หนึ่งวันสุดหรรษา แบกเป้ลุยเดี่ยวไปเชียร์ทีมชาติอิตาลีที่ตูริน

"ไปอิตาลีทั้งที ถ้าไม่ได้ดูบอลถึงขอบสนามก็เสียเที่ยวแย่สิ"

เสียงกระซิบจากก้นบึ้งหัวใจคอบอลกัลโช เซเรีย อา ดังขึ้นเป็นระยะ
ยิ่งเมื่อใกล้ถึงวันออกเดินทางมาอิตาลี เสียงนี้ก็ยิ่งดังขึ้น...ดังขึ้น....
ซึ่งถ้าหากไม่มีมันแล้วไซร้ กระทู้นี้ก็คงไม่เกิด
. . . . . . . . . .

ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว สมัยที่ขุนพล "อัซซูรี่" คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ผมยังเป็นละอ่อนหัดดูฟุตบอลอยู่ ครั้นเห็นทีมชาติอิตาลีได้แชมป์ ผมก็ตัดสินใจสมัครตัวเป็นกองเชียร์ทีมนี้ตลอดมา ประกอบกับความชื่นชอบประเทศ และวัฒนธรรมอิตาลีในด้านอื่นๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น ทำให้ผมเลือกเรียนภาษาอิตาเลียนเป็นวิชาเอกในระดับชั้นปริญญาตรีในที่สุด

มีค่านิยมในหมู่นิสิต/นักศึกษาที่เลือกเรียนวิชาเอกภาษาว่าควรจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเจ้าของภาษาเพื่อซึมซับทักษะความรู้ทางด้านภาษานั้นๆ ตัวผมเองก็หนีไม่พ้นค่านิยมดังกล่าว ร่ำร้องขอทุนจากบุพการีมาเรียนซัมเมอร์ที่เซียน่า (Siena) เมืองเก่าแก่ทางภาคกลางของอิตาลี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของภาษาอิตาเลียนที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน 

ตลอดเวลาที่รู้ว่าจะได้มาเรียนที่แดนมะกะโรนี ผมเสียดายที่ฟุตบอลสโมสรรูดม่านปิดฤดูกาลลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นเท่ากับว่าการที่ผมอุตส่าห์ผลาญเงินบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่ที่นี่นานกว่าหนึ่งเดือนนั้นจะไม่มีฟุตบอลให้ดู ถือเป็นเรื่องน่าเจ็บใจสุดๆ เหมือนมาเสียเที่ยวยังไงยังงั้น

กระทั่งวันหนึ่ง...ระหว่างที่ผมกำลังท่องโลกโซเชียลตามปกติอยู่นั้น ใครสักคนนำตารางแข่งของทีมชาติอิตาลีมาแจ้ง มีแมตช์หนึ่งที่สะดุดตาผมเป็นพิเศษ ราวกับถูกขีดด้วยไฮไลท์เรืองแสงสีรุ้ง รายละเอียดย่อๆของแมตช์นั้นมีอยู่ว่า

"คัดเลือกยูโร 2020 อิตาลี-บอสเนีย และ เฮอร์เซโกวีนา 11 มิ.ย.2019 สนามอลิอันซ์, ตูริน, อิตาลี"

ครั้นเห็นดังนี้ ผมก็แต้มไว้ในใจทันทีว่า "จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่าง ยังไงข้าก็ต้องไปดูแมตช์นี้ให้ได้ (แม้จะต้องโดดเรียนก็ตาม!)"

. . . . . . . . . .

ปัญหาด่านแรกที่ต้องเจอคือ "ไปยังไงล่ะ?" 

