Air Panasonic Sky Series
ตอนนั้นเลือกขนาดประมาณ 9000 BTU เพราะของเดิมติดขนาด 13000 BTU ก็เย็นมากแล้ว
ความคิดตอนตัดสินใจซื้อ
- ค่า Seer 24.40 เสียค่าไฟต่อปี 4,000 บาท ต่อปี โอ้แม่เจ้า
- มีระบบ ฟอกอากาศแบบ นาโนอี ทำลายอนุภาคฝุนได้
เลยคิดว่าซื้อมา มันน่าจะดีนะ อาจจะทำให้ไม่ต้องล้างแอร์บ่อย เพราะฝุ่นคงไม่มี (คิดผิดถนัด)
- เทคโนโลยีใหม่ เป่าลมเย็นขึ้นข้างบน ทำให้รู้สึกเย็นแบบธรรมชาติ
- ดูรูปลักษณ์แล้วก็ดูดี เก๋ ทันสมัย
พอซื้อมาใช้จริงๆ
- ประหยัดค่าไฟลงไปเยอะพอสมควร เทียบกับแอร์ตัวเดิม
- เครื่องก็เงียบพอสมควร สามารถ เลือก พัดลมเป่า แบบ Auto มันก็จะเงียบกว่าการตั้งค่าให้มันเป่าลมแรงๆตลอดเวลา
และก็มี เลือกอีกค่าคือ Quiet ก็จะเงียบกว่าอีก
แต่ ก็ต้องแลกมาด้วยกับอะไรบางอย่าง คือ
ถ้าคุณอยู่ไกลเครื่องปรับอากาศซัก สี่เมตร ลมเย็นอาจจะพัดไปไม่ถึง ต้องเปิดพัดลมโคจรช่วยเพื่อกระจายความเย็น
- เรื่องรีโมท รู้สึกไม่ประทับใจมากๆ เพราะ กดสั่งงานไม่ค่อยติด ต้อง หันรีโมทไปโดน ตัวแอร์จริงๆมันถึงจะรับคำสั่ง บางทีหันไปทางแอร์แล้ว
แต่ไม่ได้มุมที่ถูกต้อง มันก็ไม่รับคำสั่งเหมือนกัน เหมือนต้องจ่อให้โดน ตัวรับอินฟาเรดเป๊ะๆ
ไม่เหมือน รีโมท ซัมซุง หันไปทางไหนกดไป ก็โดน
- ในเครื่องปรับอากาศทั่วๆไปเขาจะมีให้เราเลือกเปิดเฉพาะ พัดลมในตัวแอร์ โดยที่ คอนเดนเซอร์แอร์ไม่ทำงาน
ส่วนในแอร์ตัวนี้มันไม่มีระบบเปิดแต่พัดลม ครับ
มันจะมีระบบ นาโนอีจี มาแทน คือ เวลาเปิดแต่ระบบนาโนอีจี เครื่องมันจะทำงานเหมือนเปิดแต่พัดลมเท่านั้น ไม่ได้ ให้คอนเดนเซอร์ทำงาน
ขณะเดียวกัน นาโนจี ก็ทำงาน เพื่อฟอกอากาศด้วย
เจ๋ง..
