ผมเพิ่งเริ่มงานใหม่ได้จะเกือบเดือนแล้วครับ ได้งานตำแหน่งที่ชอบและทุกอย่างราบรื่นดี ติดอย่างเดียวคือมีหัวหน้าที่ชอบทำเป็นเหมือนตัวเองรู้ว่าคนอื่นคิดยังไงตลอดเวลา คิดไปเองว่าคนนั้นจะคิดอย่างนั้นนู้นนี้โน้น
ครั้งแรกที่ผมเข้าไปนั่งฟังบรีฟงานกับทีม ผมก็นั่งมองหน้าพี่เขา แต่พอฟังไปได้สักพักพี่เขาก็เอามือมาโบกตรงหน้าแล้วพูดว่า
"ใจลอยไปไหน ไม่หือไม่อืออะไรเลย จ้องหน้าอย่างเดียว"
ผมก็บอกว่าไม่ได้ใจลอยครับ กำลังตั้งใจฟังอยู่ แล้วก็ทวนให้เขาฟังว่ากำลังพูดเรื่องอะไร
นางก็พูดว่า "พี่ดูแววตาก็รู้ว่ากำลังเหมอคิดเรื่องอื่นอยู่ ไม่ต้องมาแก้ตัว นี่กำลังจะเข้ารายละเอียดสำคัญแล้ว ถ้าไม่ตั้งใจฟังจะเอามาทวนเหมือนตอนเหมอเมื่อกี้ไม่ได้นะ " เอ่อออ เอาเข้าไปสิ ผมก็เลยได้แต่ยิ้มให้
สองวันต่อมาผมลาป่วยเพราะท้องเสีย ตอนโทรไปลาปรากฏว่าหัวหน้าเป็นคนรับ พี่แกก็บอกว่า ถามตรงๆเลยนะว่าลาไปสัมภาษณ์งานที่อื่นหรือเปล่า เพราะดูจากสีหน้าเวลาผมทำงานแล้วดูไม่มีความสุขเลย ดูเหมือนจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ให้รีบตัดสินใจนะ อย่ามาทำเหมือนบริษัทนี้เป็นแค่ทางผ่าน ผมก็บอกว่าท้องเสียจริงๆเดี๋ยวเอาใบรับรองแพทย์ไปให้ พี่ก็พูดว่าเดี่ยวนี้ไปคลีนิคบอกว่าท้องเสียแป๊ปเดียวก็ได้ใบรับรองแพทย์แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปหรอก ขอให้โชคดีกับสัมภาษณ์งานนะ แล้วก็วางสายไปเลย วันต่อมาก็เอาใบรับรองแพทย์ให้พี่แกดู พี่ก็ตอบมาแค่ "จ้าาาา" แล้วก็หันกลับไปทำงานต่อ
แล้วมันก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งนะสิครับ พี่แกดูเหมือนจะกังวลชอบคิดว่าคนอื่นนินทาแกลับหลังอยู่ตลอดเวลา
ผมคุยกับเพื่อนร่วมงานที่มาทำงานก่อนผมได้ไม่นานเท่าไรเรื่องวินที่นั่งเข้ามาทำงานว่าขี่เร็วและพูดจาไม่ค่อยดี ก็เลยพูดว่า "เบื่อมากที่ต้องมาเจออะไรอย่างนี้ทุกวัน ประสาท-" ซึ่งพี่หัวหน้ามาทันได้ยินผมพูดประโยคหลังพอดี
พอผมไปชงกาแฟคนเดียว พี่แกก็เข้ามาเรียบๆเคียงๆถามว่ายังโกรธไม่พอใจพี่แกเรื่องวันนั้นอยู่เหรอ ผมก็บอกว่าไม่มีอะไรครับพี่ ผมไม่เก็บเอามาคิดหรอก พี่แกก็ยืนยันว่าแกดูคนเก่ง อ่านคนออก ใครคิดอะไรแกสังเกตได้หมด บอกว่าเวลาผมคุยกับพี่เขาเหมือนแววตาผมมีอะไรบางอย่างเป็นกำแพงกั้นอยู่ มีอะไรก็มาบอกแกตรงๆ อย่ามานินทาว่าร้ายกันแบบนี้ ไม่ชอบ ไม่เกิดประโยชน์ (โอโฮ อะไรกันเนี่ย ตอนนั้นคือยากเลิกคิ้วใส่แกมาก) พี่แกบอกว่า ซินแสดูโหงวเฮ้งผมว่าเป็นคนขี้น้อยใจ ชอบคิดลบ อารมณ์อ่อนไหวง่าย (เพิ่งรู้ว่าผู้ชายอีกคนในห้องสัมภาษณ์งานคือสินแส!) แล้วพี่แกก็บอกว่าอย่าไปฟังเพื่อนคนนั้นให้มาก เขาชอบเอาแกมานินทา ซึ่งผมยังไม่เคยได้ยินเพื่อนคนนั้นนินทาใครเลย ผมก็ได้แต่ยืนยันกับแกไปว่าไม่มีอะไรจริงๆ พี่แกก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินไป
พี่หัวหน้าคนนี้แกต้องประเมินงานผมด้วย ผมก็กังวลอยู่ว่าแกจะไปเก็บอะไรมาคิดผสมปนเปกันจนกระทบกับการประเมินหรือเปล่า ผมก็ไม่อยากให้พี่แกมาค่อยจับผิดว่านินทาแกตลอดนะ พยายามอธิบายถามด้วยเหตุผล แกก็ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึก แกดูคนออก แกเชื่อ Sense ของแก
