ผลงานทีมชาติ ผลงานสโมสร ผลงานสมาคม ว่าด้วยเรื่องวัฒนธรรมแห่งความสำเร็จ

หลังจาก 2 ทัวร์มาเม้นต์กระชับมิตรได้จบลงไป ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนบอกว่า นั่นระดับคิงส์คัพนะ
ไม่เล็กนะ แต่ถ้าว่ากันตามหลักสากล คิงส์คัพ ก็ไม่ใช่ทัวร์นาเม้นต์หลักนะครับ เรื่องนี้ต้องเข้าใจ

สองทัวร์นาเม้นต์นั้นจบลงด้วยความไร้แชมป์ ของทั้งทีมชาติชุดใหญ่ และชุด U23
พร้อมวิกฤติของสมาคมฟุตบอลไทย ในเมื่ออีกไม่กี่เดือนเราจะต้องเข้าโปรแกรม ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย
ที่กำลังจะเกิดขึ้นในต้นเดือนกันยายนแล้ว แต่สมาคมยังหาข้อสรุปเรื่อง โค้ชที่จะมาดูแล ทั้งทีมชาติชุดใหญ่ และU23 ยังไม่ได้เลย
ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ กำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่มาก ปัญหาหนึ่งของสมาคมชุดนี้เลยทีเดียว

แต่... จากไม่กี่ปีมานี้ ผมเข้าใจว่า โครงสร้างองค์กรที่ถูกสร้างใหม่ เพื่อความโปร่งใสนั้น มีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง
และดูเหมือนว่า ระบบใหม่นี้ สมาคมจะมีทีมงานที่จัดการเรื่องทีมชาติไทยอยู่โดยเฉพาะ ไม่ใช่ว่านายกสมาคมจะสามารถยุ่งอะไรได้โดยตรง
เหมือนแผนกในองค์กร ที่ผู้บริหาร ไม่สามารถเข้ามาล้วงลูกเองได้นั่นล่ะครับ ซึ่งที่จริงแล้วเราก็เห็นว่าเรื่องนี้ผู้บริหารมักไม่ชอบ

ในตอนนี้แม้ว่า ระบบบริหารของสมาคมจะดูโปร่งใส มีรูปธรรม และเป็นมืออาชีพมากขึ้นแล้วก็ตาม
แต่มันก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของแฟนบอลทีมชาติไทยได้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับในยุคของโค้ชซิโก้ได้
และยิ่งไปกว่านั้น ความไม่ลงตัวในส่วนของการบริหารทีมชาติ ที่ทำให้ทีมชาติไทยดูไร้ทิศทาง ก็ทำให้ทุกอย่างดูแย่ลงไปอีกมาก

ถึงขนาดที่หลายคนหันมาสนใจการขยายเวลาเตรียมทีม เวลาเก็บตัวทีมชาติ ก่อนลงแข่ง โดยมองว่าเราก็มีแนวทางแบบของเรา
ในเมื่อเราเก็บตัวแบบสากลแล้วมันให้คำตอบที่ดีไม่ได้ เราก็เก็บตัวแบบของเรา น่าจะให้คำตอบที่ดีกว่า
หรือแม้กระทั่ง ย้อนเอาระบบดรีมทีม กลับขึ้นมาใช้ เพราะเห็นเวียดนามทำแล้วประสบความสำเร็จ และเราก็เคยทำแล้วประสบความสำเร็จเช่นกัน
ซึ่งทั้งสองอย่าง ล้วนเป็นวิธีที่ดีที่สามารถดึงฟอร์มทีมชาติให้กลับขึ้นมาได้อีกครั้ง ในเวลาอันสั้น
แต่ทุกวิธีย่อมมีข้อดีข้อเสีย... แล้วทั้งสองอย่างนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน

ในที่นี้ผมของพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า "วัฒนธรรมองค์กร" ครับ
วัฒนธรรมองค์กรคือ แนวปฏิบัติ แนวคิด ความเชื่อ ที่คนในองค์กรมีร่วมกัน ในฐานะของการอยู่บน "สังคมจินตกรรมขององค์กร" เดียวกัน
มนุษย์เราอยู่ในระบบสังคม เราแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างมาก ในเชิงวิวัฒนาการ
ขณะที่สิ่งมีชีวิตอื่นบนโลก พยายามเอาตัวรอดด้วยการปรับตัว ปรับร่างกาย เพื่อให้เหมาะสมกับสิ่งแว้ดล้อม
จนกระทั่งการปรับตัวนั้นปรากฏบนหน่วยพันธุกรรม แต่ตลอด ห้าหมื่นปีของเผ่าพันธุ์มนุษย์
หน่วยพันธุกรรมเราไม่ได้เปลี่ยนแปลง เราที่ทะเลทราย และเราที่ไซบีเรีย ก็ไม่ได้ต่างกัน
เราไม่ได้พัฒนาขนหนามาปกคลุมร่างกาย เพื่อให้มีชีวิตรอดในไซบีเรีย
หรือเราไม่ได้พัฒนาระบบเก็บน้ำที่ทำให้เราไม่สูญเสียน้ำในร่างกาย เมื่ออยู่ในทะเลทราย
เราก็คือเราในทุกๆที่ที่เราไป ในตลอดห้าหมื่นปีที่ผ่านมา
และเราก็พัฒนาตนเองจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ตัดสินความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลก

อะไรคือสิ่งที่เราพัฒนา... แน่นอนว่า ไม่ใช่สมอง เพราะตลอด ห้าหมื่นปี เราไม่ได้มีสมองใหญ่ขึ้น
แต่เราพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า "สังคม" ที่มีหลักแหล่งบนจินตนาการของเราเอง
เราอยู่รวมกลุ่ม เราฝากตำนาน ฝากประวัติศาสตร์ ฝากความเชื่อ ฝากเรื่องราวมากมายไว้ในกลุ่ม
เพื่อส่งต่อมันให้กับคนในรุ่นถัดไป สิ่งนี้ทำให้เผ่าพันธุ์ของเราเติบโต

ความเข้มแข็งของกลุ่มนั้น มาจากแนวคิดตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อสร้างกลุ่ม เรื่องนี้สำคัญมาก
เพราะแนวคิดนี้สุดท้ายจะพัฒนากลายมาเป็น วัฒนธรรมของกลุ่มนั้น
ดังนั้นถ้าหากในวันที่ สมาคมฟุตบอลกำลังเริ่มสร้างองค์กร ที่มีความเป็นมืออาชีพ
และต้องการคงไว้ซึ่งแนวคิดความเป็นมืออาชีพนี้ ให้หยั่งรากลึกต่อไป
การยอมถอย เพื่อย้อนกลับมาใช้ระบบเก็บตัวที่ไม่เป็นสากล
การย้อนกลับมาใช้ระบบดรีมทีมที่เคยใช้มาแล้ว แล้วก็เลิกไปเพราะมันไม่มีอนาคต
แล้วเราจะได้สิ่งใดกันแน่ ถ้าวันนี้ทำได้ ในอนาคตก็จะทำอีกเรื่อยๆ
จนสุดท้ายมันจะไม่กลายเป็นวัฒนธรรมขององค์กรไปหรือไม่
แล้วแบบนั้นยังจะไปถามหาความเป็นมืออาชีพจากที่อื่นใดได้กันเล่า
และถ้าเปลี่ยนวัฒนธรรมนี้ไม่ได้ สิ่งที่สมาคมฟุตบอลทำมาหลายปีไม่สูญเปล่าหรือ
หากจะบอกว่า นักฟุตบอลไทยใจไม่สู้ ไม่วิ่ง แต่ถ้าสมาคมถอยกับเรื่องนี้
ทั้งๆที่มันคือเป้าหมายขององค์กร สมาคมก็ไร้ความพยายามมากว่านักเตะเสียอีกนะ

อยากบอกสมาคมฟุตบอลว่า ทำในสิ่งที่ถูกต้องเถอะครับ ถ้ามันจะทำให้องค์กรนี้เป็นมืออาชีพ และแข็งแกร่งได้ในอนาคต
แม้จะต้องเจ็บแต่ต้องทำครับ เพราะว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าต้องการให้ฟุตบอลไทยเป็นมืออาชีพ
การยอมถอยเพื่อผลงานระยะสั้น ราคามันจะแพงนะครับ เพราะมันจะคือบรรทัดฐาน คือสิ่งที่จะถูกส่งต่อไปให้คนรุ่นถัดไป
เมื่อนักเตะไทยต้องออกไปค้าแข้งในต่างแดน มันก็อาจจะสร้างปัญหาอีกรอบ
ดังนั้นสมาคมฟุตบอลจะต้องอดทน และทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้เป้าหมายระยะยาวประสบความสำเร็จครับ
อีกหกเดือนก็จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ คงต้องถามใจของท่านนายกสมาคมชุดนี้ล่ะครับ
ว่าอยากจะให้คนจดจำท่านในฐานะผู้วางรากฐานของสมาคมฟุตบอลอาชีพของไทยในแบบไหน...
เพราะตอนนี้ท่านกำลังวางบรรทัดฐานสำคัญที่มีผลต่อระบบในอนาคตของฟุตบอลไทยอย่างแน่นอนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่