แต่ปัญหาคือ ปรับความแรงของลมไม่ได้ ปรับให้ทิศทางลมส่ายไปส่ายมาไม่ได้
กำจริงๆ T _ T
- หลงกดปิดเครื่อง อันนี้เป็นปัญหาเหมือนกัน
เพราะ การเปิดหรือปิดเครื่องแต่ละครั้ง มันจะมีลีลา นิดหนึ่ง คือตรงช่องเป่าลม มันจะมีแผ่นอันหนึ่งปิดช่องนั้นเวลา เครื่องปิด
หรือตอนเปิด ฝาปิดอันนั้นมันก็จะเปิดออกมา แต่คราวนี้กว่ามันจะเปิดหรือมันจะปิด มันจะต้องเซ็ตตัวเองโดยใช้เวลาอยู่พอสมควร
มันจะไม่เหมือนเครื่องปรับอากาศทั่วไปที่คุณกดปิด แล้วที่เครื่องปรับอากาศจะดังตี๊ด แล้วก็ปิดทันที
คราวนี้ถ้าคุณเผลอไปกดปิดมันโดยบังเอิญ แล้วคุณจะรีบสั่งให้มันเปิดขึ้นมาใหม่ทันที ก็ทำไม่ได้
-ไม่มีอุณหภูมิบอกที่ตัวเครื่อง
ที่เครื่องไม่มี อุณหภูมิ บอกว่า ตอนนี้ ตัวเครื่องมันทำความเย็นอยู่ที่ กี่องศาแล้ว
สมมุติ เราตั้งไว้ที่ 25องศา แต่ที่ตัวเครื่องมันอาจจะยังอยุ่ที่ 27องศาก็ได้
- หน้าจอรีโมท มีแสงไฟส่องให้ดูได้ตอนกลางคืนด้วย
เป็นสิ่งที่ดีมาก ที่มีแสงที่หน้าจอรีโมท
แต่ปัญหาคือ ตอนกลางคืน หยิบมาดูมืดๆ มันจะเปิดแสงก้อต่อเมื่อเรากด ปุ่มอะไรก็ได้บนรีโมท
แล้วโดยธรรมชาติเราก็จะกดปุ่มแถวๆกลางๆรีโมท พอดี
พอกดไป ไฟหน้าจอรีโมทเปิด ปรากกว่า ปุ่มที่เรากดมันคือปุ่มกดปิด
แต่มันจะยังไม่ทำงานเพราะว่าเราไม่ได้จ่อรีโมทไปทางแอร์ใช่ไหมครับ
พอเราเห็นหน้าจอ แล้วจะสั่งกดคำสั่งอื่น หันรีโมทไปทางแอร์ แล้วกด พั๊ว..
โอ้แม่เจ้า เครื่องปิด
กำ T _ T
ต้องมารอมันเปิดใหม่ อีก
จริงๆที่ตัวรีโมท มันมีฝาปิดแบบสไลด์ลง
มันน่าจะทำฟังก์ชั่น เป็น สไลด์ฝาลงแล้วไฟหน้าจอรีโมทเปิดเน๊าะ จะเข้าท่ากว่า
-กับความคิดที่ว่า มีระบบกำจัดฝุนในอากาศ
เราก็เลยคิดว่า เครื่องมันน่าจะไม่มีฝุ่นจับมาก
ผ่านไปได้สัก 8 เดือน ก็ยังไม่ล้างแอร์เลย
เริ่มมีอาการแล้ว
เสียงดัง แล้วก็ไม่ค่อยเย็น
เลยให้ช่างแถวบ้านมาล้าง
ช่างมาดู
เปิดเครื่องออกมา ช่างหาพัดลมกรงกระรอกไม่เจอ
555555555555
ช่างบอกว่าล้างไม่ได้ กรงกระรอกมันอยู่ข้างในตัวเครื่องมิดชัดเลย
ต้องรื้อเยอะ
สรุปช่างทั่วไปล้างแอร์แบบนี้ไม่เป็น
กำ T _ T
ผมว่าน่าจะติดต่อช่างพานาเท่านั้นแหละมาล้าง
