เรื่องเกิดจากว่าข้างบ้านเป็นแม่ค้าขายอาหารแล้วทุกวันเขาจะไปขายของที่ตลาดนั้นตลาดนี้ทุกวัน ปัญหาคือช่วงนี้มหาลัยปิดเทอมเลยกลับมาอยู่บ้านจึงมักจะถูกปลุกด้วยเสียงตะโกนคุยกันของป้าบ้านข้างๆกับป้าบ้านอยู่ข้างหน้า(เยื้องไปทางขวา)อยู่บ่อยๆ แม้แต่เสาร์อาทิตย์ก็เสียงดัง ซึ่งตรงที่เขายืนคุยมันคือหัวนอนเราและชั้น2เป็นบ้านไม้ชั้นล่างเป็นปูน(ทุกคนนอนชั้น2หมดยกเว้นพ่อที่นอนชั้นล่างหน้าต่างบานเกร็ดน่าสงสารกว่าเราอีก)เสียงมันดังมากกกกกกจนสะดุ้งตื่นเลย บางครั้งก็ล้างหม้อล้างกระบวยเสียงดังโครมครามแถมคุยกับคนนั้นคนนี้ที่ผ่านไปมาด้วยเสียงดังเหมือนเดิม(คุยกันจนกว่าจะล้างเสร็จหมด)
บ้านเรากับบ้านเขามันชิดกันมากห่างกันประมาณ1-2เมตรละมั้ง (ถนนเข้าซอยชิดขอบบ้านเราและบ้านเขาเลยค่ะ แคบประมาณนั้นและขนานกันไป) เพราะฉะนั้นเสียงมันจึงก้องมากก ซึ่งเรื่องนั้นไม่เท่าไหร่เพราะมันก็ประมาณ8โมงแล้ว แต่เรื่องโดนปลุกนี่คือโดนมาตั้งแต่เกิด นับไปก็20ปีแล้ว เมื่อก่อนเสียงดังตั้งแต่ตี4 ตอนนี้ก็เบาลงแต่มาตะโกนคุยกันตอน6โมงเช้าแทนไม่รู้กลืนนกหวีดลงไปหรือเปล่า เรารู้ว่ามันก็เช้าแล้วมันก็ต้องมีเสียงบ้างแต่คุยกันเหมือนคนปกติก็ได้ไงทำไมต้องตะโกน?? แล้วเป็นอยู่บ้านเดียวบ้านอื่นก็ทำกับข้างกับปลาปกติ เสาร์อาทิตย์พ่อแม่เราจะนอนให้เต็มอิ่มก็ไม่ได้นะ ต้องตื่น6โมงหรือ7โมงเช้าเหมือนเดิมแล้วมานอนกลางวัน2-3ชม.เอา จนตอนนี้หมอที่มาตรวจสุขภาพที่โรงงานบอกว่าแม่เป็นโรคพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อยทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
คนทำงานโรงงานไม่ค่อยได้นอนเต็มอิ่มนะคะ5-6วันที่ต้องตื่นไปทำงาน กว่าจะถึงบ้านก็เกือบ3ทุ่ม กว่าจัดแจงตัวเองและงานบ้านนั่นนี่ก็4-5ทุ่มแล้วดีที่ช่วงนี้เราอยู่บ้านก็พอได้ซักผ้าล้างจานช่วยผ่อนแรงไปบ้างนอน5ทุ่มตื่นตี5 ได้นอน6ชม.เองนะคะไม่ถึง8ชม.ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่รวมการสะดุ้งเพราะคนขับรถเข้าๆออกๆในซอยหรือเรียกหมา เล่นกับหมาตั้งแต่ตี5นะคะ(ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นรถของป้าข้างบ้านอีกนี่แหละค่ะ เป็นกิจการของสามี เอารถกะบะ3-4คันไปซื้อผักตลาดไทแล้วไปส่งตามร้านต่างๆ) แล้ววันเสาร์อาทิตย์ก็ยังเป็นแบบนี้ตลอดแม่เราที่สะสมมานานก็ป่วย พ่อเราตอนนี้อายุก็40กว่าจะ50ก็เริ่มมีอาการหงุดหงิดง่ายอารมณ์แปรปรวนจนคนรอบข้างสังเกตได้
ส่วนตัวเราโอเคกับเสียงรถหรือเสียงหม้อไหที่ต้องใช้ทำมาหากินนะคะถ้ามันไม่ดังจนเกินไป แต่ไอ้เสียงตะโกนคุยกันนี่ไม่เข้าใจค่ะ พอเราโมโหเริ่มบ่นเริ่มด่าลอยๆป้าแกก็คุยเสียงเบาลงนะ เลยงงว่า เอ้า!ก็ทำได้นิ ก็คุยได้ คุยรู้เรื่อง... แล้วตะโกนทำไม? เสียสุขภาพกันไปหมด แล้วบ้านเราอยู่ชิดสุดก็โดนเต็มๆอยู่บ้านเดียว ไม่รู้ว่าใครจะป่วยตามไปอีก สงสารพ่อแม่ค่ะ จะรีบเรียนให้จบหางานทำก็กลัวจะสายเกินแก้
