▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวน้ำตก
เที่ยวจีน ภูเขาหิมะมังกรหยก ลีเจี่ยง ยูนนาน @จีน (ช่วงที่4)
เที่ยวจีน ภูเขาหิมะมังกรหยก-ลีเจียง ยูนนาน @China (ช่วงที่4)
หลังจากเสร็จเที่ยวหุบเขาเสือกระโจน พวกเราก็เดินทางกลับ #ลี่เจียง โดยรถบัส ที่เหมาไว้600หยวน เฉลี่ยตกคนละ50หยวน ตอน4โมงเย็น ใช้เวลาเดินทางถึง Old Town ลี่เจียง ตอน5โมงครึ่ง
สามารถดูรีวิว
Trekking หุบเขาเสือกระโจน ช่วงที่3 ได้ที่ลิ้งค์นี้
https://pantip.com/topic/38953451
รถบัสจอดส่งตรงตลาด ด้านท้ายเมือง Old Town เราเข้าทางด้านท้ายเมืองแทน แล้วหาที่พักแบบ walk in ซึ่งได้ราคาที่พักราว100หยวน ซึ่งที่นี้มีที่พักเยอะพอสมควร เพราะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
หลังจากเอาของเข้าห้องพัก ก็ออกไปเดินเที่ยวหาอะไรกินกัน จากการสังเกตุที่นี้จะมีระบบคู้คลองระบายน้ำไปมาอย่างเป็นระบบ
เดินกันจนมืด
ผมและดิ๋ม แยกตัวออกมาหาอะไรกินกันเอง โดยไปจบที่ ร้านหม้อไฟตรงท้ายเมืองเก่า ใกล้ตลาด ซึ่งเล็งไว้ตั้งแต่ตอนเดินเข้ามา
ที่นี้หม้อไฟขนาดเล็ก ราคา38หยวน แต่ถือว่าให้ของมาเต็ม เราสั่งผักเพิ่มอีก ตกเฉลี่ยอย่างละ 8-15หยวน มื้อนี้หมดไป63หยวน หลังจากท้องอิ่มก็เดินย่อยกันต่อ
ที่เมือง Old Town จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ5A พื้นทางเดิน และ ห้องน้ำที่นี้สะอาดมากๆ เพราะ มีพนักงานทำความสะอาดตลอดเวลา ถึงแม้เวลาจะเกือบ5ทุ่ม แต่ที่นี้ยังคงคึกคัก คืนนี้กว่าจะกลับมานอนก็เกือบเที่ยงคืน
:
#คลิปเที่ยง เมืองเก่าลีเจียง
https://youtu.be/ppXRQ460QHQ
:
#########
#คลิปvdo ภูเขาหิมะมังกรหยก แชงกรี-ล่า
https://youtu.be/ZzMGj5EZnS8
:
:
เช้าวันนี้ เรานัดที่จะเดินทางไป จุดชมวิว #ภูเขาหิมะมังกรหยก (4,680ม.) ตอน7โมงเช้า โดยเอาสัมภาระฝากไว้ที่พักก่อน เราจ้างรถtaxiแวน แบบนั่งได้6คน เหมาจาก Old Town เพื่อไปส่งและรอรับ ราคาตกคันละ200-300หยวน ใช้เวลาเดินทางถึงอุทยาน เกือบชั่วโมง
ช่วงแรกเสียค่าเข้า คนละ130หยวน แล้วเข้าไปด้านใน ก็ต้องซื้อตั๋วนั่งCable อีก คนละ180หยวน+ค่ารถบัสรับส่งในอุทยานอีก 20หยวน รวมเสียค่าเข้าทั้งหมด 330หยวน/คน
เข้าคิวเพื่อซื้อตั๋ว
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ ต้องเสียเวลาเข้าคิว อีกเกือบชั่วโมง กว่าจะได้ขึ้นรถบัสไปส่งยัง จุดขึ้นCable แล้วนั่งCable ไปอีกราว10นาที ใช้เวลาตรงนี้ไปเกือบ2ชั่วโมง