ทนใช้มาสักสองเดือน
ไม่ไหว มันไม่เย็นเท่าที่ควร ไม่ฉ่ำเหมือนตอนแรกๆเลย
ผมก็เลยหาทางถอดออกมาล้างเองเสียเลย
(เดี๋ยวจะบอกว่าถอดยังไง)
พอถอดออกมา ปรากฏว่า ฝุ่นข้างในเต็มเลยครับ
โดยเฉพาะตรงกรงกระรอก
สรุปมันก็ต้องล้างแอร์เป็นประจำอยู่ดีแหละ
มันไม่เกี่ยวว่าจะมีตัวกำจัดฝุ่นหรือเปล่า
เป็นความคิดอันโง่เขล่าของผมเอง 555555 ที่ว่ามันจะล้างแอร์น้อยลง
แอร์ Panasonic Sky Series รีวิว
ตอนนั้นเลือกขนาดประมาณ 9000 BTU เพราะของเดิมติดขนาด 13000 BTU ก็เย็นมากแล้ว
ความคิดตอนตัดสินใจซื้อ
- ค่า Seer 24.40 เสียค่าไฟต่อปี 4,000 บาท ต่อปี โอ้แม่เจ้า
- มีระบบ ฟอกอากาศแบบ นาโนอี ทำลายอนุภาคฝุนได้
เลยคิดว่าซื้อมา มันน่าจะดีนะ อาจจะทำให้ไม่ต้องล้างแอร์บ่อย เพราะฝุ่นคงไม่มี (คิดผิดถนัด)
- เทคโนโลยีใหม่ เป่าลมเย็นขึ้นข้างบน ทำให้รู้สึกเย็นแบบธรรมชาติ
- ดูรูปลักษณ์แล้วก็ดูดี เก๋ ทันสมัย
พอซื้อมาใช้จริงๆ
- ประหยัดค่าไฟลงไปเยอะพอสมควร เทียบกับแอร์ตัวเดิม
- เครื่องก็เงียบพอสมควร สามารถ เลือก พัดลมเป่า แบบ Auto มันก็จะเงียบกว่าการตั้งค่าให้มันเป่าลมแรงๆตลอดเวลา
และก็มี เลือกอีกค่าคือ Quiet ก็จะเงียบกว่าอีก
แต่ ก็ต้องแลกมาด้วยกับอะไรบางอย่าง คือ
ถ้าคุณอยู่ไกลเครื่องปรับอากาศซัก สี่เมตร ลมเย็นอาจจะพัดไปไม่ถึง ต้องเปิดพัดลมโคจรช่วยเพื่อกระจายความเย็น
- เรื่องรีโมท รู้สึกไม่ประทับใจมากๆ เพราะ กดสั่งงานไม่ค่อยติด ต้อง หันรีโมทไปโดน ตัวแอร์จริงๆมันถึงจะรับคำสั่ง บางทีหันไปทางแอร์แล้ว
แต่ไม่ได้มุมที่ถูกต้อง มันก็ไม่รับคำสั่งเหมือนกัน เหมือนต้องจ่อให้โดน ตัวรับอินฟาเรดเป๊ะๆ
ไม่เหมือน รีโมท ซัมซุง หันไปทางไหนกดไป ก็โดน
- ในเครื่องปรับอากาศทั่วๆไปเขาจะมีให้เราเลือกเปิดเฉพาะ พัดลมในตัวแอร์ โดยที่ คอนเดนเซอร์แอร์ไม่ทำงาน
ส่วนในแอร์ตัวนี้มันไม่มีระบบเปิดแต่พัดลม ครับ
มันจะมีระบบ นาโนอีจี มาแทน คือ เวลาเปิดแต่ระบบนาโนอีจี เครื่องมันจะทำงานเหมือนเปิดแต่พัดลมเท่านั้น ไม่ได้ ให้คอนเดนเซอร์ทำงาน
ขณะเดียวกัน นาโนจี ก็ทำงาน เพื่อฟอกอากาศด้วย
เจ๋ง..