ในส่วนนี้ต้องขอแนะนำให้รู้จักกับสองตัวช่วยสำคัญ ผู้เป็นเสมือนพระโพธิสัตว์มาโปรดควายป่าหลงทางครับ ตัวช่วยเหล่านั้นได้แก่เว็บ StubHub และ FLiXBUS ซึ่งช่วยให้การผจญภัยครั้งนี้ลุล่วงไปได้สมความตั้งใจ (ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการโฆษณาให้กับพวกเขานะคร้าบ แค่บอกเล่าประสบการณ์เฉยๆ) 

ในยุคนี้การซื้อตั๋ว-จองบัตรออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อโลกทั้งใบเชื่อมต่อกันได้เพียงปลายนิ้วคลิก...ตอนที่ผมตัดสินใจจะไปดูยูโรรอบคัดเลือกนัดนี้ ผมมีเวลาเหลือแค่หนึ่งสัปดาห์ก่อนออกเดินทางมาอิตาลี มีผู้รู้แนะนำให้ซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ StubHub แห่งนี้ เมื่อรูดการ์ดซื้อเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ได้ตั๋วออนไลน์ออกมาสมใจปรารถนาครับ

ปัญหาเรื่องการเข้าชมเกมก็จบไปด้วยประการฉะนี้...แต่ปัญหาที่ใหญ่หลวงกว่าคือการเดินทางครับ ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าเมืองเซียน่าที่ผมมาเรียนนั้นอยู่แคว้นทอสกานา บริเวณภาคกลางของประเทศ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากฟลอเรนซ์ ขณะที่เมืองตูริน ถิ่นฐานของทีมม้าลายยูเวนตุสอันเกรียงไกรนั้น เป็นเมืองหลวงของแคว้นปีเอมอนเต อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ใกล้ๆกับพรมแดนฝรั่งเศสโน่น

จุดนี้เองที่ FLiXBUS ได้ออกโรง...มาทำความรู้จักกับวีรบุรุษแห่งการท่องเที่ยวยุโรปคนนี้กันเถอะครับ

FLiXBUS เป็นบริษัทรถบัสสัญชาติเยอรมนี มีอายุกิจการไม่มากนัก ทว่าขยายเครือข่ายไปในหลายๆประเทศยุโรปรวมทั้งสหรัฐอเมริกาแล้ว เท่าที่เห็นผู้คนในอิตาลีก็นิยมสัญจรระหว่างเมืองด้วยรถยี่ห้อนี้ เพราะค่อนข้างจะสะดวกสบาย และเข้าถึงเมืองต่างๆได้ง่าย

กระนั้นก็ตาม การเดินทางจากเซียน่าไปตูรินก็ใช่จะง่ายดาย เพราะมันอยู่ห่างไกลกันมากอย่างที่ได้เล่าไปแล้ว ใช้เวลาเดินทางนานราว 8-9 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาพอๆกับขับรถจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ ซ้ำยังไม่มีรอบเวลาเดินทางที่ลงตัวสำหรับผม หลังจากที่คิดสะระตะจนถี่ถ้วนแล้ว ก็สรุปได้ว่าทางที่ดีที่สุดคือ "ขาไปออกจากเซียน่า ตี 1 วันที่ 11 เพื่อไปถึงตูริน 9 โมงเช้า ส่วนขากลับออกจากตูรินตี 3 ครึ่ง มาต่อรถที่มิลาน 3 ชั่วโมง เพื่อมาถึงเซียน่าบ่าย 3 โมง" ...ย้ำนะครับว่านี่คือหนทางที่ดีที่สุด หมายความว่าถนอมสุขภาพกระเป๋าสตางค์ที่สุดแล้ว

เมื่อจองทั้งหมดนี้สำเร็จแล้ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาเท่านั้น แน่นอนครับว่าผมรอจนเนื้อเต้น อยากไปดูทีมชาติอิตาลีใจจะขาด เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยดูฟุตบอลทีมชาติแข่งในต่างประเทศมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงกับนับวันรอว่าเมื่อไหร่หนอ 11 มิถุนายนจะมาถึงสักที 

. . . . . . . . . . 