ล่าสุดเมื่อเช้า6โมง ตะโกนคุยกันอีกแล้ว เราก็สะดุ้งตื่นและโมโหมาก ยอมรับว่าก็มีการด่าอยู่บ้าง ประมาณว่าเป็นบ้าเหรอ จะเสียงดังอะไรกันนักกันหนา หลังจากนั้นเราก็ทำใจดูทีวีส่งพ่อกับแม่ไปทำงาน ปิดประตู ไปตักข้าวกินป้าคนเดิมก็เดินผ่านหน้าต่างห้องครัวแล้วจงใจพูดใส่ว่า "สมน้ำหน้า!" .... ??????? แล้วก็เดินหนีไป... คืออะไร สมน้ำหน้าใคร สมน้ำหน้าอะไร สมน้ำหน้าที่ทำให้คนอื่นป่วย สมน้ำหน้าที่ทำให้คนอื่นสะดุ้งตื่นทุกวัน????? เหรอ? ด้วยความโมโหเราก็ตอบกลับไปว่า "เป็นบ้า?" แล้วจากนั้นก็เงียบไปแต่ก็ยังมีออกมาแว้ดๆอีกเป็นระรอก โชคดีที่ kerryมาส่งที่อุดหูทันเราเลยไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่แต่มันกันได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแถมปวดหูนิดๆด้วย
จากที่เล่ามาเราก็ได้เอาไปปรึกษาเพื่อนๆอยู่บ้าง ส่วนใหญ่ก็บอกให้อดทนให้พ่อไปคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย แต่มาลองคิดดูว่า พ่อเราเคยบ่นไปหลายรอบแล้วเขาเองก็รู้ตัว เราปิดเทอมอยู่บ้านเขาก็รู้ แต่ก็เหมือนเดิม ตะโกนคุยกันที่หัวนอน... ระหว่างวันก็เดินมาแซะเรื่อยๆแกล้งทำเป็นด่าหมา ถ้าเขาจะแก้ไขคงทำไปนานแล้ว เลยอยากได้วิธีแก้ไขทางกฎหมายหน่อยว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง สงสารพ่อกับแม่ เราเองก็พยามตั้งใจเรียนประหยัดค่าใช้จ่ายช่วยงานบ้านมากๆพ่อแม่กลับบ้านมาจะได้นอนเร็วๆ ยอมรับเราเองก็มีส่วนที่แย่ที่ใจร้อนชอบปากไวไปด่าเขาโดนด่ากลับก็โอเคอยู่ แต่เรื่องสุขภาพนี่ไม่ไหวจริงๆ เราพอจะทำอะไรได้บ้างไหมคะ
ข้างบ้านเสียงดังทุกเช้าจนสะดุ้งตื่นประจำทำยังไงดีคะ
บ้านเรากับบ้านเขามันชิดกันมากห่างกันประมาณ1-2เมตรละมั้ง (ถนนเข้าซอยชิดขอบบ้านเราและบ้านเขาเลยค่ะ แคบประมาณนั้นและขนานกันไป) เพราะฉะนั้นเสียงมันจึงก้องมากก ซึ่งเรื่องนั้นไม่เท่าไหร่เพราะมันก็ประมาณ8โมงแล้ว แต่เรื่องโดนปลุกนี่คือโดนมาตั้งแต่เกิด นับไปก็20ปีแล้ว เมื่อก่อนเสียงดังตั้งแต่ตี4 ตอนนี้ก็เบาลงแต่มาตะโกนคุยกันตอน6โมงเช้าแทนไม่รู้กลืนนกหวีดลงไปหรือเปล่า เรารู้ว่ามันก็เช้าแล้วมันก็ต้องมีเสียงบ้างแต่คุยกันเหมือนคนปกติก็ได้ไงทำไมต้องตะโกน?? แล้วเป็นอยู่บ้านเดียวบ้านอื่นก็ทำกับข้างกับปลาปกติ เสาร์อาทิตย์พ่อแม่เราจะนอนให้เต็มอิ่มก็ไม่ได้นะ ต้องตื่น6โมงหรือ7โมงเช้าเหมือนเดิมแล้วมานอนกลางวัน2-3ชม.เอา จนตอนนี้หมอที่มาตรวจสุขภาพที่โรงงานบอกว่าแม่เป็นโรคพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อยทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
