แล้วสิ่งที่เราเจอคืออะไร

                                                        สวัสดีค่ะหลังจากที่เราซุ่มอ่านเรื่องของคนอื่นมานานและคิดว่าจะมาเขียนเล่าประสบการณ์ที่เราเคยเจอมาบ้าง ต้องเล่าย้อนไปเมื่อ2-3ปีที่แล้วเราได้ตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวประเทสลาวกับเพื่อนอีกคนนึงสมมุติว่าชื่อเอ ซึ่งเราและเอเป็นผญด้วยกันทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าเราจะเดินทางโดยการนั่งรถไฟชั้น3ไปลงหนองคาย และนั่งรถข้ามไปฝั่งลาว โดยเราได้จองที่พักไว้ในแอปจองที่พักในเวียงจันทร์คืนนึง เราก็ได้เลือกจองไว้แล้วตอนที่อยู่บนรถไฟโรงแรมเป็นโรงแรมไม่น่าต่ำกว่า4ดาว ราคาแค่ประมาณ300กว่าบาทไทย ซึ่งเราเป็นคนจองเองเพราะเราชอบจะได้เห็นห้องและดูบรรยากาศเนื่องมาจากเราเป็นคนขี้กลัวมากแต่ดันชอบเดินทาง และทุกครั้งที่เราต้องไปนอนค้างที่ไหนก็ตามเราก็จะนอนไม่หลับ บางทีหลับไปก็จะฝันแปลกๆบางทีฝันถึงคนตายไปแล้วที่เรารู้จัก หรือใครก็ไม่รู้มาชวนไปนู้นไปนี่เป็นประจำ ที่เราเลือกโรงแรมนี้เพราะห้องดูโปร่งไม่ทึบและลักษณะเป็นห้องใหญ่เป็นห้องแฟมลี่มี2เตียงมีใหญ่และเตียงเล็กอยูาใจกลางเมืองจากดูในแผนที่ เมื่อเราเดินทางถึงเวียงจันทร์เราก็ไปซื้อซิมมาเปลี่ยนเพื่อจะเดินทางไปที่พักเองหลังจากมีคนมาเดินตามเล้าลือให้ขึ้นรถอย่างต่อเนื่อง เราและเอเดินแบกกระเป๋าแบคแพ๊คตามแผนที่ของโรงแรมแต่ก็หลงไปหลงมาถามคนที่นั่น3-4คนทุกคนบอกไปคนละทางเราทั้งคู่เดินวนไปวนมาจนเหนื่อยจนไอ้เอเพื่อนเรามันโมโหมันก็พูดขึ้นว่า "จองโรงแรมอะไรของเนี่ยโรงแรมร้างเปล่าหว่ะ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ" มันก็บอกเราว่าหาโรงแรมใหม่เหอะชั่งมันเหนื่อยแล้ว แต่เราไม่ยอมเพราะเราชอบห้องของโรงแรมนี่มากและราคามันก็ถูกจนเราและเอตกลงว่า โอเคไม่เดินมันแล้วเราจะยอมเสียเงินนั่งรถละกันหลังจากแบกกระเป๋าอยู่4-5ชั่วโมง เราทั้งสองคนก็ยอมโบกรถเพื่อให้คนขับรถรับจ้างพาไปโรงแรมโดยบอกชื่อโรงแรม สิ่งที่แปลกมากอย่างแรกคือคนขับที่เป็นคนในพื้นที่ก็ไม่รู้จัก ต้องจอดถามรถรับจ้างคันอื่นแต่ก็หาไม่เจอจ้าาาาา เราเลยพยายามหาเฟสบุ๊คโรงแรมแต่ก็หาไม่เจอเลยเข้าแอปที่จองตอนแรกมีเบอร์โทรบอก เราเลยให้คนขับรถโทรไปจนถึงพอเราไปถึงสิ่งแรกที่เราเห็นและตัดความแปลกใจในตอนแรกไปคือ โรงแรมเป็นโรงแรมใหม่เราจึงเข้าใจได้ว่าคนพื้นที่อาจจะยังไม่รู้ก็ได้ เราถึงโรงแรมประมาณ11โมงเค้าก็ให้เราเช็คอินเข้าห้องเลย ต้องบอกก่อนว่าเราเดินทางไปเที่ยวนอกประเทศครั้งแรกถ้าเกิดเป็นที่ไทยก็จะหลังบ่าย2 แต่ที่ลาวเราไม่รู้ว่ายังไงนะหรือเค้าเห็นเราเดินทางมาเหนื่อยรึเปล่าก็ไม่รู้ พนักงานก็มาดูแลเราอย่างดีให้แผ่นที่ช่วยยกของไปที่ห้อง พอถึงห้องพนักงานจะเปิดห้อง แต่ก่อนเปิดพนักงานได้เคาะประตู3ครั้งไอ้เอเพื่อนเรามันก็ตกใจแบบเคาะทำไมหว่ะ แต่อย่างที่บอกไปตอนแรกเราเดินทางบ่อยเราพอจะรู้ว่ามันเป็นเคล็ด เราก็ไปอธิบายให้มันฟังในห้อง ในห้องก็เหมือนในรูปเลยคือดีไอ้เอมันเดินไปสำรวจห้องน้ำแล้วอยู่ๆมันพูดออกมา"ใครเคาะไรหว่ะในห้องน้ำ" เราเลยพูดว่าห้องข้างๆเปล่าไม่มีไรหรอกตอนนั้นเราคิดว่าห้องข้างๆจริงๆ   ด้วยความที่เราเพลียเพราะเราไม่ได้นอนเลยบนรถไฟเราก็ตกลงกับไอ้เอว่า เราจะนอนพักผ่อนกันพอตื่นค่อยออกไปชมเมืองก่อนจะนอนเราก็เห็นไอ้เอมันเอาเสื้อผ้าออกมา กองไว้เตียงเล็กที่เราไม่ได้นอนกัน (เรากับเอจะนอนด้วยกันที่เตียงใหญ่) เราก็คิดในใจโอเคมันเอาของไปกองละเราจะไม่โยนเหรียญละกันเพระามันมีเตียงว่าง และเราก็ถือเคล็ดนะเคยอ่านๆมาบ้างว่าอย่าปล่อยเตียงว่างแต่พอเห็นเพื่อนมันกองเสื้อผ้าก็ใช้ได้เหมือนกัน ด้วยความเพลียเรากับเอก้หลับ หลับสบายมากแอร์เย็นเตียงนุ่มเรารู้สึกแฮปปี้มากคิดว่าคืนนี้นอนสบายแหละเพราะนอนไปไม่ฝันไม่ไรเลยนอนสบายยยย เราตื่นกันบ่าย2เช่าจักรยานปั่นชมเมืองดูลาดราวหาที่แฮงค์เอ้าท์กันคืนนี้ ชมวัดไปประตูไซเรากลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเพื่ออกไปเดินเที่ยวในตอนกลางคืน ระหว่างลงลิปไอ้เอมันก็พูดขึ้นมาว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราก็เลยพูดกลับไปว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราไม่ได้คิดอะไรกันก็หยอกล้อกันตามปกติ เรากับเอไปดื่มกันจนถึงประมาณ5ทุ่ม เราเมาพอสมควรเมื่อกลับมาถึงที่พักเราอ้วกแล้วก้หลับไปแต่ตื่นประมาณตี1ไอ้เอยังไม่นอน มันนั่งคอลไลน์กับน้องมันอยู่เราก็เลยไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำล้างหน้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่