Cable..จะมาส่งเกือบถึง แล้วมีเดินขึ้นบันไดไม้อีกนิดหน่อย ด้านบนเราจะเห็น คนจีนรอบๆ ใส่เสื้อคลุมกันหนาวสีแดง บางก็เอากระป๋องอ๊อกซิเจนมาสูดกัน
ซึ่งตัวผมเองใส่แค่เสื้อยืดกับเสื้อกันลมเท่านั้น โชคดีที่ไม่ได้หนาวมาก แม้จะมีหิมะปกคลุมก็ตาม ผมกับดิ๋ม ค่อยๆเดินขึ้นไปเรื่อยๆ พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศระหว่างทางแบบไม่เร่งรีบ เพื่อที่จะได้ไม่เหนื่อยเกินไป
ระหว่างที่เดินก็จะเห็น นักท่องเที่ยวจีน ยืนหอบ และ ดูดอ๊อกซิเจนกันเป็นระยะๆ แต่วิวระหว่างทางส่วนใหญ่จะเหมือนเดิม ช่วงที่มาฟ้าไม่ค่อยเปิด ทำให้มองไม่เห็นยอดภูเขาหิมะมังกรหยกชัดสักเท่าไร
จนเดินมาถึงด้านบนสุด ใช้เวลาเดินขึ้นมา ราว10-15นาที คนอย่างเยอะ จะถ่ายรูปที่ก็ลำบาก วิวที่เห็น จริงๆก็ไม่ต่างจากที่มองเห็นระหว่างทางเดินขึ้นมาสักเท่าไร ด้านบนมีจำหน่ายเหรียญที่ระลึก อันละ80หยวน แต่ราคาอย่างแพง
เราอยู่ด้านบนได้ไม่นาน เลยเดินลงดีกว่าเนื่องจากคนเยอะ ขาลงก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย เพราะไหนๆ ก็เสียเงินมาแล้ว หลังจากนั่งCable ลงมา
:
:
เราก็ต่อรถบัส โดยพี่พีให้ลงที่จุดจอดระหว่างทาง แล้วเดินตามถนน เพื่อไปดู Blue Moon Valey ของ #ลี่เจียง ซึ่งจะเป็นภาพพื้นน้ำสีฟ้าใสมากๆ
แล้วเดินลัดเลาะถ่ายรูปไปตลอดทาง ซึ่งพี่พีบอกว่าให้เดินชมวิวไปเรื่อยๆจนสุด ที่ลานจอดรถ แต่ระหว่างทางที่นี้มีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันอย่างมาก เท่าที่เห็น น่าจะมีราว30คู่ได้
นอกจากสายน้ำที่ใสอมฟ้า กับมีน้ำตก โดยมีวิวภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลังอีก ขอบอกว่าสวยมากๆ เรียกว่าสร้างความประทับใจกว่า นั่งCableขึ้นไป ดูภูเขาหิมะมังกรหยกซะอีก
พอดีมีสะพานไม้ให้เดินข้ามไปอีกฝั่ง ผมกับดิ๋มเลยเดินเลาะข้ามไปอีกฝั่ง ซึ่งฝั่งนี้คนมาเดินน้อยกว่ามากๆ ไม่ค่อยมีคนมาเดิน จนเราเดินผ่านจุดขึ้นรถบัส ซึ่งจุดนี้จะมีสะพานปูนใหญ่ แต่ทางยังไม่สุด เพราะวิวสวย เราจึงเดินแถมต่อจนไปจนสุดที่ทางขึ้นรถรับส่งไฟฟ้า
เรานั่งรอพี่พี กับเพื่อนๆอยู่สักพัก คิดว่าคงไม่ไช่จุดนัดแน่ๆ จึงโทรหาพี่พีว่ามาถึงไหนกันแล้ว พี่พีบอกว่า รอที่จุดขึ้นรถบัส ผมกับดิ๋มจึงเดินย้อนกลับไป ที่จุดขึ้นรถบัส ซึ่งเพื่อนๆก็นั่งกินเบอร์เกอร์ระหว่างรอผม แล้วนั่งรถบัสกลับลงมา
########