สวัสดีค่ะ รบกวนขอคำแนะนำจากทุกคนด้วยนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าเราไปเช่าหอพักอยู่เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา จ่ายมัดจำและประกันรวม 15,000 บาท
เราอยู่จนครบสัญญา และขออยู่ต่อเป็นกรณีพิเศษเพิ่ม 1 เดือน เราย้ายออกวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
ก่อนทำสัญญาเราขออนุญาตเลี้ยงแมว ทางนิติยินยอมให้เลี้ยง แต่ในสัญญาระบุไว้ว่าห้ามเลี้ยงสัตว์
ทาง
ผู้ให้เช่าเองไม่เคยลงลายมือชื่อในสัญญาให้เช่า
เมื่อวานพี่ที่นิติติดต่อมาบอกว่า ค่าไฟที่ค้างไว้ประมาณ 8,000 บาท (เดือนละประมาณเกือบ 4 พัน) ค่าน้ำประมาณ 3,000 บาท
และโซฟาที่เสียหายเนื่องจากสัตว์เลี้ยง ถ้าจะบุโซฟาใหม่ราคาพอๆกับซื้อตัวหใม่ เจ้าของห้องเลยบอกว่าจะเก็บเรา 7,500 บาท
เพื่อซื้อโซฟาใหม่ซึ่งราคาจริง 7,500+ เท่ากับว่าเรามีส่วนต่างต้องจ่ายเพิ่มเติม
และทางนิติขอให้โอนเงินให้เขาก่อนเพื่อที่จะไปจ่ายค่าน้ำโดยไม่ระบุตัวเลขและไม่แสดงใบเสร็จชัดเจน
**เราไม่มีปัญหากับการจ่ายค่าน้ำ-ไฟนะคะ แต่ทางนิติไม่มีหลักฐานมาให้เลยไม่ได้จ่ายไป**
ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องค่าน้ำว่ามีใบเสร็จของประปามายอดที่ตู้ เราไปจ่ายอยู่ประมาณ 4 เดือน ถึงได้รู้ว่าต้องจ่ายกับนิติ ก่อนหน้านี้
เราอยู่เป็นบ้านเช่าเลยคิดว่าจ่ายกับประปาเหมือนกัน แต่นิติแจ้งว่าเราติดค่าน้ำอยู่ 4 เดือน ถึงได้รู้ว่าต้องจ่ายกับนิติ
สุดท้ายตกลงผ่อนผันว่า 4 เดือนแรกที่อยู่ไม่ต้องจ่าย โดยที่เราไม่ได้นำใบเสร็จการจ่ายเงินไปยืนยันเพราะทิ้งไปหมดแล้วค่ะ
ในห้องพักที่เราอยู่มีโซฟา 2 ตัวในห้องนอนกับห้องนั่งเล่น เราไม่คิดว่ามันเสียหายขนาดที่ต้องเปลี่ยน แต่ถ้าต้องเปลี่ยนเรายอม
รับได้แค่ตัวเดียว เพราะเราเห็นอยู่ว่าน้องแมวเล่นไว้หนักอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เราอยู่ต่างจังหวัดและไม่มีหลักฐานยืนยันได้เลย
ซึ่งเราคิดว่าการเก็บเงินจำนวน 7,500 บาท เป็นการเก็บเกินจริงไปสักหน่อย เราแจ้งนิติให้คุยกับทางเจ้าของห้องเรื่องนี้แล้วค่ะ
เราอยากถามว่าทางผู้ให้เช่าสามารถซื้อเปลี่ยนใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งหรือตกลงกับกับเราให้เรียบร้อยก่อนหรอคะ
**เราไม่มีปัญหาในการจ่ายเพิ่มนะค่ะ แต่คิดว่ามันไม่ค่อยถูกต้องสำหรับเราเท่าไหร่
รูปนี้ถ่ายวันที่ 31/5/62 ก่อนออกเลยค่ะ

รบกวนด้วยนะค่ะ
ขอคำปรึกษา อย่าว่ากันนะคะ (>/\<)"