วันออกเดินทาง

หรือที่ถูกควรจะเรียกว่า "คืนออกเดินทาง" นั้น ผมหยิบเสื้อทีมชาติอิตาลีชุดปัจจุบัน (2019) ที่เพิ่งซื้อมาสวม ชาร์จเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆให้เรียบร้อย แบกเป้ขึ้นบ่า แล้วเดินท่อมๆออกจากหอพักนิสิตที่เหมือนไม่เคยหลับใหลด้วยความรู้สึกกล้าๆกลัวๆ เพราะนี่เป็นการเดินทางไกลตัวคนเดียวครั้งแรก

บรรยากาศเซียน่ากลางดึก โชคดีที่ยังคึกคัก ไม่เปลี่ยวอย่างที่จินตนาการไว้

จุดเริ่มต้นของการเดินทางคือสถานีรถไฟกลางเซียน่าที่ชาวเมืองเรียกกันง่ายๆว่า "Stazione" หรือ "Station" นั่นเอง เป็นจุดสำคัญประจำเมืองที่รถบัสเจ้าต่างๆนิยมมาจอดรับส่งผู้โดยสารกัน ไม่แน่ใจว่าเมืองอื่นๆในอิตาลีเป็นแบบนี้หรือไม่ แต่ที่เห็นคือผู้คนรอรถเมล์จอแจทั้งคืน ไฟเปิดสว่าง ไม่ได้วังเวงเป็นป่าเช้าอย่างที่เคยหวั่นแต่อย่างใด 

FLiXBUS เที่ยวของผมมาดีเลย์กว่ากำหนดไป 20 นาทีเศษๆ และเมื่อขึ้นไปก็ถึงได้พบว่าความพับผ่าประการแรกของการเดินทางได้มาเยือน นั่นคือรถคันนี้ไม่มีเลขที่นั่งที่ผมจองมาตั้งแต่อยู่ไทย (เข้าใจว่าคงเป็นรถคนละรุ่นกัน) เลยต้องไปนั่งเบียดกับคุณพี่คนผิวสีตัวสูงยาวแขนขาเก้งก้างท่านหนึ่ง เขาขยับนิดขยับหน่อยก็โดนตัวผมแล้ว ระหว่างทางเลยนอนหลับไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ครับ แต่ก็พอถูไถ หลับๆตื่นๆมาได้ตลอดทาง

. . . . . . . . . .

ตูรินในวันนั้น

มาถึงตูรินก็เช้าแล้ว ขณะนั้นเป็นเวลา 9 โมงกว่าๆ เป็นวันที่อากาศดีมากครับ แดดร่มลมตก อุณหภูมิอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส ถือว่าไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินเหตุ เดินเที่ยวชมเมืองได้สบายครับ

จุดจอดรถของ FLiXBUS ในตูรินก็เหมือนกับรถบัสเจ้าอื่นๆคืออยู่ที่ถนน Corso Vittorio Emanuele II ชื่อถนนบ่งบอกโต้งๆว่าตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าวิตตอริโอ เอมมานูเอลเลที่ 2 แห่งราชวงศ์ซาวอย ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรอิตาลี ทั้งยังได้รับการถวายพระเกียรติให้ทรงเป็น "บิดาแห่งชาติอิตาลี" อีกด้วย 


เมืองตูริน (Turin) เรียกเป็นภาษาอิตาเลียนว่า โตรีโน่ (Torino) เป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เคยตกเป็นของฝรั่งเศส ต่อมาเมื่อมีการรวมชาติอิตาลี เมืองนี้ก็เปรียบได้กับศูนย์กลางการเคลื่อนไหวในการก่อตั้งประเทศ ทั้งยังได้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลีเป็นเวลาสั้นๆระหว่าง ค.ศ.1861-1864 ก่อนที่เมืองหลวงจะถูกย้ายไปที่ฟลอเรนซ์และโรมตามลำดับ 

เท่าที่ได้เห็นระหว่างการเยี่ยมชมมหานครแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งวันถ้วน ผมสังเกตว่าเมืองนี้แลดูจะภาคภูมิใจในความเป็นชาติอิตาลียิ่งกว่าเมืองอื่นๆ เพราะสิ่งปลูกสร้างประเภทอนุสรณ์สถานและอนุสาวรีย์ต่างๆ ดูมุ่งเน้นไปที่การรวมชาติอิตาลีทั้งนั้น รูปปั้นทหารกล้าและบุคคลสำคัญสมัยนั้นพบได้ดาษดื่นทั่วเมือง แม้กระทั่งกรุงโรมที่เป็นเมืองหลวงปัจจุบันก็ยังมีไม่มากเท่าตูริน

