาณ เที่ยงนิด ๆ เค้าเลยจัดอาหารให้เราทานก่อนไป เป็นอาหารมื้อใหญ่มากอ่ะ (ก็สมควร จ่ายมาคนละ 1500 PS ) หลังจากนั้นก็กรอกข้อมูลและเซ็นชื่อว่าสมัครใจทำกิจกรรมนี้เองค่ะ แล้วก็ใส่หมวกกับชูชีพโดขึ้นรถมอไซค์มีคนขับพาไปส่ง ทางไปโหดอยู่

แล้วเดิน ๆ ไปไม่กี่นาทีก็มาถึงด่านแรก เรางงอยู่ ไกด์ที่พามาบอก Lady first อ่าว ตูก่อนเหรอ อ่ะ ๆ โดดก็โดด โดยไม่รู้ความสูงว่า 11 เมตร พอจะโดดก็ไม่รู้เอาความกล้าที่ไหนมาปล่อยไกด์ผลักลงหน้าผาเฉย!! (ดูได้ในยูทูป) หลังจากนั้นก็มาเล่นสไลเดอร์กับแฟน ต่อด้วยโหนเชือกลงน้ำ แล้วเดินต่อเรื่อยๆ ถึงด่าน 12 เมตร คือเริ่มกลัวแล้วไงหนาวด้วย เลยไม่ยอมโดด ไปโดดแบบ3เมตรแทน 555 แล้วก็มาสิ้นสุดที่น้ำตกคาวาซาน คือก็สวยนะแต่คนเยอะไปหน่อย

จบทริป โดดน้ำตกในตำนาน แล้วให้ลุงพาไปส่งที่ ที่พักแถวหาด Panagsama ให้ทิปลุงไปอีก 500 PS วันนี้นอนท่ี่พักแบบบังกะดลติดหาดในราคา 1800 PS คือดีแต่แอบหลอน และน้ำไม่แรง ดีนะนอนคืนเดียว แต่ใกล้แหล่งดำน้ำดูคุณเต่าและเหล่าฝูงซาดีน รวมถึงร้านอาหารต่าง ๆ ค่ะ ชื่อที่พัก ติดไว้ก่อนนะจำไม่ได้อ่า เก็บของเสร็จ คุณแฟนไม่รอช้า รีบไปดำน้ำเลยจ้า พอค่ำหน่อยก็มานั่งรอคุณแฟนเปลี่ยนชุด แล้วเดินไปหาข้าวกินกันในซอยแถวนั้น ก็อร่อยนะ