แต่ปัญหาคือ ปรับความแรงของลมไม่ได้ ปรับให้ทิศทางลมส่ายไปส่ายมาไม่ได้
กำจริงๆ T _ T
- หลงกดปิดเครื่อง อันนี้เป็นปัญหาเหมือนกัน
เพราะ การเปิดหรือปิดเครื่องแต่ละครั้ง มันจะมีลีลา นิดหนึ่ง คือตรงช่องเป่าลม มันจะมีแผ่นอันหนึ่งปิดช่องนั้นเวลา เครื่องปิด
หรือตอนเปิด ฝาปิดอันนั้นมันก็จะเปิดออกมา แต่คราวนี้กว่ามันจะเปิดหรือมันจะปิด มันจะต้องเซ็ตตัวเองโดยใช้เวลาอยู่พอสมควร
มันจะไม่เหมือนเครื่องปรับอากาศทั่วไปที่คุณกดปิด แล้วที่เครื่องปรับอากาศจะดังตี๊ด แล้วก็ปิดทันที
คราวนี้ถ้าคุณเผลอไปกดปิดมันโดยบังเอิญ แล้วคุณจะรีบสั่งให้มันเปิดขึ้นมาใหม่ทันที ก็ทำไม่ได้
-ไม่มีอุณหภูมิบอกที่ตัวเครื่อง
ที่เครื่องไม่มี อุณหภูมิ บอกว่า ตอนนี้ ตัวเครื่องมันทำความเย็นอยู่ที่ กี่องศาแล้ว
สมมุติ เราตั้งไว้ที่ 25องศา แต่ที่ตัวเครื่องมันอาจจะยังอยุ่ที่ 27องศาก็ได้
- หน้าจอรีโมท มีแสงไฟส่องให้ดูได้ตอนกลางคืนด้วย
เป็นสิ่งที่ดีมาก ที่มีแสงที่หน้าจอรีโมท
แต่ปัญหาคือ ตอนกลางคืน หยิบมาดูมืดๆ มันจะเปิดแสงก้อต่อเมื่อเรากด ปุ่มอะไรก็ได้บนรีโมท
แล้วโดยธรรมชาติเราก็จะกดปุ่มแถวๆกลางๆรีโมท พอดี
พอกดไป ไฟหน้าจอรีโมทเปิด ปรากกว่า ปุ่มที่เรากดมันคือปุ่มกดปิด
แต่มันจะยังไม่ทำงานเพราะว่าเราไม่ได้จ่อรีโมทไปทางแอร์ใช่ไหมครับ
พอเราเห็นหน้าจอ แล้วจะสั่งกดคำสั่งอื่น หันรีโมทไปทางแอร์ แล้วกด พั๊ว..
โอ้แม่เจ้า เครื่องปิด
กำ T _ T
ต้องมารอมันเปิดใหม่ อีก
จริงๆที่ตัวรีโมท มันมีฝาปิดแบบสไลด์ลง
มันน่าจะทำฟังก์ชั่น เป็น สไลด์ฝาลงแล้วไฟหน้าจอรีโมทเปิดเน๊าะ จะเข้าท่ากว่า
-กับความคิดที่ว่า มีระบบกำจัดฝุนในอากาศ
เราก็เลยคิดว่า เครื่องมันน่าจะไม่มีฝุ่นจับมาก
ผ่านไปได้สัก 8 เดือน ก็ยังไม่ล้างแอร์เลย
เริ่มมีอาการแล้ว
เสียงดัง แล้วก็ไม่ค่อยเย็น
เลยให้ช่างแถวบ้านมาล้าง
ช่างมาดู
เปิดเครื่องออกมา ช่างหาพัดลมกรงกระรอกไม่เจอ
555555555555
ช่างบอกว่าล้างไม่ได้ กรงกระรอกมันอยู่ข้างในตัวเครื่องมิดชัดเลย
ต้องรื้อเยอะ
สรุปช่างทั่วไปล้างแอร์แบบนี้ไม่เป็น
กำ T _ T
ผมว่าน่าจะติดต่อช่างพานาเท่านั้นแหละมาล้าง
ทนใช้มาสักสองเดือน
ไม่ไหว มันไม่เย็นเท่าที่ควร ไม่ฉ่ำเหมือนตอนแรกๆเลย
ผมก็เลยหาทางถอดออกมาล้างเองเสียเลย
(เดี๋ยวจะบอกว่าถอดยังไง)
พอถอดออกมา ปรากฏว่า ฝุ่นข้างในเต็มเลยครับ
โดยเฉพาะตรงกรงกระรอก
สรุปมันก็ต้องล้างแอร์เป็นประจำอยู่ดีแหละ
มันไม่เกี่ยวว่าจะมีตัวกำจัดฝุ่นหรือเปล่า
เป็นความคิดอันโง่เขล่าของผมเอง 555555 ที่ว่ามันจะล้างแอร์น้อยลง