คนทำงานโรงงานไม่ค่อยได้นอนเต็มอิ่มนะคะ5-6วันที่ต้องตื่นไปทำงาน กว่าจะถึงบ้านก็เกือบ3ทุ่ม กว่าจัดแจงตัวเองและงานบ้านนั่นนี่ก็4-5ทุ่มแล้วดีที่ช่วงนี้เราอยู่บ้านก็พอได้ซักผ้าล้างจานช่วยผ่อนแรงไปบ้างนอน5ทุ่มตื่นตี5 ได้นอน6ชม.เองนะคะไม่ถึง8ชม.ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่รวมการสะดุ้งเพราะคนขับรถเข้าๆออกๆในซอยหรือเรียกหมา เล่นกับหมาตั้งแต่ตี5นะคะ(ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นรถของป้าข้างบ้านอีกนี่แหละค่ะ เป็นกิจการของสามี เอารถกะบะ3-4คันไปซื้อผักตลาดไทแล้วไปส่งตามร้านต่างๆ) แล้ววันเสาร์อาทิตย์ก็ยังเป็นแบบนี้ตลอดแม่เราที่สะสมมานานก็ป่วย พ่อเราตอนนี้อายุก็40กว่าจะ50ก็เริ่มมีอาการหงุดหงิดง่ายอารมณ์แปรปรวนจนคนรอบข้างสังเกตได้
ส่วนตัวเราโอเคกับเสียงรถหรือเสียงหม้อไหที่ต้องใช้ทำมาหากินนะคะถ้ามันไม่ดังจนเกินไป แต่ไอ้เสียงตะโกนคุยกันนี่ไม่เข้าใจค่ะ พอเราโมโหเริ่มบ่นเริ่มด่าลอยๆป้าแกก็คุยเสียงเบาลงนะ เลยงงว่า เอ้า!ก็ทำได้นิ ก็คุยได้ คุยรู้เรื่อง... แล้วตะโกนทำไม? เสียสุขภาพกันไปหมด แล้วบ้านเราอยู่ชิดสุดก็โดนเต็มๆอยู่บ้านเดียว ไม่รู้ว่าใครจะป่วยตามไปอีก สงสารพ่อแม่ค่ะ จะรีบเรียนให้จบหางานทำก็กลัวจะสายเกินแก้
ล่าสุดเมื่อเช้า6โมง ตะโกนคุยกันอีกแล้ว เราก็สะดุ้งตื่นและโมโหมาก ยอมรับว่าก็มีการด่าอยู่บ้าง ประมาณว่าเป็นบ้าเหรอ จะเสียงดังอะไรกันนักกันหนา หลังจากนั้นเราก็ทำใจดูทีวีส่งพ่อกับแม่ไปทำงาน ปิดประตู ไปตักข้าวกินป้าคนเดิมก็เดินผ่านหน้าต่างห้องครัวแล้วจงใจพูดใส่ว่า "สมน้ำหน้า!" .... ??????? แล้วก็เดินหนีไป... คืออะไร สมน้ำหน้าใคร สมน้ำหน้าอะไร สมน้ำหน้าที่ทำให้คนอื่นป่วย สมน้ำหน้าที่ทำให้คนอื่นสะดุ้งตื่นทุกวัน????? เหรอ? ด้วยความโมโหเราก็ตอบกลับไปว่า "เป็นบ้า?" แล้วจากนั้นก็เงียบไปแต่ก็ยังมีออกมาแว้ดๆอีกเป็นระรอก โชคดีที่ kerryมาส่งที่อุดหูทันเราเลยไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่แต่มันกันได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแถมปวดหูนิดๆด้วย
จากที่เล่ามาเราก็ได้เอาไปปรึกษาเพื่อนๆอยู่บ้าง ส่วนใหญ่ก็บอกให้อดทนให้พ่อไปคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย แต่มาลองคิดดูว่า พ่อเราเคยบ่นไปหลายรอบแล้วเขาเองก็รู้ตัว เราปิดเทอมอยู่บ้านเขาก็รู้ แต่ก็เหมือนเดิม ตะโกนคุยกันที่หัวนอน... ระหว่างวันก็เดินมาแซะเรื่อยๆแกล้งทำเป็นด่าหมา ถ้าเขาจะแก้ไขคงทำไปนานแล้ว เลยอยากได้วิธีแก้ไขทางกฎหมายหน่อยว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง สงสารพ่อกับแม่ เราเองก็พยามตั้งใจเรียนประหยัดค่าใช้จ่ายช่วยงานบ้านมากๆพ่อแม่กลับบ้านมาจะได้นอนเร็วๆ ยอมรับเราเองก็มีส่วนที่แย่ที่ใจร้อนชอบปากไวไปด่าเขาโดนด่ากลับก็โอเคอยู่ แต่เรื่องสุขภาพนี่ไม่ไหวจริงๆ เราพอจะทำอะไรได้บ้างไหมคะ