เราจะทำยังไงกับคนแบบนี้ได้บ้างครับ
ปล. หัวหน้าเป็นผู้หญิงสามสิบต้นๆครับ
มีวิธีรับมือกับคนที่ชอบคิดไปเองยังไงครับ
ครั้งแรกที่ผมเข้าไปนั่งฟังบรีฟงานกับทีม ผมก็นั่งมองหน้าพี่เขา แต่พอฟังไปได้สักพักพี่เขาก็เอามือมาโบกตรงหน้าแล้วพูดว่า
"ใจลอยไปไหน ไม่หือไม่อืออะไรเลย จ้องหน้าอย่างเดียว"
ผมก็บอกว่าไม่ได้ใจลอยครับ กำลังตั้งใจฟังอยู่ แล้วก็ทวนให้เขาฟังว่ากำลังพูดเรื่องอะไร
นางก็พูดว่า "พี่ดูแววตาก็รู้ว่ากำลังเหมอคิดเรื่องอื่นอยู่ ไม่ต้องมาแก้ตัว นี่กำลังจะเข้ารายละเอียดสำคัญแล้ว ถ้าไม่ตั้งใจฟังจะเอามาทวนเหมือนตอนเหมอเมื่อกี้ไม่ได้นะ " เอ่อออ เอาเข้าไปสิ ผมก็เลยได้แต่ยิ้มให้
สองวันต่อมาผมลาป่วยเพราะท้องเสีย ตอนโทรไปลาปรากฏว่าหัวหน้าเป็นคนรับ พี่แกก็บอกว่า ถามตรงๆเลยนะว่าลาไปสัมภาษณ์งานที่อื่นหรือเปล่า เพราะดูจากสีหน้าเวลาผมทำงานแล้วดูไม่มีความสุขเลย ดูเหมือนจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ให้รีบตัดสินใจนะ อย่ามาทำเหมือนบริษัทนี้เป็นแค่ทางผ่าน ผมก็บอกว่าท้องเสียจริงๆเดี๋ยวเอาใบรับรองแพทย์ไปให้ พี่ก็พูดว่าเดี่ยวนี้ไปคลีนิคบอกว่าท้องเสียแป๊ปเดียวก็ได้ใบรับรองแพทย์แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปหรอก ขอให้โชคดีกับสัมภาษณ์งานนะ แล้วก็วางสายไปเลย วันต่อมาก็เอาใบรับรองแพทย์ให้พี่แกดู พี่ก็ตอบมาแค่ "จ้าาาา" แล้วก็หันกลับไปทำงานต่อ
แล้วมันก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งนะสิครับ พี่แกดูเหมือนจะกังวลชอบคิดว่าคนอื่นนินทาแกลับหลังอยู่ตลอดเวลา
ผมคุยกับเพื่อนร่วมงานที่มาทำงานก่อนผมได้ไม่นานเท่าไรเรื่องวินที่นั่งเข้ามาทำงานว่าขี่เร็วและพูดจาไม่ค่อยดี ก็เลยพูดว่า "เบื่อมากที่ต้องมาเจออะไรอย่างนี้ทุกวัน ประสาท-" ซึ่งพี่หัวหน้ามาทันได้ยินผมพูดประโยคหลังพอดี
พอผมไปชงกาแฟคนเดียว พี่แกก็เข้ามาเรียบๆเคียงๆถามว่ายังโกรธไม่พอใจพี่แกเรื่องวันนั้นอยู่เหรอ ผมก็บอกว่าไม่มีอะไรครับพี่ ผมไม่เก็บเอามาคิดหรอก พี่แกก็ยืนยันว่าแกดูคนเก่ง อ่านคนออก ใครคิดอะไรแกสังเกตได้หมด บอกว่าเวลาผมคุยกับพี่เขาเหมือนแววตาผมมีอะไรบางอย่างเป็นกำแพงกั้นอยู่ มีอะไรก็มาบอกแกตรงๆ อย่ามานินทาว่าร้ายกันแบบนี้ ไม่ชอบ ไม่เกิดประโยชน์ (โอโฮ อะไรกันเนี่ย ตอนนั้นคือยากเลิกคิ้วใส่แกมาก) พี่แกบอกว่า ซินแสดูโหงวเฮ้งผมว่าเป็นคนขี้น้อยใจ ชอบคิดลบ อารมณ์อ่อนไหวง่าย (เพิ่งรู้ว่าผู้ชายอีกคนในห้องสัมภาษณ์งานคือสินแส!) แล้วพี่แกก็บอกว่าอย่าไปฟังเพื่อนคนนั้นให้มาก เขาชอบเอาแกมานินทา ซึ่งผมยังไม่เคยได้ยินเพื่อนคนนั้นนินทาใครเลย ผมก็ได้แต่ยืนยันกับแกไปว่าไม่มีอะไรจริงๆ พี่แกก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินไป
พี่หัวหน้าคนนี้แกต้องประเมินงานผมด้วย ผมก็กังวลอยู่ว่าแกจะไปเก็บอะไรมาคิดผสมปนเปกันจนกระทบกับการประเมินหรือเปล่า ผมก็ไม่อยากให้พี่แกมาค่อยจับผิดว่านินทาแกตลอดนะ พยายามอธิบายถามด้วยเหตุผล แกก็ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึก แกดูคนออก แกเชื่อ Sense ของแก
เราจะทำยังไงกับคนแบบนี้ได้บ้างครับ
ปล. หัวหน้าเป็นผู้หญิงสามสิบต้นๆครับ