เนื่องจากมีเวลาเที่ยวหนึ่งเกือบวันเต็ม ผมเลยใช้เวลาช่วงกลางวันทั้งหมดไปกับการดื่มด่ำประวัติศาสตร์ชาติอิตาลี เข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวง (Musei Reali) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของพระเจ้าวิตตอริโอ เอมมานูเอลเลที่ 2 และพิพิธภัณฑ์การรวมชาติ (Museo del Risorgimento) ที่บอกเล่าความเป็นมาของกระบวนการรวมชาติอิตาลีที่ดำเนินไปด้วยความยากลำบาก แต่เนื่องจากกระทู้นี้มุ่งเน้นไปที่ฟุตบอล จึงต้องขอข้ามส่วนเหล่านี้ไปนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวกลายเป็นกระทู้วิชาการไปซะก่อน
ความตะลึงอย่างแรกที่ผมต้องพบตอนอยู่ตูรินคือ รอบตัวผมไม่มีใครใส่เสื้อทีมชาติอิตาลีเหมือนผมเลยแม้แต่คนเดียว ในทางตรงกันข้าม แฟนๆบอสเนียเยอะมาก เดินขวักไขว่เต็มเมืองไปหมด ซึ่งจุดนี้ก็พอเป็นที่เข้าใจได้ เพราะนี่เป็นวันธรรมดา แฟนบอลเจ้าถิ่นน่าจะยังทำงานทำการกันอยู่ ขณะที่แฟนบอลทีมเยือนลางานมาแล้ว ก็คงต้องถือโอกาสเที่ยวให้หนำใจเหมือนกับผมที่โดดเรียนมากระมัง (อิอิ) 

หลายครั้งที่พบปะแฟนบอสเนีย พอเห็นผมใส่เสื้ออิตาลี ฟากกระโน้นเขาก็มีการหยอกพอหอมปากหอมคอ เช่น บอกว่า "Forza Bosnia" ซึ่งผมก็เพียงแต่ตอบโต้กลับไปด้วยการยิ้มให้อย่างละมุนละม่อม และบอกว่า "Good luck for today's game" เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแก่กันได้ดีนัก ถือเป็นความชื่นมื่นสมานฉันท์ของกองเชียร์ต่างทีมครับ

ล่วงเข้าบ่ายแก่ๆ ก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องหยุดเที่ยวชมเมือง เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่แท้จริงของวันนี้ซะที นั่นก็คือสนามยูเวนตุส ซึ่งใช้เป็นสังเวียนชิงตั๋วไปแข่งชิงแชมป์ยุโรปรอบสุดท้ายในปีหน้า

สนามยูเวนตุส (Juventus Stadium) หรือที่ปัจจุบันขณะเขียนกระทู้นี้เรียกชื่อตามสปอนเซอร์ว่า สนามอลิอันซ์ (Alianz Stadium) ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองทางตอนเหนือของมหานครตูริน ก่อนมาผมได้ศึกษาเส้นทางก่อนแล้วว่า ทางที่ดีที่สุดคือขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินมาที่สถานีแบร์นีนี (Bernini) จากนั้นนั่งรถรางสาย 9 ต่อไป ปกติแล้วในวันที่มีแข่ง รถรางสาย 9 จะเพิ่มส่วนขยายที่พาผู้โดยสารไปส่งถึงหน้าสนามเหย้าของยูเว่เลย

ผมคิดเอาเองว่าเมื่อมีรถรางสายนี้ ที่เหลือก็คงไม่ยากเย็นอะไรแล้ว หากลืมคิดไปว่าวันที่อะไรๆก็ทุลักทุเลตั้งแต่ออกเดินทาง ก็สามารถเกิดเหตุการณ์ "มารผจญ" ได้ทุกเมื่อเช่นกัน...

ก่อนอื่นขออนุญาตคั่นด้วยภาพสถานีรถไฟใต้ดินแบร์นีนี...รถไฟใต้ดินตูรินอายุพอๆกับรถไฟใต้ดินกรุงเทพครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่