เรื่องหอพักค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าเราไปเช่าหอพักอยู่เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา จ่ายมัดจำและประกันรวม 15,000 บาท
เราอยู่จนครบสัญญา และขออยู่ต่อเป็นกรณีพิเศษเพิ่ม 1 เดือน เราย้ายออกวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
ก่อนทำสัญญาเราขออนุญาตเลี้ยงแมว ทางนิติยินยอมให้เลี้ยง แต่ในสัญญาระบุไว้ว่าห้ามเลี้ยงสัตว์
ทางผู้ให้เช่าเองไม่เคยลงลายมือชื่อในสัญญาให้เช่า
เมื่อวานพี่ที่นิติติดต่อมาบอกว่า ค่าไฟที่ค้างไว้ประมาณ 8,000 บาท (เดือนละประมาณเกือบ 4 พัน) ค่าน้ำประมาณ 3,000 บาท
และโซฟาที่เสียหายเนื่องจากสัตว์เลี้ยง ถ้าจะบุโซฟาใหม่ราคาพอๆกับซื้อตัวหใม่ เจ้าของห้องเลยบอกว่าจะเก็บเรา 7,500 บาท
เพื่อซื้อโซฟาใหม่ซึ่งราคาจริง 7,500+ เท่ากับว่าเรามีส่วนต่างต้องจ่ายเพิ่มเติม
และทางนิติขอให้โอนเงินให้เขาก่อนเพื่อที่จะไปจ่ายค่าน้ำโดยไม่ระบุตัวเลขและไม่แสดงใบเสร็จชัดเจน
**เราไม่มีปัญหากับการจ่ายค่าน้ำ-ไฟนะคะ แต่ทางนิติไม่มีหลักฐานมาให้เลยไม่ได้จ่ายไป**
ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องค่าน้ำว่ามีใบเสร็จของประปามายอดที่ตู้ เราไปจ่ายอยู่ประมาณ 4 เดือน ถึงได้รู้ว่าต้องจ่ายกับนิติ ก่อนหน้านี้
เราอยู่เป็นบ้านเช่าเลยคิดว่าจ่ายกับประปาเหมือนกัน แต่นิติแจ้งว่าเราติดค่าน้ำอยู่ 4 เดือน ถึงได้รู้ว่าต้องจ่ายกับนิติ
สุดท้ายตกลงผ่อนผันว่า 4 เดือนแรกที่อยู่ไม่ต้องจ่าย โดยที่เราไม่ได้นำใบเสร็จการจ่ายเงินไปยืนยันเพราะทิ้งไปหมดแล้วค่ะ
ในห้องพักที่เราอยู่มีโซฟา 2 ตัวในห้องนอนกับห้องนั่งเล่น เราไม่คิดว่ามันเสียหายขนาดที่ต้องเปลี่ยน แต่ถ้าต้องเปลี่ยนเรายอม
รับได้แค่ตัวเดียว เพราะเราเห็นอยู่ว่าน้องแมวเล่นไว้หนักอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เราอยู่ต่างจังหวัดและไม่มีหลักฐานยืนยันได้เลย
ซึ่งเราคิดว่าการเก็บเงินจำนวน 7,500 บาท เป็นการเก็บเกินจริงไปสักหน่อย เราแจ้งนิติให้คุยกับทางเจ้าของห้องเรื่องนี้แล้วค่ะ
เราอยากถามว่าทางผู้ให้เช่าสามารถซื้อเปลี่ยนใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งหรือตกลงกับกับเราให้เรียบร้อยก่อนหรอคะ
**เราไม่มีปัญหาในการจ่ายเพิ่มนะค่ะ แต่คิดว่ามันไม่ค่อยถูกต้องสำหรับเราเท่าไหร่
รูปนี้ถ่ายวันที่ 31/5/62 ก่อนออกเลยค่ะ
รบกวนด้วยนะค่ะ
ขอคำปรึกษา อย่าว่ากันนะคะ (>/\<)"